วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

มโนเบื้องลึกเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2015 สหรัฐอเมริกาใช้หวังผลการเมือง







เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่า การประกวดมิสยูนิเวิร์ส หรือ ประกวดนางงามจักรวาล ได้อยู่ภายใต้การบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีคนดังของสหรัฐอเมริกามาหลายปีแล้ว

แต่ปีนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศลงสมัครชิงชัยเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

แล้วเมื่อเดือนกันยายน 2558 ที่ผ่านมานี้เอง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขายกิจการประกวดนางงามจักรวาลให้แก่กลุ่มธุรกิจที่ชื่อว่า William Morris Endeavor หรือ WME ไปแล้ว

ดังนั้นการประกวดนางงามจักรวาล 2015 จึงอยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่ม WME เป็นครั้งแรก

กลับเข้ามาในประเด็นที่ว่า ทำไมถึงได้เกิดความผิดพลาดในการประกาศผลผู้ชนะเลิศได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส 2015 ได้ ?

ในตอนแรกพิธีกรผิวสี นายสตีฟ ฮาร์วีย์   ซึ่งทำหน้าที่เป็นพิธีกรการประกวดนางงามจักรวาลเป็นครั้งแรก ได้ประกาศให้มิสโคลัมเบีย ได้เป็นมิสยูนิวเวิร์ส 2015 ซึ่งทำให้โคลัมเบียได้กลายเป็นประเทศที่ 2 ในโลกที่สามารถได้ตำแหน่งนี้ 2 สมัยติดต่อกัน ต่อจากประเทศเวเนซูเอลา ที่เคยทำได้เป็นชาติแรก

หลังจากมิสยูนิเวิร์ส 2014 ซึ่งเป็นชาวโคลัมเบียเหมือนกันได้นำมงกุฏมาสวมให้มิสโคลัมเบียแล้ว มอบสายสะพายแล้ว มีการมอบดอกไม้แล้ว มีน้ำตาไหลแล้ว และมิสโคลัมเบียก็เดินโบกมือให้ผู้ชมและเพื่อนางงามด้วยกันแล้ว

แต่จู่ ๆ พิธีกรก็เดินออกมาประกาศขอโทษต่อผู้ชมว่า มีความผิดพลาดเกิดขึ้น เพราะที่ถูกต้องมิสโคลัมเบียคือรองอันดับ 1 ส่วนมิสฟิลิปปินส์ต่างหากที่เป็นนางงามจักรวาล แล้วพิธีกรก็ได้แสดงความโปร่งใสด้วยการโชว์ใบประกาศให้ผู้ชมได้เห็นว่า เขาได้ประกาศผิดพลาดจริง ๆ โดยในใบประกาศได้เขียนว่า มิสฟิลิปปินส์คือมิสยูนิเวิร์ส จริง ๆ

ช็อตนี้สร้างความงวยงงให้ผู้ชมทั้งในเวทีและงงกันไปทั้งโลก แล้วมิสยูนิเวิร์ส 2014 ก็ค่อย ๆ ไปถอดมงกุฏจากศีรษะมิสโคลัมเบีย มาสวมให้มิสฟิลิปปินส์แทน






ชมคลิปช็อตผิดพลาดในการประกาศตำแหน่งมิสยูนิเวืร์ส



---------------------------

ที่ผมตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐอเมริกาอาจใช้การประกวดนางงามจักรวาลครั้งนี้เพื่อผลทางการเมืองหรือไม่

มันมีข้อสังเกตตรง คำถามที่ถามมิสฟิลิปปินส์ในช่วง 5 คนสุดท้าย ที่ถามว่า คุณคิดอย่างไรที่สหรัฐอเมริกาจะขอตั้งฐานทัพในฟิลิปปินส์

ซึ่งมิสฟิลิปปินส์ ก็ตอบว่า "สหรัฐและฟิลิปปินส์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา เราเคยเป็นอาณานิยมของอเมริกัน และเรามีวัฒนธรรมของพวกเขาในประเพณีของเราจนถึงทุกวันนี้ ดิฉันคิดว่าฟิลิปปินส์พร้อมต้อนรับ และไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร"

