วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

จากกระแสฟุตบอลไทยแพ้เกาหลี ไปจนถึงเกาหลีล้อเลียนติ่งไทย






ก่อนที่ฟุตบอลไทยจะเตะรอบรองชนะเลิศกับทีมชาติเกาหลีใต้ ผมก็เห็นคลิปรายการทีวีเกาหลีล้อเลียน คนไทยที่เป็นติ่งเกาหลี โดยให้ติ่งเกาหลีมีชื่อว่า ต้มยำกุ้ง



ผมไม่รู้ว่าในคลิปนี้ เกาหลีเขาล้อติ่งเกาหลีคนไทยยังไงบ้าง ถ้ามีใครไปทำซับไทยประกอบด้วยคงจะดี

ซึ่งในฐานะที่ผมชอบซีรีย์เกาหลี และเพลงเกาหลีบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดเป็นติ่ง ผมก็เฉย ๆ นะกับการที่เกาหลีเขาจะล้อเลียนพวกติ่งเกาหลีคนไทย

ผมว่า นี่เป็นการดีเสียอีก ที่เขาได้ช่วยเตือนสติพวกติ่งเกาหลีให้รู้ตัวเสียบ้างว่า อะไรที่คลั่งไคล้จนเกินไป มันก็กลายเป็นเรื่องที่ไม่งาม กลายเป็นเรื่องที่ตลกในสายตาคนเกาหลีเหมือนกัน

ดังนั้นจะรักจะชอบอะไร ก็ต้องรู้จักประมาณตนว่า อย่าให้มากเกินไป จนเว่อร์ แบบที่เขาเรียกว่า เป็นติ่งเกาหลี

---------------------

กระแสบอลไทยแพ้เกาหลีใต้ในรอบรอง

ผมดูถ่ายทอดสดการเตะรอบรองของทีมชาติไทยเช่นกัน แต่ก่อนแข่งผมวางใจว่า ไม่หวังอะไรมากเกินไป เพราะเรากำลังเจอชาติเจ้าภาพ และมาตรฐานฟุตบอลของเกาหลีใต้เขายังสูงกว่าเราเยอะ

แต่แปลกนะ จำนวนคนดูในสนามกลับไม่เต็มจำนวนความจุ ซึ่งแตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกที่คนเกาหลีใต้เขาจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษสุด ๆ

ลูกแรกที่เราโดนเกาหลียิงนำ เป็นลูกที่นักเตะเกาหลีชิงจังหวะตัดหน้ากองหลังไทยโหม่งเข้าไป อันนี้เรายอมรับได้เลยว่า ลูกนี้ไทยเราพลาดจริง ๆ

ส่วนเรื่องกรรมการตัดสินผิดพลาดเข้าข้างเจ้าภาพนั้น จนให้ลูกจุดโทษ หรือแม้ที่ไทยสมควรได้จุดโทษในครึ่งหลังนั้น

สำหรับผม ผมว่า ถึงไทยเราแพ้ ก็แพ้อย่างชนะใจผู้ชมแล้วครับ เพราะชัยชนะมันมี 2 แบบ คือ ชนะแบบภูมิใจ กับ ชนะแบบไม่น่าภูมิใจ  ซึ่งที่เกาหลีใต้ชนะไทยไปแบบนั้น ก็คงไม่น่าภูมิใจเท่าไหร่

ส่วนคนไทยที่ยังทำใจยอมรับไม่ได้ ก็เลยไปโวยในเพจอินชอนเกมส์ ตามประสาเกรียนออนไลน์ไทยคือที่ 1 ในโลก

ผมอยากให้คนไทยลืมเรื่อง ไทยแพ้เกาหลีใต้ไปก่อน เพราะปล่อยให้เกาหลีใต้ไปเจอเกาหลีเหนือในรอบชิงฯ นั่นแหละ ดีที่สุดแล้ว เพราะมันคือ ศึกสายเลือด เป็นแมทต์ในฝันเลยนะนั่น

เกาหลีใต้ เจอ เกาหลีเหนือ ทีไร มีแต่คำว่า มันส์สุด ๆ แถม เผลอ ๆ อาจมีถึงขั้นนักเตะวอล์กเอาท์ก็ได้ ถ้ากรรมการยังตัดสินเฮงซวยอีก

สำหรับทีมชาติไทยแพ้เจ้าภาพ ผมถือว่า ชิวชิว ครับ ไม่ถือว่าเสียหายอะไร

--------------

ช้างศึก ต้องพิสูจน์ศักดิ์ศรีว่า ของจริง !!

แมทต์ชิงเหรียญทองแดง กับ อิรัก นี่แหละครับ คือแมทต์พิสูจน์ศักยภาพของทีมช้างศึก จริง ๆ

เพราะหากไทยเราชนะอิรักได้ ผมถือว่า ทีมช้างศึกได้พาทีมชาติไทยก้าวผ่านขีดสุดของทีมชาติไทยที่ผ่านมาได้

เพราะนี่คือเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์  เพราะไทยเรายังไม่เคยได้เหรียญรางวัลจากฟุตบอลในเอเชียนเกมส์เลย

(ขนาดพม่า ก็ยังเคยได้เหรียญทองฟุตบอลเอเชียนเกมส์มาแล้ว)

เพราะในทีมระดับเยาวชน อายุไม่เกิน 20-23 ปี อิรักถือเป็นทีมดีที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลกชาติหนึ่ง  ในระดับโอลิมปิกและชิงแชมป์เยาวชนโลก อิรักมีผลงานดีกว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเสียอีก ทั้ง ๆ ที่ในประเทศมีปัญหาความไม่สงบจากสงครามมาตลอด

ดังนั้น ถ้าทีมช้างศึก เอาชนะ ทีมชาติอิรัก จนได้เหรียญทองแดงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ได้

ผมจะถือว่า ทีมช้างศึก ทีมชาติไทยชุดนี้ได้ยกมาตรฐานฟุตบอลไทยก้าวขึ้นมาอีกมาตรฐานหนึ่งแล้ว

ส่วนเป้าหมายต่อไปชองทีมชาติไทยก็คือ ทวงแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรืออาเชียนคัพ ที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤศจิกายนนี้ กลับคืนมา

ซึ่งผมเห็นว่า ในอาเชียนคัพปีนี้ควรให้นักเตะในทีมชาติไทยชุดนี้เป็นตัวหลักในการแข่งขันครับ


ล่าสุด ซิโก้ ใหัสัมภาษณ์ว่าไม่อยากทำทีมชาติไทยชุดใหญ่ต่อ




คลิกอ่าน เกมเพรสซิ่ง กลยุทธ์ไม้ตายไว้ปราบทีมชาติไทย




วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

วิเคราะห์ สายลม อาดี แพ้ นักชกเกาหลีใต้ เพราะโดนโกงจริงหรือ ?






ผมได้ดูการถ่ายทอดสดมวยเอเชียนเกมส์ ที่เกาหลีใต้ คู่ระหว่าง สายลม อาดี นักชกไทย กับ นักชกเจ้าภาพเกาหลีใต้

คนไทยต่างบอกว่า เกาหลีใต้โกง !!
แต่ผมมองต่างมุมครับ

ก่อนอื่นเราต้องรู้กันก่อนว่า กติกามวยสากลสมัครเล่นระดับนานาชาติได้มีการเปลี่ยนแปลงกติกา อีกแล้ว

คือนักมวยไม่ต้องสวมเฮดการ์ด หรือเกราะป้องกันศีรษะของนักมวยอีก และไม่มีการโชว์คะแนนให้คนดูทางบ้านเห็นอีก

สาเหตุที่ไม่ต้องใส่เฮดการ์ดอีก เพราะ นักมวยบางคนมักจะใช้กลโกงเรื่อง เฮดการ์ดไม่แน่น เพื่อให้กรรมการสั่งเบรค จะทำเพื่อเจตนาอะไรก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้น ๆ เช่น

นักมวยที่เหนื่อยกว่า หมดแรงกว่า ก็อาจแกล้งให้เฮดการ์ดหลวม เพื่อเรียกให้พี่เลี้ยงมาใส่ใหม่ เลยถือโอกาสพักเหนื่อยไปในตัว หรือเพื่อให้พี่เลี้ยงหรือโค้ชแอบสอนแทคติก

และที่สำคัญเฮดการ์ดทำให้กรรมการและผู้ชมมองไม่ชัดเจนว่า ต่อยหมัดโดนตรงจุดไหน อีกทั้งการมีเฮดการ์ดกลับทำให้นักมวยไม่ถนัดมากกว่า

แล้วเหตุผลที่เขาตัดเฮดการ์ดออกไปอีกอย่างคือ อ้างว่า ไม่ได้ผลในการป้องกันมากเท่าไหร่

ส่วนการไม่ขึ้นคะแนนให้เห็นในระหว่างการชก เพราะนักมวยและโค้ชที่รู้คะแนนว่าฝ่ายตัวเองนำ จะสอนให้นักมวยหนีไม่เข้าทำ เป็นการตีหัวเข้าบ้าน ถือว่า ไม่แสดงความมีน้ำใจนักกีฬา ไม่มีสปิริตในการต่อสู้

และกติกาใหม่ กรรมการจะไม่กดให้คะแนนจำนวนหมัดระหว่างการชก แต่กรรมการจะให้คะแนนหลังจบแต่ละยกไปแล้ว รูปแบบการให้คะแนนเหมือนมวยอาชีพมากขึ้น คือให้คะแนนยกละ 10 คะแนน (แต่กติกาจุกจิกแบบมวยสมัครเล่นยังมีมากเหมือนเดิม สังเกตได้จากกรรมการจะเตือนบ่อย)

เช่น หากผลการชกเสมอ แล้วคะแนนการชกเท่ากัน  เขาจะให้นักมวยที่เข้าทำมากกว่าเป็นฝ่ายชนะไป

--------------------------

คลิปการชกของสายลม อาดี ที่แพ้นักชก เกาหลีใต้ ในเอเชียนเกมส์




ในยกแรก ผมให้เกาหลีนำ 1 ต่อ 0 หมัดครับ

ในคลิปนาทีที่ 3.25-3.26 เกาหลีต่อยเข้าเป้า 1 หมัด (หรือวินาทีที่ 30 ของยกแรก) สังเกตได้ชัดเจน เพราะแฟนมวยเกาหลีตะโกนเฮ !!



