วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทำไมคดีเกาะเต่า ตำรวจไทยจึงขาดความน่าเชื่อถือ ตอน 2






ผมถือว่า ผมเขียนบทความในเชิงติเพื่อก่อ เพื่อชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของตำรวจไทยในการทำคดีนี้ ซึ่งผมได้เขียนไปแล้วในบทความตอนแรก

ก่อนอื่น ๆ ผมขอ มโน อีกสักเรื่อง ในกรณีที่ ถ้าผมมีอคติกับตำรวจไทยและพยายามจะจับผิดตำรวจไทยมาก ๆ 

เหตุการณ์มโน เรื่องที่ 2 ของผม คดีเกาะเต่า

สมมุตินะสมมุติ

ตำรวจแอบไปหา DNA พม่าคนไหนก็ได้มา 2 คนก่อนล่วงหน้า ด้วยการให้คนแอบไปเก็บเส้นผมหรืออื่น ๆ ในห้องพักคนงานพม่ามา 2 คนที่ตำรวจหมายตาไว้หรือไม่หมายตาไว้ก็ตาม ตอนที่คนงานพม่าไม่อยู่ในห้องพัก

แล้วตำรวจค่อยแถลงว่า นี่คือ ผล DNA ที่พบในตัวเหยื่อเป็นคนร้าย 2 คน
หลังจากนั้นตำรวจแกล้งโง่ไปอีกสัก 1 อาทิตย์ แล้วค่อยจับพม่า 2 คนที่ตำรวจจัดเตรียม DNA ไว้ล่วงหน้าแล้ว มาแถลงอีกรอบว่า พม่า 2 คนนี้มีผล DNA ตรงกับ DNA อสุจิในตัวเหยื่อ

จบ มโน เรื่องที่ 2

--------------------------

ทำไมผมมถึงมโน เรื่อง DNA แบบนี้ เหตุเพราะ ผล DNA ตำรวจไทยเก็บเองฝ่ายเดียว รู้เห็นเองฝ่ายเดียว และผล DNA ก็ไม่ได้นำมาแถลงเป็นภาพ DNA ให้สาธารณชนร่วมรับรู้เลยว่า ผล DNA คนร้ายที่เก็บได้จากอสุจิในตัวเหยื่อมีหน้าตาการจัดเรียง DNAอย่างไร จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยเปิดเผย

และเชื่อว่าตำรวจไทยไม่ได้ส่งผล DNA ของคนร้ายให้ทางตำรวจอังกฤษร่วมรับรู้ตั้งแต่แรกด้วย จึงทำให้เกิดการไม่เชื่อถือหลังจากจับคนร้ายชาวพม่ามาได้

อีกทั้งในผล DNA ก็ไม่ได้บอกว่า นำมาจากอสุจิจริงหรือไม่ ?

เพราะในผลตรวจ DNA มันไม่ได้บอกนี่ว่าเอาวัตถุพยานชนิดไหนมาตรวจ อาจนำมาจากผม หรือ จากเลือด  หรือกระพุ้งแก้ม หรืออสุจิ หรืออื่น ๆ ก็ได้ เพราะผล DNA ไม่ได้ระบุได้ขนาดนั้น

ตำรวจอาจไปเอาผล DNA มาจากที่ไหนก็ได้ จากวัตถุพยานอะไรก็ได้ แล้วมาบอกเองเออเองว่า เป็นผล DNA จากอสุจิคนร้ายจริงไหม ? (หรือถ้าใครมีความรู้เรื่องนี้ว่า เราสามารถแยกแยะ DNA ว่าจากวัตถุพยานที่ตรวจต่างกันได้ กรุณาชี้แนะด้วย)

แล้วอสุจิคนร้ายมีแค่ 2 คนเท่านั้นจริงเหรอ ?? อาจมีมากกว่านั้นหรือไม่ ?

หรืออสุจิที่นำมาตรวจ ได้นำมาจากในตัวเหยื่อจริงหรือ ?? (สำหรับคนที่มีอคติกับตำรวจไทยจะคิดแบบนี้)

ดังนั้น เพราะเป็นคดีสำคัญระหว่างประเทศ จะต้องทำให้โปร่งใสตั้งแต่แรก อย่างเช่น ควรให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมเข้ามาร่วมตรวจสอบศพเหยื่อด้วย หรือไม่ก็นำอสุจิที่เก็บได้ต้องได้รับการตรวจสอบจาก 2 สถาบันนิติวิทยาทั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและของกระทรวงยุติธรรมด้วย

และเมื่อจับผู้ต้องหาชาวพม่ามาได้ ก็ควรต้องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมตรวจสอบ DNA ไม่ใช่ให้สำนักนิติวิทยาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจเองอยู่ฝ่ายเดียว