ประเด็นนี้แหละครับ คือคำถามที่ถูกกำหนดมาแล้วว่าให้มาถามมิสฟิลิปปินส์แบบนี้

ซึ่งมิสฟิลิปปินส์ก็ตอบเอาใจเจ้าภาพการประกวด คือ สหรัฐอเมริกา อย่างดี ทั้ง ๆ ที่ถ้าคนฟิลิปปินส์ที่มีความชาตินิยมสักนิดอาจมองได้ว่า เธอยอมรับการเป็นขี้ข้าสหรัฐอเมริกาอย่างภาคภูมิใจ

และจุดนี้แหละครับ ที่ผมตั้งข้อสังเกตว่า มิสฟิลิปปินส์จะต้องชนะการประกวดในวันนี้เท่านั้น ไม่งั้นถ้าเธอกลับไปฟิลิปปินส์ ก็อาจกลายเป็นประเด็นดราม่าในฟิลิปปินส์ต่ออีก เพราะกระแสต่อต้านฐานทัพสหรัฐอเมริกาก็ยังมีพอควร

ในเมื่อมิสฟิลิปปินส์ อุตส่าห์ตอบแบบเอาใจเข้าข้างสหรัฐอเมริกาเต็มที่แบบนี้ ก็จำเป็นต้องให้เธอได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส 2015 ล่ะครับ ไม่งั้นกองประกวดก็แล้งน้ำใจไปหน่อย

แต่กรรมการกองประกวดดันหยิบใบประกาศผิด ซึ่งใบประกาศคงเตรียมไว้ล่วงหน้า 2 ใบ คือ ใบแรกให้มิสโคลัมเบียชนะ กับ อีกใบให้มิสฟิลิปินส์ชนะ พูดง่าย ๆ ว่า มีการล็อคผลไว้ล่วงหน้าแล้ว

แต่ประเด็นที่จะให้ใครชนะ มันขึ้นอยู่ที่ว่า มิสฟิลิปปินส์จะตอบคำถามเรื่องฐานทัพสหรัฐอเมริกาในฟิลิปินส์ว่าอย่างไร

หากมิสฟิลิปปินส์ตอบทำนองแบ่งรับแบ่งสู้ ตอบไม่ชัดเจนว่า เธอเห็นด้วยกับการที่มีฐานทัพสหรัฐอเมริกาในฟิลิปปินส์หรือไม่

เธอก็คงแพ้ ได้แค่รองอันดับ 1 ไป

แต่เผอิญมิสฟิลิปปินส์เธอตอบเอาใจกองทัพสหรัฐอเมริกาเต็มที่ ฉะนั้น จะให้เธอแพ้ได้แค่รองอันดับ 1 กลับบ้านไป ก็เท่ากับส่งเธอกลับไปให้เกิดกระแสดราม่าทะเลาะกันในฟิลิปปินส์อีก

แต่ถ้าเธอตอบเอาใจสหรัฐอเมริกาแล้วเธอยังได้เป็นมิสยูนิเวิร์สด้วย กระแสต่อต้านเธอ รวมทั้งกระแสต่อต้านฐานทัพสหรัฐอเมริกาในฟิลิปปินส์ก็คงเงียบลง และชัยชนะก็อยู่ในมือสหรัฐอเมริกาต่อไป

พูดง่าย ๆ ว่า สหรัฐอเมริกาจะให้เธอเป็นกระบอกเสียงเรื่องการขอตั้งฐานทัพสหรัฐอเมริกาในฟิลิปปินส์ต่อไป


ะนั้นสรุปดื้อ ๆ เลยว่า ตอนแรกที่ให้มิสโคลัมเบียชนะ เป็นเพราะกรรมการกองประกวดหยิบใบประกาศผิดซองครับ 5555