ที่จริงผมยังเห็นนักชกเกาหลีต่อยเข้าเป้าในยกที่ 1 อีก 2 หมัด แต่ก็ไม่ชัดเจนนัก ก็เลยให้เกาหลีใต้นำสายลม 1 ต่อ 0 หมัดเท่านั้น

ในขณะที่สายลม อาดี ชกไม่เข้าเป้าที่ชัด ๆ เลยครับ


ยกที่ 2 ในคลิปนาทีที่ 7.08 เกาหลีก็ต่อยขวาเข้าหน้าสายลม อาดี ชัดเจนอีก 1 หมัด





ส่วนสายลม อาดี ต่อยเข้าจะจะ ในคลิปนาทีที่ 7.48 ด้วยหมัดขวา





ส่วนในคลิปนาทีที่ 8.40 - 8.42 เกาหลีชกขวาเข้าหน้าสายลมก่อน แล้วสายลม จึงสวนกลับได้หนักหน่วงกว่า เท่ากับตรงจุดนี้ได้คนละหมัด ใครมองไม่ทันลองย้อนคลิปดูหลาย ๆ รอบนะครับ เกาหลีต่อยเข้าก่อน ก่อนที่สายลมจะสวนไปได้หนักหน่วงกว่า

สรุปในยก 2 ผมให้ เสมอกัน 2 ต่อ 2 หมัด

รวมผล 2 ยก เกาหลีใต้ยังนำอยู่ 3:2 หมัดครับ


ยกที่ 3 ยกนี้ต่อยสะเปะสะปะทั้งคู่ จนไม่มีใครชกเป้าเข้าชัด ๆ สักคน

จนกระทั่งก่อนหมดเวลา 5 วินาที ในคลิปนาทีที่ 13.54 สายลม อาดี ต่อยเข้าหน้านักชกเกาหลีใต้ได้ชัดเจน 1 หมัด



สรุป ในยก 3 นี้ สายลม อาดีชนะ 1 หมัด


เมื่อรวมผลทั้ง 3 ยก คะแนนจึงเสมอกัน 3 ต่อ 3 หมัดครับ (นี่คือคะแนนที่ผมให้นะ)

สมมุติว่าคะแนนเสมอกัน ก็ต้องไปดูคะแนนดิบ ว่าใครชกเข้าเป้าที่กรรมการกดได้มากกว่า หรือใครออกหมัดได้มากกว่ากัน และใครบุกมากกว่ากัน

แต่นี่คือการให้คะแนนแบบกติกาเก่า


เพราะถ้ายึดตามกติกาใหม่ ที่กรรมการจะให้คะแนนยกละ 10 คะแนนเหมือนมวยอาชีพ

ซึ่งผมมองว่า ยกแรก เกาหลีใต้ชนะ 10:9
ยกสอง เสมอกัน 10:10
ยกสาม สายลม ชนะ 10:9

รวมคะแนนจะได้ 29:29

ดังนั้นผลคะแนนของคู่นี้ ผมจึงให้เสมอกัน แล้วก็มาดูคะแนนดิบจากกรรมการทั้งหมด 5 คนรวมกันอีกที

(กติกาใหม่ จะมีกรรมการทั้งหมด 5 คน คอมพิวเตอร์จะสุ่มเลือกคะแนนจากกรรมการมา3 คนเพื่อประกาศผลการแข่งขัน หากผลเสมอกัน ให้ดูคะแนนดิบรวมจากกรรมการทั้ง 5 คน)

------------------

ผลคะแนนจริงของคู่สายลม อาดี 

ส่วนผลการคะแนนจริง ๆ ของกรรมการทั้ง 3 คน ให้สายลมแพ้หมด 3:0

กรรมการทั้ง 3 คนให้ เกาหลีใต้ ชนะ สายลม  ด้วยคะแนน 29:28 เหมือนกันหมดทั้ง 3 คน

แสดงว่า  เกาหลีใต้ชนะ 2 ยก สายลมชนะ 1 ยก

ถ้าให้ผมเดาทางกรรมการ ผมว่า กรรมการคงให้เกาหลีใต้ ชนะในยก 1 และยก 2 ส่วนสายลม ชนะในยก 3 เท่านั้น

----------------------

สรุปบทความ

ถ้าเราดูแบบไม่เอนเอียงเข้าข้างนักชกไทยด้วยกัน สายลม อาดี ก็ต่อยไม่ดีเท่าไหร่นะครับ

ถ้าฟอร์ม สายลม ยังมีแค่นี้ อย่าหวังว่าโอลิมปิคจะผ่านรอบแรกเลยครับ คงตกรอบแรกเหมือนโอลิมปิกที่ลอนดอนนั่นแหละ

เพราะเกาหลีใต้ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าภาพ ถ้าผลออกมาสูสึแบบนี้ เราต้องทำใจยอมให้เจ้าภาพชนะไปครับ

ผู้พากย์มวยทั้งสองคน โดยเฉพาะบิ๊กจ๊ะ สาธิต กรีกุล ก็พากย์ไม่ค่อยดีนะครับ เพราะ บิ๊กจ๊ะไปพูดว่า "ถ้าชกขนาดนี้ ถ้าแพ้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ"

นี่เป็นการพูดบิวต์อารมณ์ให้คนดูคล้อยตามว่า สายลม อาดี ของเราต่อยดี ต่อยชนะขาดเกาหลีแบบเว่อร์ไปครับ แบบนี้คนดูก็จะต้องโมโหตาม

ถ้าเราดูรูปมวยแล้ว สายลม อาดี รูปมวยอาจดูดีกว่านิดหน่อย (ถ้าไม่ชกกับเจ้าภาพเราก็มีโอกาสชนะมากกว่า)
แต่มวยสากลสมัครเล่น เขาสนใจจำนวนหมัดที่ต่อยมากกว่าน้ำหนักหมัด

เช่น นักมวยที่หมัดหนักต่อยเข้า 1 หมัด กับนักมวยหมัดไม่หนักต่อยเข้า 1 หมัด ก็คะแนนเท่ากัน

ไอ้ประเภทต่อยแล้วหนี แบบตีหัวเข้าบ้าน เน้นพอชกเข้าเป้าแล้วคะแนนนำ ที่เหลือพยายามหนี อย่างมวยสไตล์ สมรักษ์ คำสิงห์ คงจะใช้ไม่ได้ในเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกในครั้งถัดไป

ดังนั้นนักมวยสากลสมัครเล่นไทยจะต้องเน้นเป็นมวยที่ต่อยมาก ต่อยเยอะ พยายามต่อยเข้าเป้าให้มากที่สุด ไม่ใช่ต่อยเข้าหมัดเดียวจะจะแล้วหนี และต้องเน้นบุกให้มากกว่าถอยคุมเชิง

ไอ้ประเภทคะแนนนำแล้วหาทางหนี คงจะไม่ประสบความสำเร็จในเวทีมวยระดับนานาชาติได้ง่าย ๆ อีก

ถ้านักมวยสากลสมัครเล่นของไทยจะเลียนแบบสไตล์การชกของรุ่นพี่ แนะนำให้ดูวิจารณ์ พลฤทธิ์ เป็นต้นแบบ

เพราะวิจารณ์ถอยแต่ทำ หมุนวน ดึงจังหวะเก่ง และต่อยเข้าเป้าตลอด ไม่ใช่ถอยแล้วหนี แต่เป็นการถอยทำ แถมชิงจังหวะต่อยก่อนจนคู่ต่อสู่จับทางของวิจารณ์ ไม่ถูกเลยครับ


--------------------

เสธ.ทวีป วิคราะห์ สายลม แพ้เจ้าภาพ ไม่น่าแปลกใจ

คลิปรายการตอบโจทย์ 6 ตุลาคม 2557  เสธ.ทวีป พอเอกทวีป จันทรโรจน์ อดีตนายกสมาคมมวยสากลสมัครเล้นแห่งประเทศไทย วิจารณ์คู่สายลม เหมือนที่ผมวิเคราะห์ คือ คู่สายลม แพ้เจ้าภาพ เกาหลีใต้ ก็ไม่น่าเกลียด 

คนไทยต่างหากที่ไม่เข้าใจว่า ถ้าชกชนะเจ้าภาพไม่ขาด มันก็ต้องเสียเปรียบเจ้าภาพอยู่แล้ว จากที่ เสธ.ทวีป ดู สายลมชนะชัดเจนแค่ยกเดียวคือยก 3