เขาถึงบอกว่า คดีสำคัญ ๆ ควรมีหน่วยงานที่เป็นกลางหลายๆ หน่วยงานเข้าร่วมตรวจสอบ เพื่อคานอำนาจ และเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ

พอตำรวจไม่ทำในแบบที่ผมว่า มันจึงเกิดข้อครหาว่า ตำรวจรู้เองเออเองในผล DNA ฝ่ายเดียว มันจึงขาดความน่าเชื่อถือในผล DNA ที่ตำรวจอ้าง เพราะตำรวจไทยจับแพะมาหลายคดี จนคนไทยเกิดความไม่มั่นใจในตำรวจไทยมาตลอด

โดยเฉพาะ ถุงยางอนามัยที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ตำรวจไทยเก็บ DNA ได้เฉพาะ DNA ของเหยื่อสาวได้เท่านั้น แต่กลับไม่สามารถหา DNA ของผู้ชายที่ใช้ถุงยางอันนี้ได้ นี่จึงเป็นข้อผิดสังเกตอย่างมาก

---------------

ทำไมทางการอังกฤษ และทางการพม่า จึงคลางแคลงใจ

ต้นเหตุที่ทางการอังกฤษ และทางการพม่ามีความคลางแคลงใจตำรวจไทยหลังจับผู้ต้องการชาวพม่าได้ ก็เพราะ

ในตอนที่เกิดคดีนี้ขึ้นใหม่ ๆ นายตำรวจบางนายได้ให้สัมภาษณ์พุ่งเป้าว่า คนร้ายอาจเป็นคนงานต่างด้าวบนเกาะ ตำรวจพูดทำนองว่า คดีนี้ไม่น่าจะใช้คนไทยก่อเหตุ

แล้วพอนำคนงานต่างด้าวบนเกาะมาตรวจ DNA ก็เกิดตรวจไม่พบผู้ต้องสงสัยเลย

แต่สุดท้ายกลับมาจับคนงานชาวพม่าได้ในที่สุด จึงเกิดข้อครหาว่า ตำรวจไทยตั้งธงไว้ก่อนแล้วหรือไม่ เพื่อปกป้องภาพพจน์คนไทย เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียหายด้านการท่องเที่ยวมากกว่าที่ควรเป็น

อีกทั้งการทำงานสะเปะสะปะในตอนแรกของตำรวจไทยจนน่าสงสัย (แนะนำไปดู ผบ.ตร.ตอบคำถามสื่อ ในคลิปบทความตอนแรก)

แถมกว่าตำรวจจะจับคนร้ายได้ก็นานเกินไป ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็นคนบนเกาะก่อคดี ก็น่าจะจับได้เร็วกว่านั้น จึงเกิดความเคลือบแคลงใจว่า ตำรวจเอาเวลาไปหาทางหนีทีไล่ให้ใครหรือเปล่า ??


แล้วพอนายนมสด ได้มาตรวจ DNA ตำรวจไทยกลับเชิญโรงพยาบาลมาร่วมตรวจมากถึง 4 โรงพยาบาล

ถามว่า แล้วทำไมไม่ตรวจศพเหยื่อนสาว กับตรวจผู้ต้องหาชาวพม่าทั้งสองคนแบบนี้บ้างล่ะ ??

เชิญมาหลาย ๆ หน่วยงานเพื่อความโปร่งใส เพราะคดีนี้สำคัญระหว่าง 3 ประเทศ



อีกทั้งตำรวจได้เคยแถลงข่าวในตอนแรกแล้วว่า DNA คนร้ายในตัวเหยื่อมีแค่ 2 คนเท่านั้น ซึ่งตำรวจไทยอ้างว่า ตรงกับผู้ต้องหาชาวพม่าทั้งสองคน

ดังนั้น นายนมสดมาตรวจ DNA ทำแป๊ะอะไร ในเมื่อโควต้า DNA คนร้ายมีแค่ 2 คนมันเต็มโควต้าไปแล้ว

ตำรวจไทยเห็นคนไทยโง่ใช่ไหม ?

มีคนถามผมว่า "ตกลง DNA ที่เก็บจากเหยื่อมีจริงไหม ?"

ผมจึงตอบไปว่า "ตำรวจก็ต้องตอบว่า มีจริง ขอเอาเกียรติและศักดิ์ศรีตำรวจไทยเป็นประกัน" 555555

และยังมีอีกหลายประเด็นที่ตำรวจไทยยังตอบไม่ได้ ลองดูคลิปจากไทยพีบีเอสดูครับ



คลิกอ่าน ทำไมคดีเกาะเต่า ตำรวจไทยจึงขาดความน่าเชื่อถือ ตอนแรก




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น