ใบประกาศผลใบแรกที่หยิบผิด ได้ให้มิสโคลัมเบียนเป็นนางงามจักรวาล



ก็ดูสิครับ ใบประกาศเขียนชัดเจนถึงตำแหน่งรองอันดับ 1 รองอันดับ 2 และตำแหน่งนางงามจักรวาลแยกไว้เป็นสัดส่วนอย่างดีขนาดนี้ แล้วพิธีกรมันจะโง่อ่านผิดได้อย่างไร


ใบประกาศที่นายสตีฟ ฮาร์วีย์ นำมาอ้างตอนหลังว่าเขาอ่านผิด



http://imgur.com/a/qbrv1

-------------------

สหรัฐอเมริกา ยังต้องการคงฐานทัพในฟิลิปปินส์ต่อไป เพื่อคานอำนาจจีน และเพื่อไม่ให้จีนมายึดเกาะที่เป็นปัญหาพิพาทกับฟิลิปปินส์และอีกหลายประเทศแถบนี้ได้ง่าย ๆ


ตัวอย่างผลโพลจากสื่อต่างประเทศแห่งนึง ได้ถามความเห็นว่า คุณเชื่อหรือไม่ที่สตีฟ ฮาร์วี่ จะประกาศผลผิดจริง ๆ (มีสื่อหลายแห่งก็ทำโพลแบบนี้เช่นกัน ผลก็ใกล้เคียงกัน)

ซึ่งความเห็นคนส่วนใหญ่กลับไม่เชื่อว่า นายสตีฟ จะประกาศผิด



เมื่อเช้าวันที่ 21 ธ.ค. 58 ผมได้ดูประกวดมิสยูนิเวอร์ส 2015 ตั้งแต่ต้นจนจบ

บอกตรง มิสไทยแลนด์ น้องแนทของเรา สวยกว่ามิสฟิลิปปินส์ หุ่นก็ดีกว่าเยอะ

แต่สิ่งหนึ่งที่เราแพ้ คือ ลักษณะความเป็นผู้นำครับ มิสฟิลิปปินส์ดูมีพลังแฝง แบบ...แบบต่อไป สามารถไปเป็นประธานาธิบดีหญิงได้เลย ประมาณนั้น (ตอบคำถามยังแนวการเมืองเลย)

และที่สำคัญมิสฟิลิปปินส์ เธอเป็นเต็ง 1 มาตลอดในผลสำรวจว่าใครจะได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส 2015 ครับ

ผมว่า ไม่แน่นะ นี่อาจคือ วิธีสร้างกระแสข่าวเรียกเรตติ้งทางอ้อมของการประกวดจากผู้จัดประกวดมือใหม่ เพราะหลัง ๆ คนที่มีกำลังซื้อสูงเริ่มสนใจพวกการประกวดนางงามน้อยลง

ยิ่งมิสเวิร์ล 2015 ก็เพิ่งจะประกวดไปก่อนหน้าไม่ถึงอาทิตย์เอง

ย้ำนะครับ ว่า บทความเขียนชื่อว่า มโน หมายถึง ลองคิดเล่น ๆ สนุก ๆ ครับ




วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

แตกประเด็นต่อจาก อ.เจษฏา กรณีมะละกอไทยถูกญี่ปุ่นตีกลับ






ากกรณี มะละกอไทยถูกญี่ปุ่นตีกลับเพราะมีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ จนเป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อนนั้น


ที่มาข่าว http://tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=3471


าจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ นักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในโลก ก็ได้ออกมาชี้แจงว่า ที่ญี่ปุ่นตีกลับมะละกอไทยนั้น ไม่ใช่เพราะญี่ปุ่นห้ามการนำเข้าผลไม้จีเอ็มโอ แต่เป็นเพราะผู้ส่งออกมะละกอไทยแจ้งว่า เป็นมะละกอปกติ แต่ญี่ปุ่นกลับตรวจพบว่ามีจีเอ็มโอปนเปื้อน ก็เลยถูกตีกลับ

แถมอาจารย์เจษฎา ยังบอกอีกว่า ญี่ปุ่นอนุญาตให้นำเข้ามะละกอจีเอ็มโอจากฮาวายมานานแล้วด้วย


http://imgur.com/ZlrUVCU

ถามว่า จริง ๆ แล้ว ประเด็นข่าวตีกลับมะละกอคืออะไรกันแน่ ?