ส่วน 2 ยกแรกสูสีกัน
เมื่อ 2 ยกแรกสูสี ก็เท่ากับแพ้เจ้าภาพนั่นแหละ

ให้ดูตั้งแต่นาทีที่ 19.00 เป็นต้นไป



---------------

และที่น่าชื่นชมและเสียดายมาก คือ ธเนศ องค์จันทร์ต๊ะ รุ่นไม่เกิน 49 กก. ที่ต่อยกับนักชกจากมองโกเลีย รอบ 16 คนโดยผลการชก ธเนศแพ้คะแนนไปแบบเอกฉันท์

ซึ่งผมมองว่า ธเนศ ต่อยดีใช้ได้เลย คู่นี้ต่อยกันอย่างสูสีมาก ผมมองโอกาสมี 50:50 คือ แพ้หรือชนะได้ทั้งสองฝ่าย แต่ผลกลับไปออกที่นักชกมองโกเลียเป็นฝ่ายชนะ

แต่ถ้ามองรูปมวย ผมว่า ธเนศ ดูดีกว่าด้วยซ้ำ น่าจะชนะมากกว่า แต่อย่างว่า กลการเมืองในมวย การสกัดคู่แข่งในรอบต่อไป มันพูดยาก

ธเนศ ต่อยได้แบบใจสู้ตลอด 3 ยก แลกหมัดกันอย่างสนุก พลกำลังดี น่าชื่นชมครับ แต่ต้องแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

ธเนศ กลับมาต้องฝึกการดึงตัวหลบหมัดให้มากขึ้น และฝึกการป้องกันตัวให้มากกว่านี้ครับ


คลิกอ่าน วุฒิชัย มาสุข เกือบแพ้ สายลม อาดี เกือบชนะ




คริส หอวัง กับความงดงามของท่าเตะสูง Ballet






คริส หอวัง นักแสดงสาวสวย โพสรูปเตะขาสูง เพราะอยากจะรู้ว่า ตัวเองยังจะเตะได้สูงแบบนี้อีกหรือไม่ ในฐานะที่เธอเคยเรียนและเล่นบัลเล่ย์มาก่อน


นี่มันคือความงดงามชัด ๆ 
เสียดายย่างเดียว มือไม่น่ามาเกะกะเลยจริง ๆ 


เอาเป็นว่า คนส่วนใหญ่ต่างชื่นชมครับ เพราะมันไม่ได้โป๊ หรือน่าเกลียดอย่างใดเลย

ผมเองก็ชื่นชมความงามของท่านี้ และความงดงามของเรียวขาที่สวยงามของคุณคริส หอวัง

โดยเฉพาะขาขวาที่เตะสูงขึ้นไป ชั่งงามได้รูปและสวยมาก

จะมีข้อเสียก็แค่เรื่องเดียว คือ มือและแขนทั้งสองข้างของคุณคริส นี่แหละ ที่ทำให้งานศิลป์ทางสรีระรูปนี้ลดความงดงามลงไป

เพราะการที่นำมือดึงเสื้อมาปิด มันเลยเป็นการไปตอกย้ำจุดบางจุดครับ

ถ้าไม่มีการนำมือและแขนทั้งสองข้างดึงเสื้อลงมาปิด.. นะ
นี่มันคือศิลปะที่งดงามภาพนึงเลยครับ ขอบอก

การใช้มือดึงเสื้อลงมาปิด มันกลายเป็นการยิ่งส่งเสริมจินตนาการให้ผู้ชายอย่างผมมากเกินไปครับ

จึงขอแนะนำว่า คุณคริส หอวัง ช่วยถ่ายรูปท่าเตะแบบนี้ใหม่อีกรูปได้ไหมครับ เอาแบบใส่ชุดซ้อมบัลเล่ย์เลยก็ได้ แล้วอย่านำมือลงไปปิดอะไรอีกนะครับ

ขอบอก ผมชอบมากครับ

--------------

รูปงดงาม ๆ เก่า ๆ ของคริส หอวัง ในชุดว่ายน้ำ









วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2557

ช่อง 3 ใจดำ !!







ช่อง 3 จอดำ หรือไม่ ? ยังไม่รู้

แต่ ช่อง 3 ใจดำ แน่นอน




ตามหลักแล้ว วันที่ 23 กันยายน 2557 ควรจะเป็นวันที่ช่อง 3 ควรจะจอดำบนทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี เพราะ กสท. ได้มีมติเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2557 ว่า ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ห้ามนำช่อง 3 อนาล็อคไปออกอากาศได้อีกต่อไป ภายใน 15 วัน

เมื่อนับจากวันที่ 8 ก.ย. ไป 15 วัน ก็ควรจะครบกำหนดในวันที่ 23 ก.ย. 2557 จริงไหม แต่ดูเหมือนจะอะลุ่มอะล่วยไปจนถึง 30 ก.ย. (ได้ไง)

ถ้าไม่มีช่อง 3 อนาล็อกดู ไม่มีละครช่อง 3 ดู ถ้าจะมีคนไทยลงแดงตาย ก็ชั่งมัน !!

กฎเขาว่าไงก็ว่าตามนั้น บ้านเมืองจะได้มีขื่อมีแป เพราะทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์

ในเมื่อช่อง 3 ออริจินอลขออนุญาตสัมปทานในระบบอนาล็อก ก็ยังออกอากาศในระบบก้างปลา หนวดกุ้งต่อไปได้นี่ จอไม่ได้ดำสักหน่อย

ก็ให้มันรู้ไปว่า ถ้าใครไม่ได้ดูละครช่อง 3 แล้วมันจะอกแตกตาย ก็ปล่อยให้มันอกแตกตายไป ไอ้พวกไร้คุณภาพทางความคิดแบบนี้

================

ตอนช่อง 9 อสมท. ได้ทีวีดิจิตอลมา 2 ช่อง ช่อง 9 ก็ทำเรื่องขออนุญาตจาก กสทช. ขอออกคู่ขนานทีวีดิจิตอล ซึ่ง กสท. ก็อนุญาต แต่ช่อง 3 ออริจินอลไม่สามารถนำมาออกได้ เพราะอ้างว่า เป็นคนละบริษัทกัน นี่แหละ ประเด็นปัญหาคือตรงนี้

คือ ช่อง 3 อนาล็อค คือบริษัทบางกอกเอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด โดยอ้างว่า สัญญาสัมปทานเดิมทำให้ไปขอประมูลทีวีดิจิตอลไม่ได้ (ยังไม่เคยเห็นช่อง 3 นำสัญญาสัมปทาน ข้อไหนที่ห้ามไว้มาแจกแจง)

ส่วนช่อง 3 ดิจิตอล คือ บริษัทบีอีซีมัลติมีเดีย จำกัด

ดังนั้น ช่อง 3 อนาล็อค ก็ควรไปขอใบอนุญาตเป็นช่องดาวเทียมควบคู่ไปด้วย แต่ปัญหาคือ ถ้าช่อง 3 ไปขอเป็นช่องดาวเทียมด้วย ก็จะทำให้โฆษณาได้แค่ 6 นาทีต่อชั่วโมงเท่านั้น (ตามระเบียบของทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี)

ส่วนการออกคู่ขนาน ทาง กสท. พร้อมจะแก้ไขกฎระเบียบบางข้อ ให้ช่อง 3 ได้ออกคู่ขนาน หรือ

.ในส่วนสัญญาสัมปทานเดิม ทาง อสมท. เองก็ยินดีแก้ไขสัญญาสัมปทานเดิมของช่อง 3 เพื่อให้ช่อง 3 อนาล็อกมาออกคู่ขนานบนทีวีดิจิตอลได้ แต่ช่อง 3 ไม่ยอมมาขออนุญาตเอง

คลิกอ่านข่าว อสมท. เปิดทางช่อง3 แก้สัญญา

ซึ่งถ้าช่อง 3 อนาล็อก ยอมไปออกคู่ขนานบนทีวีดิจิตอล ก็จะสามารถโฆษณาได้ 12 นาทีต่อชั่วโมงเหมือนเดิม แต่ที่ช่อง 3 ไม่อยากไปเพราะจะมีคู่แข่งมาแย่งส่วนแบ่งค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น

--------------

ปมสัญญาสัมทานช่อง 3 อนาล็อกน่าสงสัย ?

ทีมา http://astv.mobi/AEKyYYM

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ได้รับจดหมายร้องเรียนว่าให้ตรวจสอบสัมปทานช่อง 3 อนาลอกกับ อสมท.

ซึ่งนางสาวสุภิญญา ได้ทวิสเตอร์ เรื่องดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 16 กันยายน ว่า

"เย็นนี้กำลังจะประชุมร่วมระหว่างบอร์ด กสท.กับตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากช่อง3 ก็มีจดหมายด่วนที่มีคนยื่นให้ตรวจสอบสัมปทานช่อง3เข้ามา"

"จดหมายร้องเรียนฉบับนี้ขอให้ กสทช.ตรวจสอบสัมปทานช่อง3 ที่บริษัทบางกอก ฯไ ด้รับสัมปทานจาก อสมท. แต่ไม่ได้ประกอบการเอง เพราะให้ BEC ดำเนินการ"

"ทั้งบริษัทบางกอกฯที่ได้รับสัมปทานช่อง 3 อนาล็อก หรือ บริษัทบีอีซีมัลติมีเดีย ที่ประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ต่างมีผู้ถือหุ้นเดียวกันคือ บีอีซีเวิลด์"

"โจทย์ที่มีคนยื่นร้องเรียนช่อง3วันนี้ ทำให้ช่อง 3 อนาล็อกยุ่งยากขึ้น เพราะถ้ายังยืนยันตนเองว่าคนละนิติบุคคลเพื่อไม่ออกคู่ขนาน ก็จะมัดตัวเองได้"

"ปัญหาอาจบานปลายลุกลาม ไปจนถึงขึ้นการทบทวนdkiตรวจสอบสัญญาสัมปทานย้อนหลังของช่อง 3 อีกครั้ง ซึ่ง กสทช.มีอำนาจเต็มในการตรวจสอบนั้น"

"จริง ๆ ประเด็นคนละนิติบุคคลของช่อง 3 อนาล็อกและช่อง3ดิจิตอล คนที่หยิบยกมาพูดก็คือตัวช่อง3 เอง ทั้งนี้จริงๆ เรารับรู้ว่าคือกลุ่มคนเดียวกัน"

"เมื่อช่อง 3 อนาล็อก อ้างว่าออกคู่ขนานไม่ได้ เพราะคนละนิติบุคคล วันนี้เลยมีคนมาร้องเรียนว่าช่อง 3 อนาล็อกที่รับสัมปทานก็คนละนิติบุคคลกับผู้ถือหุ้น"

"จดหมายร้องเรียนให้ตรวจสัมปทานช่อง3ในวันนี้ ท่านเลขาธิการ @TakornNBTC ก็จะนำเข้าบอร์ดใหญ่ กสทช.ด้วย เรื่องที่ซับซ้อนอยู่แล้วจึงซับซ้อนมากขึ้น"

"ปมปัญหาของช่อง 3 เรื่องทีวีดิจิตอลตอนนี้ อาจกลายเป็นเหตุให้ กสทช.ต้องกลับไปสืบสาวปมของสัญญาสัมปทานเดิม ซึ่งอาจมีจุดสำคัญทางกฏหมายอีกด้วย"

"อาทิ ถ้าทางช่อง3อนาล็อกยืนยันว่าตนเองคนละนิติบุคคล จึงออกดิจิตอลไม่ได้ ดังนั้นช่อง 3 อนาล็อก ในระบบสัมปทานตอนนี้ก็อาจขัดกฏหมายด้วยใช่หรือไม่?"

"อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องมีการสืบสวนสอบสวนปมเรื่องสัมปทานกรณีนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับมติ กสท.ที่บังคับเรื่องระงับ 15วัน ที่ต้องเดินไปตามนั้นเช่นเดิม"

"สรุปคือ 3A กับ 3C ต่างมีผู้ถือหุ้นเดียวกันคือ 3B"

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตามที่หนึ่งในคณะกรรมการของกสทช.โพสต์ในครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นทางลงให้กับช่อง 3 ด้วยเช่นกัน

เพราะหากมองว่าทั้งช่อง 3 อนาล็อก ช่อง 3 ดิจิตอล ทั้งหมดมีผู้ถือหุ้นคนเดียวกันก็จะเท่ากับว่าช่อง 3 อนาล็อกเองสามารถยกรายการทั้งหมดไปที่ดิจิตอลได้ทันทีและทำให้ปัญหาที่คาราคาซังจบลง

แต่นั่นก็เท่ากับว่าช่อง 3 ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง และอาจจะมีผลต่อรูปคดีที่มีการฟ้องร้องกันอยู่รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับข้อกฏหมายบางส่วนที่จะตามมาด้วย ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเรื่องทั้งหมดจะลงเอยเช่นไร

---------------------

ล่าสุด เจาะข่าวเด่นสรยุทธ ได้จัดเรื่องช่อง 3 จะจอดำ 

โดยเชิญนายประวิทย์ มาลีนนท์ และผู้อำนวยการฝ่ายการเงินช่อง 3 มาออกรายการ



ซึ่งเหตุผลที่ช่อง 3 อ้างทั้งหมดคือ ที่ไปออกคู่ขนานไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย


ดังนั้น ผมขอสรุปให้เลยนะ ถ้ามันผิดกฎหมายก็ไม่ต้องไปออกคู่ขนาน มีสัมปทานแค่ไหน ก็ออกไปแค่นั้น จบมะ ??

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ถ้าช่อง 3 อนาล็อกต้องจอดำไปแล้วจริง ๆ เดี๋ยวช่อง 3 ก็ฉลาดขึ้นเองแหละว่าต้องทำยังไงต่อไป


ส่วนนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ได้ตอบโต้ช่อง 3 ผ่านทวิสเตอร์ของตัวเอง ทันทีว่า

"ออกคู่ขนานได้หรือไม่ได้ กสท. มีอำนาจวินิจฉัย มีมติอย่างไร กสท. ต้องรับผิดชอบเองอยู่แล้ว แต่ขอให้ทุกอย่างมีต้นเรื่องมาเป็นลายลักษณ์อักษร ในเมื่อต้องการความชัดเจนทางกฎหมาย อย่าทำเพียงการพูดลอยๆ อย่าผลักภาระให้เป็นของคนอื่น ในเมื่อปัญหาอยู่ที่ตัวผู้รับใบอนุญาตเอง ถ้า กสท.ออกคำสั่งไปบังคับให้เอกชนออกคู่ขนาน จะโดนฟ้องข้อหาละเมิดได้ เราไม่เดินเข้าสู่กับดักนี้ แต่ถ้าผู้รับใบอนุญาตยื่นขอมา เราจะพิจารณา สรุป ถ้าจะออกคู่ขนาน ขอให้ส่งเรื่องมา กสท.จะพิจารณา เหลืออีก 2-3 วันเท่านั้น แต่โปรดอย่าบอกว่าทำไม่ได้ ถ้าคุณยังไม่ได้เทคแอคชั่นใดๆ" น.ส.สุภิญญา กล่าว


------------------

สรุป ขำ ๆ 

ช่อง 3 อนาล็อก ชื่อก็บอกแล้วว่า อนาล็อค ตอนขอสัมปทานก็ออกอากาศแบบหนวดกุ้ง เสาก้างปลา ใช่มะ

ก็แค่ต่อไปจะไม่ได้ออกทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีอีก ก็ไม่เห็นแปลกนี่

ก็ยังออกอากาศแบบอนาล็อก หนวดกุ้ง ก้างปลา ต่อไปได้เหมือนเดิมตามสัมปทานเดิมนี่นา แล้วจะโวยวายหาอะไรวะ ?

แล้วที่อ้างจำนวนคนดู 70% ดูทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีน่ะ อย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่า คนดูส่วนใหญ่กลุ่มนี้เขาเข้าข้างช่อง 3 นะ

ไม่ต้องไปดูที่ไหนไกล แค่ไปเช็คเรตติ้งที่เพจเรื่องเล่าเช้านี้ ดูก็ได้ว่า กระแสคนไทยตอนนี้เขาเห็นแก่กฎระเบียบมากกว่าความชอบส่วนตัวแล้วครับ





วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2557

เชื่อไหม ? คนไทยกินเค้กแพงกว่าคนญี่ปุ่น







คือช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมชอบเขียนเรื่องการเปรียบเทียบราคาอาหารกับค่าครองชีพของแต่ละประเทศมาเทียบกับราคาอาหารในไทย โดยจะใช้อัตราค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละประเทศเป็นมาตรฐานในการเปรียบเทียบ

อย่างเช่น ตอนนี้ประเทศไทยมีค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ส่วนที่ญี่ปุ่นตอนนี้มีค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 1,800 - 2,000 บาทต่อวัน

เราก็จะเทียบว่า ค่าแรงขั้นต่ำของญี่ปุ่นสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำของไทยประมาณ 6 เท่า

ส่วนค่าครองชีพของญี่ปุ่นจะสูงกว่าประเทศไทยประมาณ 8 เท่า เช่น ถ้าราคาก๋วยเตี๋ยวในไทยชามละ 35 บาท ถ้าคูณด้วย 8 เท่า ราคาก๋วยเตี๋ยวที่ญี่ปุ่นควรมีราคาที่ชามละ 280 บาท (หรือ 935 เยน) ใช่ไหม ?

แต่ในความเป็นจริงราคาก๋วยเตี๋ยวที่ญี่ปุ่นจะอยู่ที่ราคาประมาณ 700-800 เยนหรือ 200235 บาทเท่านั้นหรือแพงกว่าประมาณ 5-6 เท่า แถมก๋วยเตี๋ยวที่ญี่ปุ่นกินชามเดียวอิ่ม ซึ่งไม่เหมือนคนไทยกินก๋วยเตี๋ยวชามละ 35 บาทแทบไม่อยู่ท้อง เพราะมีปริมาณน้อย


ก๋วยเตี๋ยวที่ญี่ปุ่น ชามเดียวอยู่ท้อง

ซึ่งเรื่องก๋วยเตี๋ยวไทยแพงกว่าญี่ปุ่น ผมก็เคยเขียนไว้ในบทความเรื่อง ไข่ไทยแพงกว่าไข่ญี่ปุ่น และ ค่าเฉลี่ยคนไทยกินก๋วยเตี๋ยวแพงกว่าชาติอื่น

--------------------

คุณว่า เค้กญี่ปุ่นในจานนี้หรือเซตนี้ ถ้าขายในประเทศไทยราคาควรจะเท่าไหร่ ?

ยังไม่ต้องรู้ว่า เค้กอะไร มีอะไรบ้าง แค่ดูจากรูป คุณว่า ราคาน่าจะสักกี่บาท ?