ตอบว่า ประเด็นคือ ประเทศไทยเราตั้งใจจะส่งออกมะละกอธรรมดาปกติทั่วไป แต่ดันมีจีเอ็มโอมาปนเปื้อนโดยที่ผู้ส่งออกก็คงไม่รู้ว่ามะละกอถูกปนเปื้อน นี่สิคือ ปัญหา

ปัญหาต่อมา ก็คือ แล้วมะละกอจีเอ็มโอมันหลุดออกจากการทดลองออกมาปนเปื้อนกับมะละกอที่เกษตรกรปลูกเพื่อขาย เพื่อให้มนุษย์กิน เพื่อการส่งออกได้อย่างไร ??


ถามว่า ความเสียหายแบบนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ?

การที่อาจารย์เจษฎา บอกว่า ผู้ส่งออกไทยเราทำผิดกฎหมายเอง เพราะผู้ส่งออกดันไปแจ้งว่า ส่งออกมะละกอปกติ ไม่ใช่มะละกอจีเอ็มโอ นั้น

จึงทำให้ดูเหมือนว่าผู้ส่งออกไทย เกษตรกรไทยกลายเป็นฝ่ายผิดเสียเอง

ทั้ง ๆ ที่ ผู้ส่งออกมะละกอ และชาวสวนมะละกอ เขาคงไม่รู้หรอกว่า มะละกอที่เขาปลูกอยู่ดี ๆ นั้น จู่ ๆ จะมีเชื้อมะละกอจีเอ็มโอจากการทดลองของนักวิชาการไทยที่ทำงานรับใช้ให้ "มอนซานโต้" จะหลุดออกมาปนเปื้อนกับมะละกอของพวกเขา

ฉะนั้น ไอ้คนผิดตัวจริง  ก็คือ ไอ้คนทดลองปลูกมะละกอจีเอ็มโอนั่นแหละ ที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียหาย เสียเครดิต จากการส่งมะละกอปนเปื้อนจีเอ็มโอ


อนนี้รัฐบาลไทยเรา กำลังกำหนดนโยบายเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก เน้นขายอาหารปลอดสารพิษ เกษตรอินทรีย์ เกษตรวิถีธรรมชาติ เป็นจุดขาย

แต่การกระทำของหน่วยงานของรัฐบาลไทย และข้าราขการที่เป็นนักวิชาการของไทยเอง กลับทำเหมือนย้อนแย้งกันเองว่า ตกลงจะให้ไทยมีจุดยืนเรื่องเกษตรธรรมชาติ เกษตรอินทรีย์ แต่ดันสนับสนุนการทดลองพืชจีเอ้มโอที่เป็นอาหารของคนและสัตว์

ดูเหมือนไทยเราจะดำเนินนโยบายเหยียบเรือสองแคมซะมากกว่า



แล้วการอ้างว่า ญี่ปุ่นอนุญาตให้นำสินค้าจากพืขจีเอ็มโอเข้าประเทศได้นั้น ก็ต้องอธิบายให้ครบถ้วนว่า ญี่ปุ่นยังไม่อนุญาตให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอที่เป็นอาหารของมนุษย์และสัตว์ในญี่ปุ่นเด็ดขาดนะครับ ขอบอก

แม้ญี่ปุ่นจะอนุญาตให้นำเข้าผลผลิตจากพืชจีเอ็มโอได้ แต่ก็ต้องระบุให้ชัดเจนว่า จีเอ็มโอ GMOs และต้องติดเครื่องหมายหรือฉลากที่สินค้าให้ชัดเจนว่า เป็นผลผลิตที่มีจีเอ็มโอ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ตัดสินใจ

ในขณะที่ประเทศไทย ใครใช้พืชจีเอ็มโอมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสำเร็จรูป ก็ยังไม่ต้องระบุที่ฉลากว่า เป็นผลผลิตจากพืชจีเอ็มโอ




http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/23470/

ถึงแม้ว่า ญี่ปุ่นจะมีการปลูกพืชจีเอ็มโอเพื่อการค้า และทดลองปลูกพืชจีเอ็มบ้างแล้วในประเทศตัวเอง แต่ก็เป็นเพียงพืชจีเอ็มโอที่มนุษย์และสัตว์ไม่ได้บริโภคเป็นอาหาร เช่น ดอกไม้ หรือ  หรือการทดลองตัดแต่งพืชใบที่ให้ใบมากสามารถเพิ่มปริมาณออกซิเจนในอากาศได้มากขึ้น เป็นต้น


ย้ำอีกทีครับ ญี่ปุ่นแม้จะอนุญาตให้นำผลไม้ หรือผลผลิตจากพืชจีเอ็มโอเข้าประเทศได้ก็ตาม แต่ญี่ปุ่นยังไม่อนุญาตให้ปลูกพืชจีเอ็มโอที่เป็นอาหารสำหรับมนุษย์และสัตว์ในประเทศญี่ปุ่นนะครับ จำไว้ !!

ส่วนประเทศไทยก็เก่งเหลือเกิน อนุญาตให้ทดลองพืชจีเอ็มโอที่เป็นอาหารของมนุษย์หรือสัตว์ในประเทศตัวเองได้นานแล้วด้วย ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุมเฉพาะมารองรับ


ส่วนสหภาพยุโรป แม้จะอนุญาตให้มีการนำเข้าสินค้าจีเอ็มโอได้แล้วถึง 49 ชนิดซึ่งโดยมากเพื่อเป็นอาหารสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช หรือพวกฝ้าย แต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศในยุโรปที่ยังสงวนสิทธิไม่อนุญาตให้นำเข้าสินค้าจีเอ็มโอ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ออสเตรีย รัสเซีย และประเทศในกลุ่มยุโรปตะวันออก เป็นต้น

http://www.moac.go.th/ewt_news.php?nid=11724



งสัยพวกนักวิชาการของฝรั่งเศส รัสเซีย อิตาลี โง่เน๊อะ ไม่ฉลาดเก่งเหมือนนักวิชาการไทยเลย 5555

ขนาดประเทศฝรั่งเศสมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เต็มประเทศหลายสิบโรง แต่ดันกลัวพืชจีเอ็มโอซะงั้น !?? (มันเกี่ยวไหม?)


สำหรับประเทศที่อนุญาตให้นำเข้าผลิตภัณฑ์จีเอ็มโอได้ ก็ไม่ได้แปลว่า จะยอมให้ปลูกพืชจีเอ็มโอในประเทศตัวเองได้

อย่างเช่น ในสหภาพยุโรป มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้น ที่อนุญาตให้ปลูกพืชจีเอ็มโอในไร่เปิดตามปกติเพื่อการค้าได้ คือ สเปน โปรตุเกส โรมาเนีย สโลวาเกีย และ เชก เท่านั้น (ข้อมูลนี้ เฟสอาจารย์เจษ บอกเอง คลิกที่นี่)

ขนาดยุโรปยังกล้าปลูกพืชจีเอ็มโอ แค่ 5 ประเทศ แต่ไทยเราเจ๋งกว่า ปลูกมะละกอจีเอ็มโอในไร่เปิดนานแล้ว

แม้แต่อาจารย์เจษฎา ก็ยังสนับสนุนการปลูกพืชจีเอ็มโอในแปลงเปิดจริง ๆ

http://imgur.com/Kqtl3DY

---------------------

นายก ฯ รัสเซียประกาศแบน GMOs


นายกรัฐมนตรีรัสเซีย Dmitry Medvedev ประกาศเมื่อเร็วๆนี้ว่า รัสเซียจะห้ามการนำเข้าสินค้าGMO หรือสินค้าที่มีการดัดแปลงพันธุกรรม เพราะว่ารัสเซียมีที่ดิน หรือทรัพยากรธรรมชาติมากเพียงพอที่ผลิตอาหารหรือเกษตรอินทรีย์