เค้กจานนี้เป้นเค้กที่ขายในประเทศญี่ปุ่น ที่ร้าน Patisserie Tooth Tooth 本店 ในเมืองโกเบ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่อง เนื้อโกเบ ในจังหวัดเฮียงโงะ นั่นแหละครับ



ราคาของเค้กเซตนี้ ราคาเพียง 1 พันเยน หรือ 320 บาท เท่านั้น (จริง ๆ น่าจะแค่ 300 บาท เพราะค่าเงินเยนวันนี้ 100 เยนเท่ากับ 29 บาทกว่า ๆ )

เพราะคุณเกตุวดี ผู้เชี่ยวชาญเรื่องญี่ปุ่น เธอไปนั่งกินเค้กเซตนี้ที่โกเบ เธอบอกว่า ราคา 1 พันเยนเท่านั้น




เมื่อเทียบว่า ค่าแรงของญี่ปุ่นสูงกว่าไทย 6 เท่า หรือ ค่าครองชีพญี่ปุ่นสูงกว่าไทย 8 เท่า

ถ้าแปลงค่าครองชีพของญี่ปุ่นและค่าแรงขั้นต่ำของญี่ปุ่น ให้เป็นค่าครองชีพแบบไทย ๆ แล้ว เค้กจานนี้ราคาในไทยควรจะขายไม่เกิน 50 บาทใช่ไหม  ?

ถ้าคิดที่ค่าแรงขั้นต่ำญี่ปุ่นสูงกว่าไทย 6 เท่า ก็นำราคาเค้กที่ 300 บาท หาร 6 = 50 บาท
แต่ถ้าคิดที่ ค่าครองชีพญี่ปุ่นสูงกว่าไทย 8 เท่า ก็นำราคาเค้กที่ 320 บาท หาร 8 = 40 บาท (หาตัวเลขที่หารแล้วลงตัว)

ขอถามว่า คุณสามารถหาเค้กดี ๆ สวย ๆ อร่อย ๆ แบบคนญี่ปุ่นทำ ในราคาเซตละ 40-50 บาทในไทยได้หรือไม่ ?

บอกตามตรง ผมว่า เค้กเซตนี้ถ้าขายในไทย อย่างต่ำหลักร้อยขึ้นไปครับ จริงไหม ?

ผมกะว่า ถ้าขายในไทยเริ่มต้นอย่างต่ำที่ 100 บาท ถึง 150 บาทโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับสถานที่ หรืออาจแพงกว่านั้น

ฉะนั้น คนไทยจึงกินอาหารแพงมากในโลกชาติหนึ่ง !! (เมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ)

----------------

ผมยังยืนยันมาหลายปีว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังโดนระบบนายทุนเอาเปรียบเสมอมา โดยที่คนไทยก็อาจไม่สนใจ หรืออาจไม่รู้ตัว หรืออาจชินซะแล้ว หรืออาจเป็นพวกโง่ อย่างใดอย่างหนึ่ง

คนรวย ๆ จึงรวยเอา ๆ คนจนก็ยากที่จะลืมตาอ้าปาก จึงทำให้ช่องว่างระหว่างฐานะและสังคมของคนไทยจึงต่างกันมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า นักการเมืองไทยรับใช้ระบอบนายทุน มากกว่าจะช่วยประชาชนส่วนใหญ่จริง ๆ

ผมไม่ได้ต่อว่าร้านเค้ก หรือร้านเบเกอรรีในไทยนะครับ ผมว่า ที่มันเป็นเช่นนี้ มันเป็นไปทั้งระบบเศรษฐกิจของไทยทั้งหมดนั่นแหละ

เมื่อระบบมันเพี้ยน ราคาอาหารมันก็เลยแพงไปหมดทุกอย่าง




วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557

คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอังกฤษเกาะเต่ามีแต่ผล DNA อสุจิ ทำไมไม่มีผล DNA เลือด









จากคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน ซึ่งเป็นชาย 1 หญิงอีก 1 ที่เกาะเต่านั้น

ตอนแรกตำรวจพุ่งเป้าไปที่ น่าจะมีแรงงานต่างชาติอาจเข้ามาทำร้ายฝ่ายชายอังกฤษ เพื่อหวังข่มขืนสาวอังกฤษ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม คนร้ายเลยทำร้ายเธอจนถึงแก่ความตายด้วยจอบ

แต่ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ตำรวจก็สืบไปจนพบว่า เพื่อนชายของชายอังกฤษที่ตาย ซึ่งพักอยู่ห้องเดียวกัน มีรอยเลือดจำนวนมากที่กางเกงของเขา ตำรวจจึงกันตัวเพื่อนชายชาวอังกฤษคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยอีกคน แล้วไม่ให้เพื่อนชายชาวอังกฤษคนนี้ออกจากเกาะ


เพื่อนของชายชาวอังกฤษที่ตาย พบกางเกงมีคราบเลือด


แต่ตำรวจก็กลับมุ่งประเด็นไปที่ เพื่อนชายชาวอังกฤษคนนี้อาจมาข่มขืนสาวอังกฤษอีกคนหรือไม่ ?

แต่ในโลกออนไลน์เริ่มปะติดปะต่อเรื่องกันว่า มันน่าจะเป็นคดีเกย์เมีย หึงเกย์ผัวมากกว่า

หมายถึง เพื่อนชายชาวอังกฤษคนที่มีคราบเลือดเลอะกางเกง น่าจะเป็นเกย์เมีย แล้วมาพบเกย์ผัวชายอังกฤษคนที่ตายที่ได้เมคเลิฟกับสาวอังกฤษที่ตาย ก็เลยเกิดการหึงหวง จนกระทั่งนำไปสู่เหตุการทำร้ายจนเลยไปถึงการฆาตกรรม

ล่าสุด ผลตรวจอสุจิที่อยู่ในตัวสาวอังกฤษผู้ตาย พบว่า มีอสุจิของชาย 2 คน และไม่ตรงกับ DNA ของผู้ต้องสงสัยทั้งแรงงานพม่า และเพื่อนชายชาวอังกฤษผู้ที่มีคราบเลือดเลอะกางเกง

เมื่อ DNA ของอสุจิ ไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัยรายใดเลย ก็แสดงว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน คือ แรงงานพม่า 2 คนและเพื่อนชายชาวอังกฤษ 1 คนไม่ได้ข่มขืนเหยื่อสาวอังกฤษคนนี้แน่นอน

ดังนั้น แล้วใครคือฆาตกรตัวจริงกันแน่ ??

จะเป็นคนที่ข่มขืนอีกคนที่ยังหาตัวไม่พบ หรือ จะเป็นเพื่อนชายชาวอังกฤษที่มีคราบเลือดติดกางเกง ??

แต่ผมสงสัยว่า ทำไมตำรวจยังไม่มีผลตรวจ DNA ของเลือดที่เลอะบนกางเกงของเพื่อนชายชาวอังกฤษคนนี้ ??

ถ้าผลเลือดที่เลอะบนกางเกงของเพื่อนชายชาวอังกฤษคนนี้ตรงกับผู้ตายทั้งสองคน คดีนี้ก็จบลงไม่ยาก

แต่ถ้าผลตรวจเลือดที่เลอะบนกางเกงของเพื่อนชายชาวอังกฤษคนนี้ ไม่ตรงกับ DNA ของผุ้ตายเลยล่ะก็ งานนี้ก็ยากล่ะครับ

เพราะที่ตำรวจบอกว่า สั่งปิดเกาะไม่ให้คนเข้าออกเพื่อจะล่าฆาตกรนั้น ตำรวจได้ปิดเกาะในระดับไหน ??

เพราะถ้าตำรวจคลำมาผิดทางมาตั้งแต่แรก ไอ้ฆาตกรตัวจริงมันมิหลบหนีออกจากเกาะไปแล้วเหรอ ??

ผมว่า อย่าลืมตรวจ DNA ตำรวจที่อยู่บนเกาะด้วยแล้วกัน เพราะตอนนี้ทุกคนอาจเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งหมด


พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งหนังเสิอพิมพ์วันที่ 18 ก.ย. 57



พาดหัวไทยรัฐ ดันพาดหัวว่า มีอสุจิมากกว่า 2 คน แถมยังพุ่งเป้าไปที่ฆาตกรคือคนข่มขืนผู้หญิง

ส่วนคมชัดลึกพาดหัว ตำรวจพุ่งเป้ากลับไปที่เพื่อนชายของชายอังกฤษที่ตาย






ส่วนข่าวสดดันพาดหัวแตกต่างกว่าใคร เพราะบอกว่า สาวอังกฤษโดนตุ๋ย

ส่วนเดลินิวส์ พาดหัวก็ไม่ต่างกับที่รายงานว่า DNA ไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัย และตำรวจก็ยังคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนไว้

-------------

ที่ผมเขียนบทความนี้เพราะผมสงสัยว่า ทำไมยังไม่มีผลตรวจ DNA ของเลือดที่เลอะบนกางเกงของผู้ต้องสงสัยชาวอังกฤษ ที่เป็นเพื่อนร่วมห้องกับชายอังกฤษที่ตาย ??

ซึ่งผลมันน่าจะออกมาพร้อม ๆ กันกับผลตรวจ DNA อสุจินะ




ล่าสุดเห็นว่า พอ DNA ไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัย ตำรวจก็ต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ โดยจะเริ่มสงสัยแรงงานต่างด้าวบนเกาะทุกคนอีกรอบ !!

ส่วนเพื่อนชายชาวอังกฤษที่ถูกสงสัยคนนี้ ตำรวจแจ้งว่า รอยเลอะกางเกงไม่ใช่รอยเลือด แต่เป็นแค่รอยเปื้อนโคลน ตำรวจจึงได้อนุญาตให้เขากลับอังกฤษได้แล้ว แต่ถ้ามีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติมอาจเรียกตัวกลับมาใหม่อีกครั้ง เป็นข้อตกลงระหว่างตำรวจไทยกับสถานทูตอังกฤษ




เจ้าของชีวิต 800 ทำพิธีกรมาโชว์คลิป น้ำตาแตกกลางรายการ






จากซีรีย์สั้น ๆ เรื่อง ชีวิต 800 ที่แตกยอดมาจากกระทู้ในพันทิพ เรื่องจริงของชายคนหนึ่งที่มาหางานทำในกรุงเทพฯ แต่เพราะมีเงินมาแค่ 1 พันบาทเพื่อตะลอนหางานทำ

จนกระทั่งเขาได้งาน แต่เขากลับเหลือเงินแค่ 800 บาท ที่ต้องใข้ชีวิตไปจนถึงสิ้นเดือนก่อนเงินเดือนจะออก

แล้วเจ้าของชีวิตจริงในซีรีย์ก็ได้มาออกรายการมาโชว์คลิป มาเล่าถึงเรื่องช่วงชีวิตในตอนนั้น ได้ทำให้พิธีกรสาวสวยคุณฝน ถึงกับน้ำตาไหล !!









ทีนี้มาดูคลิปเรื่อง ชีวิต 800 นำแสดงโดยคุณเต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์


คลิปซีรีย์เรื่อง ชีวิต 800 ตอน 1 "โจทย์ชีวิต"







คลิปซีรีย์เรื่อง ชีวิต 800 ตอนจบ "คำตอบ"






------------------------


คลิปเบื้องหลัง ซีรีย์ ชีวิต 800 ก่อร่างสร้างตัว








วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

ตัวอย่าง การไม่มีเทคโนโลยี กลับช่วยสร้างอัจฉริยะ






พอดีผมได้เจอรูปจาก CCTV เป็นรูปครูชาวจีนคนหนึ่งโชว์ความสามารถในการวาดรูปแผนที่โลก 

ซึ่งรูปของครูคนนี้ทำให้ผมนึกถึงสมัยผมนักเรียนระดับมัธยมต้น ผมเองก็เป็นคนนึงที่วาดรูปแผนที่โลกได้ดีพอใช้ จนได้คะแนนการวาดแผนที่เต็มสิบเสมอ แต่นั่นคือการวาดบนกระดาษที่ครูสั่งให้ทำ

ส่วนครูชาวจีนคนนี้วาดแผนที่โลกบนกระดานดำได้สวยงาม เรามาดูความเก่งของครูจีนคนนี้ ที่ใข้ความสามารถในการวาดรูปแผนที่โลกครับ
















ผมมาคิดว่า ถ้าห้องเรียนมีกระดานดำไฮเทค หรือที่เรียกว่า smart blackboard ใช้กันในห้องเรียนทุกห้อง เราก็คงมีโอกาสเห็นความอัจฉริยะแบบครูคนจีนในรูปด้านบนน้อยลงแน่ ๆ

เพราะเวลาครูจะสอนนักเรียนเรื่องแผนที่โลก ถ้าห้องเรียนมีกระดานดำไฮเทคใช้แล้ว ก็แค่เรียกใช้รูปแผนที่โลกขึ้นกระดานได้ทันที






คือ ผมไม่ได้ปฏิเสธเทคโนโลยี แค่ผมมีความคิดที่ว่า คนเราบางครั้งพอขาดแคลนอะไรไปบางสิ่ง ก็จะพยายามหาทางหาสิ่งอื่นมาทดแทนสิ่งที่ขาดไป

จากรูปในบทความนี้ ผมแค่อยากจะเปรียบเทียบการศึกษาของไทย ที่โลกยิ่งเจริญทางเทคโนโลยีมากแค่ไหน ค่าเฉลี่ยการศึกษาของไทยก็แย่ลงเท่านั้น

ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ เทคโนโลยียิ่งดีขึ้น การศึกษาของเขาก็ยิ่งดีขึ้น

มันเพราะอะไร การศึกษาไทยเราถึงได้แย่ลงเช่นนั้น

อย่างตอนนี้การศึกษาไทยก็ได้แพ้การศึกษาลาวไปแล้วครับ

โดยคุณภาพค่่าเฉลี่ยการศึกษาของลาว อยู่ที่อันดับที่ 79 ของโลก ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 86 ของโลก





คลิกอ่าน ไม่แปลกใจ ทำไมการศึกษาไทยได้ที่ 8 ในอาเซียน





Sheilla Castro is the most beautiful and sexiest volleyball player in the world










Since Olympic 2012 -2014 I think Sheilla Castro is the most beautiful and sexiest volleyball player in the world.

Sheilla Castro is no.13 in Brazil women's national volleyball team.






Sheilla Castro's photo in FIVB World Grand Prix 2014

คลิกที่รูปเพื่อขยาย




And I like Sheilla Castro's butt very much.

Sheilla has the perfect butt.

คลิกที่รูปเพื่อขยาย


คลิกที่รูปเพื่อขยาย



คลิกที่รูปเพื่อขยาย



ชีเอร่า คาสโตร เธอเคยได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าที่สุดในโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน ตอนนั้น ผมดูเธอสวยและมีเสน่ห์มาก ๆ

บุคลิกของเธอดูสุขุม และนิ่งมาก ๆ ยิ่งทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากกว่านักวอลเล่ย์หญิงคนใดในสนาม

Every women volleyball players of Brazil team have the most perfect butt in the world.

---------------------

Sheilla Castro’s Wedding





คลิกอ่าน อัจฉราพร คงยศ ดาวรุ่งสาวเนื้อแน่น แห่งทัมวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย




วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2557

ละสังขารปลอมๆของหลวงพ่อพิมพ์ กับ ละสังขารแท้ของหลวงพ่อคำเขียน






ช่วง 2-3 วันมานี้ มีข่าวดังข่าวนึงคือ หลวงพ่อรูปนึง ได้อ้างว่า ตนเองจะละสังขารแล้วก็ไปนอนในโลงศพ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ละสังขารจริง เพราะได้ออกจากโลงศพ ไปโรงพยาบาลด้วยท่าทางอิดโรย

แถมข่าวยังบอกว่า ในโลงได้เจาะรูสำหรับไว้หายใจซะหลายรู 555

แถมมีการบอกพระน้องชายล่วงหน้าด้วยว่า ช่วง 2 วันที่ประกาศละสังขาร จะมีเงินเข้าวัดมาก 55555


หลวงพ่อพิมพ์ ออกจากการละสังขาร เพื่อไปโรงพยาบาล

เมื่อดูจากข่าวช่อง 7 สีรายงาน ผมล่ะขำจริง ๆ ผมว่า มีการวางแผนไว้เป็นขั้น ๆ แหง ๆ คือให้ตำรวจมาเยี่ยม แล้วก็มีการเตรียมการเตรียมคำตอบไว้แล้วว่า จะตอบอย่างไร

เช่น ตำรวจที่เข้าไปเยี่ยมอ้างว่า หลวงปู่บอกว่า เบื้องบนบอกให้กลับไปทำหน้าที่พระนักพัฒนาต่อไป

แล้วก็มีเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า คำว่า ละ ของพระ กับ ละ ของโยมต่างกัน

ส่วนคำพูดเต็ม ๆ ไปดูได้จากคลิปสกู๊ปข่าวของช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณครับ ขอบอกว่า ฮาครับ

ดูสกู๊ปข่าวเต็ม ๆ ของช่อง 7 สี กรณีละสังขารของปลอม !! (ผมฮาอะ)



ก่อนหน้านี้ ผมไม่เคยรู้จักพระรูปนี้มาก่อนเลยจริง ๆ นะ แต่เพราะข่าวการประกาศละสังขารของท่านล่วงหน้านี่แหละ ท่านเลยดังเลย ดังจริง ๆ นะ แต่ดังเพราะอะไรคิดกันเอาเอง 5555

พึงสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ แต่หลวงพ่อพิมพ์ ขอสละศีลข้อ 4 เพื่อรักษาชีวิต !!


ข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์เช้าวันที่ 11 ก.ย. 57 (คลิกที่รูปเพื่อขยาย!!)


การไม่อธิบายให้ชัดเจน เจตนาให้ประชาชนเข้าใจผิด นั่นคือการโกหกมุสารูปแบบหนึ่งครับ เช่นละสังขาร หมายถึง ละสังขารในไตรลักษณ์ หรือละสังขารในขันธ์ 5 หรือละสังขารในปฏิจจสมุปบาท ต้องพูดให้ชัด

ถ้าพูดสังขารเฉย ๆ ผู้คนย่อมหมายถึง ละสังขารทั้งหมด รวมถึง ละกายสังขารด้วย ซึ่งหมายถึงตาย

การที่หลวงพ่อมีเจตนาบิดเบือนซ่อนเร้น นี่แหละ เข้าหลักการผิดศีลข้อ 4 ชัดเจน เราอย่าให้พระทำตัวเป็นศรีธนญชัยเลยครับ

ทีนี้มาดูพระแท้ ๆ จากจังหวัดขัยภูมิเหมือนกันบ้างครับ ว่า ท่านละสังขารแท้ ๆ เป็นอย่างไร


----------------------

ช่วงเวลาละสังขาร ของ หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ



หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดภูเขาทอง จังหวัดชัยภูมิ ได้อาพาธด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองมานาน 7 เดือน จึงทำให้ท่านไม่สามารถพูดได้

และในเช้ามืดของวันที่ 23 สิงหาคม หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ ได้เขียนข้อความประโยคสุดท้ายให้แก่พระอุปัฏฐากทั้ง 4 รูป ก่อนละสังขาร