"ถ้าคนอเมริกันอยากจะกินอาหารGMO เชิญตามสบาย แต่รัสเซียไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะว่าเรามีที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติเหลือเฟือที่จะผลิตอาหารอินทรีย์" นาย Medvedevกล่าว

ที่มา http://www.collective-evolution.com/2014/04/15/its-official-russia-completely-bans-gmos/


ปธน. ปูติน ประกาศต้องการให้รัสเซียเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารปลอดจีเอ็มโอที่ใหญ่ที่สุดโลก



ที่มาข่าว https://www.rt.com/business/324605-russia-putin-healthy-food/


-------------------

ประเด็นสำคัญเรื่องจีเอ็มโอของไทยคืออะไร ?

มว่า ตอนนี้ประเด็นหลักในตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บริโภคอาหารจีเอ็มโอปลอดภัย หรือไม่ ? เพราะบางทีกว่าเราจะรู้ว่า จะปลอดภัยหรือไม่นั้น อาจเป็นผลกระทบในรุ่นหลานเหลนโหลนภายหน้าอีก 30 ปีต่อจากนี้

คือ ไม่ได้กลัวว่ากินจีเอ็มโอแล้วจะตาย หรือจะป่วยในวันนี้พรุ่งนี้ปีนี้ปีหน้า

แต่มันอาจเป็นผลกระทบในระดับการเปลี่ยนแปลง DNA เช่น เกิดการกลายพันธุ์ของมนุษย์ จนถึงอาจกลายเป็นการสิ้นสุดของมนุษยชาติก็ได้ เพราะอาจกลายพันธุ์ไปเป็นพวกอมนุษย์ แทน 555 (ผมแค่คิดเล่น ๆ คุณผู้อ่านอย่ารีบซีเรียสล่ะ เอ๊ะ หรือทุกวันนี้มันก็กลายพันธุ์อยู่แล้ว)

"เผาพืชจีเอ็มโอเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง" อมนุษย์ตัวหนึ่งประกาศ


แต่ประเด็นสำคัญในปัจจุบันคือ ไทยเรายังไม่มี กฎหมายไทยเฉพาะเรื่องจีเอ็มโอ และที่กำลังจะมี ก็ดันเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติเสียอีก

คุณผู้อ่านก็น่าจะรู้ว่า กฎหมายไทยมักเน้นบังคับใช้เฉพาะคนจน

ตัวอย่างเช่น กฎหมายควบคุมมลพิษ หรือควบคุมน้ำเสียจากโรงงาน ไทยเรามีกฎหมายควบคุมเรื่องมลพิษมานานแล้ว

แต่ถามว่า เราก็ยังเห็นข่าวโรงงานปล่อยน้ำเสียลงคูคลองสาธารณะ หรือข่าวลักลอบนำกากของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมมาทิ้งในที่สาธารณะมาโดยตลอด จริงไหม ?

แล้วเคยหาคนผิดมาลงโทษได้รึยัง หรือ เคยเห็นเจ้าของโรงงานที่ปล่อยมลพิษสู่ที่สาธารณะ ติดคุกบ้างไหม ? 

โดยมากประชาชน ชาวบ้านมักเป็นฝ่ายเสียเปรียบโรงงานที่ปล่อยมลพิษตลอดจริงไหม และบางคดีชาวบ้านอาจเอาชนะคดีกับโรงงานได้ แต่กว่าจะได้รับค่าเสียหายก็ได้ไม่คุ้มเสีย เช่น กรณีสารตะกั่วปนเปื้อนในลำห้วยคลิตี้ เป็นต้น

แต่โดยมากชาวบ้านมักต้องก้มหน้ารับกรรมฟรี ๆ ทั้งนั้น เพราะเรื่องก็มักเงียบหายไปกับสายลม โดยที่ข้าราชการก็ไม่เอาใจใส่ดูแลช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง

กรณีหากมีการปนเปื้อนจีเอ็มสู่ไร่ธรรมชาติของเกษตรกร มันก็เข้าอีหรอบเดียวกันนั่นแหละเชื่อผมไหม ? บางทีเกษตรกรอาจเป็นหนี้จนตายก่อนจะเอาชนะคดีกับบริษัทยักษ์ใหญ่ได้

ฉะนั้นป้องกันไว้ก่อน ดีกว่าตามแก้ไขทีหลัง


แม้แต่เรื่องป่าไม้ ไทยเราก็มีกฎหมายป้องกันปกป้อง แต่เราก็ปกป้องป่าไม้ส่วนใหญ่เอาไว้ไม่ได้

ฉะนั้น เรื่องจีเอ็มโอ มันก็คล้าย ๆ เรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ นั่นแหละ ก็คือ ประชาชนไม่ไว้ใจว่าหน่วยงานของรัฐจะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนได้จริง

แล้วลองนึกในทางร้ายสุด ๆ ไว้ก่อนเช่น ถ้าต่อไป ข้าวไทย ถ้าพืชผัก และผลไม้ของไทยทุกชนิด มีการปนเปื้อนจีเอ็มโอจนหมด มันจะเกิดอะไรขึ้น !! ???


------------------------

คลิป มอนซานโต้ ฟ้องเกษตรกรข้าวโพดสหรัฐอเมริกาโทษฐานละเมิดลิขสิทธิ์

กรณี 1. เกษตรกรซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดมอนเซานโต้มาปลูกในรุ่นแรก แต่พอเกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์ที่เกิดขึ้นในไร่ตัวเองเพื่อไปปลูกในรุ่นต่อไป กลับถูกมอนซานโต้ฟ้องว่า เกษตรกรละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะเมื่อตรวจสอบเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดแล้ว เป็นพันธุ์เดียวกับที่มอนซานโต้ถือลิขสิทธิ์อยู่

เพราะกฎหมายสหรัฐอเมริกาเอื้อประโยชน์ให้มอนซานโต้


กรณีที่ 2. เกษตรกรคนหนึ่งปลูกถั่วเหลืองพันธุ์ปกติ แต่ไร่ข้าง ๆ ที่อยู่ติดกันปลูกข้าวโพดจีเอ็มโอของมอนซานโต้ แล้วละอองเกสรถั่วเหลืองจีเอ็มโอจากไร่อื่นลอยมาติดถั่วเหลืองพันธุ์ปกติของเขา จนเกิดการปนเปื้อน

เกษตรกรที่ปลูกถั่วเหลือง และ ข้าวโพดพันธุ์ปกติ ที่ถูกเกสรจีเอ็มโอลอยมาปนเปื้อน กลับถูกมอนซานโต้ฟ้องฐานละเมิดลิขสิทธิ์



กรณีเรื่องเกษตรกรเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไปใช้ปลูกในรุ่นต่อไป โดยคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ดีจากข้าวโพดหลาย ๆ รุ่น แล้วนำไปทดลองปลูก จนคัดได้เมล็ดพันธุ์ที่ดีที่สามารถนำไปปลูกเพื่อขายเมล็ดพันธุ์เพื่อการค้าได้

กลุ่มเกษตรกรไทยที่ขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดให้เกษตรกรด้วยกัน ก็โดนบริษัทยักษ์ใหญ่ของไทยฟ้องร้องแล้วเช่นกันว่า ละเมิดลิขสิทธิ์

-----------------------

อาจารย์เจษฎา อวด มีเกษตรกรตั้ง 18 ล้านคนทั่วโลกปลูกพืชจีเอ็มโอแล้ว 

อ.เจษฏา อวดมีเกษตรกรตั้ง 18 ล้านคนปลูกพืชจีเอ็มโอแล้ว

เอ่อ.. ตอนนี้โลกเรามีประชากรประมาณ 7 พันล้านคน ถ้า 1 ใน 3 เป็นเกษตรกร ก็เท่ากับจะมีเกษตรกรในโลกประมาณ 2 พันล้านคน กะอีแค่จำนวนเกษตรกรปลูกจีเอ็ม 18 ล้านคนทำคุย !!