โดยก่อนหน้านั้น หลวงพ่อเรียกพระลูกศิษย์ที่ดูแล เพื่อไปเข้าห้องน้ำ ถ่ายทุกข์ชำระร่างกายด้วยตัวเอง แล้วก็กลับมาที่เตียงนอน แล้วก็เขียนประโยคนี้

"พวกเราขอให้หลวงพ่อตาย"




แล้วหลวงพ่อก็ยกมือไหว้ลูกศิษย์ในที่นั้นทุกคนเพื่ออำลา ประหนึ่งขอบคุณที่ช่วยดูแลหลวงพ่อมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แล้วหลวงพ่อก็หมดลมหายใจ ละสังขารจากโลกนี้ไปด้วยความสงบ

ประโยคที่หลวงพ่อคำเขียน เขียนว่า "พวกเราขอให้หลวงพ่อตาย" ด้วยลายมือของหลวงพ่อเอง ก่อนที่หลวงพ่อจะหมดลมหายใจไม่กี่นาทีเท่านั้น เป็นปริศนาธรรมที่ลึกซึ้งมาก ซึ่งปริศนาธรรมย่อมไม่ใช่การแปลความอย่างตรงตัว



พระเอกวีร์ มหาญาโณ พระอุปัฏฐาก ได้เล่าถึงช่วงนาทีสุดท้ายก่อนที่หลวงพ่อคำเขียน จะละสังขารว่า

"หลวงพ่อท่านไอ ถ้าเรานึกภาพคนที่กำลังจะตาย แล้วรู้ตัวว่ากำลังจะตายเนี่ย เราอาจจะเห็นเขากลัว หรืออาจเห็นเขากังวลอยู่ไม่สุข แตกับหลวงพ่อ ท่านก็ให้สัญญาณว่า จะไปเข้าห้องน้ำ ท่านรู้แล้วท่านก็จัดการตัวเองให้เรียบร้อย ถ่ายให้เสร็จ แล้วก็ล้างมือล้างหน้าตัวเองให้มันป๋อ แล้วท่านก็กลับไปนอน.. ตะแคง 

ท่านก็ส่งสัญญาณว่า อยากจะเขียน เอากระดาษให้ท่าน แล้วท่านก็เขียนยึกยืออยู่หน่อยนึง ส่งให้ท่านอาจารย์..(ผมฟังชือไม่ถนัด) แล้วท่านก็ไหว้ หลวงพ่อท่านก็ไหว้ 

พอเสร็จแล้วท่านก็วางลง แล้วท่านก็ฟุบตัวลงนอน แต่พอนิดเดียวเท่านั้นแหละ แล้วท่านก็หลับตาลง แล้วก็ฟุบหน้าลงนิดนึง แล้วหลังจากนั้น.. ท่านก็ไม่ได้มีการดิ้นทุรนทุราย..."

รายการเวทีสาธาณะตอนนี้ดีมากนะครับ ใครที่ไม่ได้ดูรายการเวทีสาธารณะตอนนี้ ผมแนะนำให้ดูครับ หลวงพ่อคำเขียน ท่านได้สั่งเสียถึงการทำพิธีศพของท่านให้เรียบง่ายที่สุดไว้อย่างไรบ้าง

และยังมีการสัมภาษณ์ลูกศิษย์ของหลวงพ่อคำเขียนหลายคน และหลายรูป โดยเฉพาะการสัมภาษณ์หลวงพ่อไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต ลูกศิษย์คนสำคัญของหลวงพ่อคำเขียน ด้วย

ส่วนตั้งแต่ช่วงเวลา 9.50 เป็นต้นไป เป็นการเล่าถึงช่วงเวลาวาระสุดท้ายของหลวงพ่อคำเขียน

รายการเวทีสาธารณะ ไปร่วมงานพิธีเผาศพ หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ


---------------------

อัพเดทข่าว ล่าสุด

ลูกศิษย์หลวงพ่อพิมพ์ยังเพี้ยนขนาดนี้ แล้ว....จะขนาดไหน ??

ศิษย์เผย “หลวงปู่พิมพ์” จะครองธาตุขันธุ์ถึงอายุ 80 ปี ตามแบบพระพุทธเจ้า

วันนี้ (11 ก.ย.) ที่โรงพยาบาลคอนสาร จ.ชัยภูมิ หลวงปู่พิมพ์ หรือพระครูเวฬุวัน จันทรังษี อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ที่ล้มเลิกการละสังขารไปเมื่อบ่ายวานนี้ (10 ก.ย.) เข้าพักรักษาอาการป่วยที่ห้องพิเศษ B 9 โรงพยาบาลคอนสาร เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย เพราะไม่ได้ฉันอาหารมานานกว่า 3 วัน ทั้งมีโรคประจำตัว คือ โรคเกาต์ โรคกรดไหลย้อน และโรคลำไส้ โดยแพทย์เจ้าของไข้ คือ นายแพทย์สุภาพ สำราญวงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคอนสาร

นางทองดำ รื่นรมย์ อายุ 56 ปี ชาว อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ผู้ศรัทธาในหลวงปู่พิมพ์ เปิดเผยภายหลังว่า "รู้สึกดีใจมากที่ทางโรงพยาบาลอนุญาตให้เข้าไปกราบเยี่ยมหลวงปู่พิมพ์ถึงห้องพักฟื้น โดยมาเยี่ยมหลวงปู่พิมพ์เป็นครั้งแรก รู้จักหลวงปู่พิมพ์จากข่าว และหลังทราบข่าวว่าหลวงปู่จะละสังขารในคืนวันที่ 9 กันยายน ก็เกิดศรัทธาในความตั้งใจของหลวงปู่ จึงรีบเดินทางพร้อมญาติ 4 คนเมื่อบ่ายวานนี้ และมาถึงวัดคืนวันเดียวกัน"

“เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกลี้ยกล่อม และทำให้หลวงปู่พิมพ์ล้มเลิกละสังขารนั้น ไม่ทำให้ศรัทธาเสื่อมลง แต่เสียใจมากกว่าถ้าท่านละสังขารจริง เพราะต้องเสียพระดีๆ ไปอีกรูป เป็นสิ่งดีที่หลวงปู่พิมพ์จะอยู่ดำรงธาตุขันธุ์สืบทอดพระศาสนาต่อไป จากการสอบถามหลวงปู่พิมพ์ ท่านบอกว่า จะอยู่ครองธาตุขันธุ์ไปถึง 80 ปี ตามแบบอย่างพระพุทธเจ้า หรือพ่อของท่าน ซึ่งหลวงปู่พิมพ์ได้รู้นิมิตนี้ ตอนที่ท่านนอนอยู่ในโลงศพ ยืนยันว่าหลวงปู่พิมพ์ไม่ละสังขารแน่”

http://astv.mobi/ARH8Xii





วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2557

ยุคทีวีดิจิตอล ช่อง7 กับ ช่อง 3 ใครเห็นแก่(ตัว)ส่วนรวมมากกว่ากัน ?







หลังจากเริ่มการเปลี่ยนผ่านทีวีจากยุคอนาล็อกเพื่อไปเป็นทีวีดิจิตอล ก็เกิดปัญหาช่อง 3 อนาล็อกไม่ยอมไปออกอากาศคู่ขนานในระบบทีวีดิจิตอล โดยอ้างว่า ช่อง 3 อนาล็อกกับช่อง 3 ดิจิตอลเป็นคนละบริษัทกัน

ทั้ง ๆ ที่ช่อง 3 ทั้งอนาล็อกกับดิจิตอล มันก็เจ้าของเดียวกันนั่นแหละ แถมยังสามารถประมูลทีวีดิจิตอลได้มากถึง 3 ช่อง คือ ช่อง 3SD ช่อง 3 HD และช่อง 3 แฟมิลี

คือ ในระเบียบเดิมก่อนมีการรัฐประหาร กฎเดิมของ กสท. กำหนดบังคับให้ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ต้องดึงสัญญาณจากช่องฟรีทีวีอนาล็อก 3 5 7 9 11 และไทยพีบีเอส ไปออกช่องดาวเทียมและช่องเคเบิลทีวีด้วย ซึ่งกฎนี้มีกำหนดสิ้นสุดลงในวันที่ 31 สิงหาคม 2557 เท่านั้น

แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2557 เป็นต้นไป กฎใหม่ของ กสท. กำหนดว่า ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ไม่สามารถดึงสัญญาณฟรีทีวีอนาล็อกไปออกอากาศได้อีกต่อไป แต่ถ้าทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี ยังต้องการจะดึงสัญญาณจากช่อง 3 5 7 9 11 ไทยพีบีเอส อีก ก็ต้องไปดึงจากสัญญาณทีวีดิจิตอลเท่านั้น (มันคือนโยบายเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านระบบทีวี ซึ่งกฎนี้ออกมานานแล้วก่อนการประมูลทีวีดิจิตอลด้วยซ้ำ ซึ่งช่อง 3 ก็รู้ดี)


ซึ่งทั้งช่อง 5 7 9 11 และไทยพีบีเอส เขาก็นำช่องอนาล็อกเดิมไปออกคู่ขนานบนช่องทีวีดิจิตอลกันหมดแล้ว

คงมีแต่ช่อง 3 อนาล็อก หรือช่อง 3 ออริจินอลเพียงช่องเดียวเท่านั้น ที่ไม่ยอมหาทางนำช่อง 3 อนาล็อกไปออกคู่ขนานบนทีวีดิจิตอล ทั้งที่ตัวเองสามารถประมูลมาได้ตั้ง 3 ช่อง ซึ่งได้มามากที่สุดมากกว่าเจ้าอื่น ๆ ด้วยซ้ำ