แถมยังอวดอีกว่า บังคลาเทศก็ปลูกมะเขือยาวม่วงจีเอ็มโอแล้วด้วยนะ ขอบอก !!



http://imgur.com/a/TawD0

แต่ !! ฟิลิปปินส์กลับเลิกปลูกมะเขือยาวม่วงจีเอ็มโอแล้ว แถมห้ามนำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดัดแปลงพันธุกรรมแล้วด้วย ทั้ง ๆ ที่ฟิลิปปินส์สนิทสนมกับสหรัฐอเมริกามากกว่าไทยนะเนี่ย !!!  



ที่มาข่าว http://goo.gl/KRKgKG



ในปี 2556 ยุโรปตรวจพบมะละกอส่งออกของไทยมีการปนเปื้อนจีเอ็มโอมากเป็นประวัติการณ์



ที่มาข่าว http://www.biothai.net/node/19954

หลายวันก่อน คุณวิฑูรย์ แห่งมูลนิธิชีววิถี บอกในรายการช่วยคิดช่วยทำ ช่อง 3 ว่า ในปี 2015 มะละกอไทยเหลือส่งออกไม่ถึง 500 ตันแล้ว ทั้ง ๆ ที่ในปี 2011 ไทยเรายังเคยส่งออกมะละกอมากถึง 995 ตัน


ถามว่า เกษตรกรมะละกอไปฟ้องร้องคนทำการทดลองจีเอ็มหลุดออกมาภายนอกได้ไหม ?

ตอบ ฟ้องน่ะฟ้องได้ครับ แต่ชนะคดียาก !!  เพราะยังไม่มีกฎหมายอาญาไทยมาตราไหนที่เขียนตรง ๆ ว่า การปล่อยให้มีพืชจีเอ็มโอจากที่หนึ่งไปปนเปื้อนพืชปกติของชาวบ้าน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญา ฉะนั้น เมื่อในทางอาญายังเอาผิดยาก จะไปฟ้องร้องทางแพ่งต่อยากครับ แถมหน่วยงานรัฐเองด้วยที่ทดลองจีเอ็มโอ

มันก็เลยเป็นปัญหาในทุกวันนี้ ที่จะต้องมีกฎหมายเฉพาะมาควบคุมจีเอ็มโอ

-------------------------

อ.เจษฎา กลับไม่สนับสนุนการจีเอ็มข้าวไทย



อ้าว ไหงเป็นงั้น ?? 

ถ้าจีเอ็มแล้วได้ข้าวที่ต้านทานแมลงและโรค ทนน้ำท่วมก็ได้ ทนแล้งก็ยิ่งดี แถมปลูกอายุสั้นแต่ได้ปริมาณสารอาหารครบถ้วน มีคุณภาพดี กลิ่นหอมมะลิระบือไกล ไม่ดีเหรอ จารย์ ??


---------------------

อัพเดทข่าวล่าสุด นายกฯ สั่งยกเลิก พ.ร.บ.จีเอ็มโอแล้ว

นายกฯ ประยุทธ์ สั่งยกเลิกร่าง พ.ร.บ.จีเอ็มโอที่มีเนื้อหาสนับสนุนบริษัทยักษ์ข้ามชาติไปแล้ว

แต่ที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากจะเรียกร้องจา่กท่านนายกฯ ต่อไปอีกสักนิด ก็คือ ใช้มาตรา 444 ออกกฎหมายไปเลยว่า การทดลองและการปลูกพืขจีเอ็มโอ เป็นสิ่งผิดกฎหมายในไทย และผลิตภัณฑ์ที่ใช้พืชจีเอ็มโอในการผลิตก็ควรระบุบนฉลากอย่างชัดเจนว่า มี GMOs ด้วย


คลิกอ่าน นักศึกษาปริญญาเอกวิจัยพันธุ์ข้าวโพดจากแคนาดา เตือนไทยเรื่องพืชจีเอ็มโอ