โดยช่อง 3 ไปแอบอ้างประกาศ คสช. ที่ 27/2557 มาอ้างว่า คสช.ประกาศให้ฟรีทีวีกลับมาออกอากาศได้ตามปกติทุกช่องทางได้เหมือนเดิม ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้ผมได้เขียนไว้ในบทความเรื่อง "สรยุทธ หน้าด้านแถยึดประกาศ คสช. แล้วยึดคนดดาวเทียมและคนดูเคเบิลทีวีเป็นตัวประกัน"

ผมขออธิบายที่มาที่ไปไว้แค่นี้แล้วกัน ทีนี้มาดูส่วนหนึ่งในความเห็นของคุณสุภิญญา กลางณรงค์ 1 ในกรรมการ กสทช. ได้ทวิสเตอร์ เปรียบเทียบช่อง 3 กับ ช่อง 7 ไว้ตามนี้






เพราะการโพสทวิสเตอร์ รึเปล่า ที่ช่อง 3 เลยต้องฟ้องร้องคุณสุภิญญา ? (แต่ไม่ใช่ที่ผมนำมาโพสในบทความนี้หรอก)

ค่าโฆษณาที่ลดจาก 10-12นาที ในแบบทีวีอนาล็อก จะลดเหลือแค่ 5-6 นาที ในทีวีดิจิตอล คือผลประโยชน์มหาศาลที่จะหายไป ??

---------------------

ช่อง 3 ฟ้องสุภิญญาหมิ่นประมาท 



ล่าสุด ช่อง 3 ได้ฟ้องร้องคุณสุภิญญา กลางณรงค์ ข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว

8 ก.ย.57 มีรายงานข่าวว่า สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้มอบหมายให้ ทีมทนายของ บริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นต์ ยื่นหนังสือฟ้องร้องดำเนินคดีกับคณะกรรมการ กสทช. 3 คน ประกอบด้วย พลโทพีระพงษ์ มานะกิจนายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

และฟ้องร้องนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ใน 3 ข้อหาคือ ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หมิ่นประมาท และกระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ โดยการนำข้อความอันเป็นเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท

โดยนายสุรเชษฐ เปิดเผยว่า การที่บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ยื่นฟ้องในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ เนื่องจากเห็นว่าบุคคลทั้ง 3 ละเว้น การปฎิบัติหน้าที่ โดยไม่เป็นกลาง ทำให้บริษัทเกิดความเสียหายได้

สำหรับในวันนี้ได้ยื่นเอกสารหลักฐาน ซึ่งเป็นข้อความการโพสต์หมิ่นต่างๆ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนที่ศาลจะกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องต่อไป

โดยทีมทนายของช่อง 3 ยืนยันว่าการฟ้องครั้งนี้ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งระหว่างช่อง 3 และ กสท. แต่อย่างใด

(ข่าวมติชนและข่าวแนวหน้า)

-----------

กสท. มีมติห้ามทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีนำช่อง 3 อนาล็อกไปออกอากาศแล้ว

แนวหน้า 

8 ก.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม กสท. มีมติ 3 ต่อ 2 เสียง ให้ทำหนังสือถึงโครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิลทีวีไม่ให้นำรายการจากช่อง 3 อนาล็อกไปแพร่ภาพออกอากาศ โดยให้เวลา 15 วันจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้น

สำหรับฝ่ายที่ลงมติให้นำช่อง 3 ออริจินอลออกจากโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี ประกอบด้วย น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์, พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ และนายธวัชชัย จิตรภาษนันท์  (ซึ่งกรรมการทั้ง 3 คนนี้โดนช่อง 3 ฟ้อง)

ส่วน 2 เสียงที่เห็นว่าให้ช่อง 3 ออริจินอลยังคงอยู่ในโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิลทีวี คือ พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. และ พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า

----------------

สรุปบทความ

ผมว่า กสท. ไม่แน่จริงเลยนะ เมื่อตั้งใจะยืนตามกฎ ก็ควรกำหนดไปเลยว่า ต้องทำทันทีภายใน 24 ชม. ซึ่งสามารถทำได้ แต่ กสท. ก็ไม่กล้าทำ

แต่ช่อง 3 เขากล้าทำกับคนของ กสท. คือ ฟ้องหมิ่นประมาทคุณสุภิญญา กลางณรงค์ ทันที

กสทช. จึงเป็นหน่วยงานที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในสายตาประชาชนอย่างผม !!

ส่วนช่อง 3 ถ้าเลิกเห็นแก่ตัว ยอมใช้หลักการขาดทุนเพื่อกำไร แล้วยอมทำเหมือนช่อง 7 หรือช่องอื่น ๆ ได้ทำแล้ว คือหาทางไปออกคู่ขนานบนทีวีดิจิตอลซะ 

ปัญหามันก็จบลงด้วยดี คนดูดาวเทียมและเคเบิลทีวีก็จะได้ดูช่องช่อง 3 ออริจินอลได้เหมือนเดิม 

------------------

สุภิญญา เตรียมฟ้องกลับช่อง 3 ส่วน ปธ.กสทช. กลับเข้าข้างช่อง 3






วันนี้ (8 กย. 57) เวลา 16.30 น. ที่สำนักงาน กสทช. เครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ เครือข่ายผู้บริโภค นักวิชาการ และนักสิทธิมนุษยชน ได้มอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ คุณสุภิญญา คุณธวัชชัย และคุณพีระพงศ์ กสท. กรณีถูกช่อง 3 ยื่นฟ้อง ข้อหา หมิ่นประมาทและปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

คลิกอ่าน สรยุทธแถยึดประกาศ คสช. เพื่อจับคนดูทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวีเป็นตัวประกัน


คลิกอ่าน ผลประโยชน์ค่าโฆษณามหาศาล เหตุผลที่ช่อง 3 ดื้อแพ่งทีวีดิจิตอล





วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557

สรยุทธเสนอยุบร่มเก้าอี้ริมหาดนวล เกาะล้านให้หมด แต่ ผกก.ภูธร ชลบุรีดันโชว์โง่






จากกระแสจัดระเบียบชายหาดของ คสช. จนแม้แต่ CNN ยังเคยลงข่าวชื่นชม กรณี คสช. ไปจัดระเบียบชายหาดที่จังหวัดภูเก็ต ทั้งหาดป่าตอง หาดสุรินทร์ ถึงขนาด CNN เรียกหาดโฉมใหม่ภายหลังการจัดระเบียบชายหาดของ คสช. ว่า "Paradise Reborn"

รูปจาก CNN หาดสุรินทร์ ภูเก็ต ก่อนที่ คสช. จะเข้ามาจัดระเบียบ




รูปจาก CNN หาดสุรินทร์ หลังจาก คสช. เข้ามาขัดระเบียบชายหาดแล้ว



หรือกรณีจัดระเบียบชายหาดของ คสช.  ก็ยังลามไปถึงกรณีร้านอาหารริมชายหาดหัวหิน โขกราคาอาหารแพงเว่อร์กับลูกค้าชาวไทย ทั้ง ๆ ที่ยึดหาดสาธารณะมาทำมาหากินแท้ ๆ แต่กลับกระทำตัวเยี่ยงมาเฟียรีดไถ โดยอาศัยร่มริมหาด และร้านอาหารริมหาดบังหน้าเพื่อการขูดรีดนักท่องเทียว

และล่าสุด มีคลิปที่แชร์กันในโลกออนไลน์ เป็นคลิปชายคนหนึ่งใช้เท้าเตะทรายเพื่อไล่นักท่องเที่ยวหญิงต่างชาติ ที่เธอมาปูผ้านั่งริมหาดนวล เกาะล้าน เจตนาชายในคลิปคนดังกล่าว ก็เพื่อจะไล่ให้นักท่องเที่ยวหญิงคนนี้ไปเช่าเตียงริมหาด ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ทำลายชื่อเสียงการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก




ล่าสุดคลิปนี้ก็ไปถึงสรยุทธแล้ว โดยรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ ของสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้นำคลิปนี้มาเสนอ

ซึ่งสรยุทธ ยังเอ่ยปากช่วงท้ายข่าวด้วยว่า "รับรองได้ว่าจากนี้เป็นต้นไป ชายคนนี้จะทำให้เตียงผ้าใบที่หาดนวลหายไปหมด รับรองได้ ชายคนนี้ล่ะฮะ จะทำให้เตียงผ้าใบกับร่ม บนชายหาดนวลที่เกาะล้าน หายไปหมดอย่างแน่นอน"


คลิป รายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ "ผู้ชายเตะทรายใส่นักท่องเที่ยวหญิง"



ผมขอสนับสนุนความเห็นของมหาเศรษฐีเล่าข่าวอย่างคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา อย่างเต็มที่ ขอให้ คสช. ยุบไปเถอะพวกร่มริมหาด ร้านอาหารริมหาด ออกไปจากทุกหาดในประเทศไทยเลยได้ยิ่งดี

อย่าให้เหมือนกรณีที่หาดหัวหิน ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่กลับไปโอนอ่อนผ่อนผันให้ยังขายได้ต่อไป แต่ให้ขยับไกลออกจากหาดไปกว่าเดิมเท่านั้น เดี๋ยวพอหมดยุค คสช. มันก็จะกลับมาห่วยเหมือนเดิม

ที่จริงมันไม่สมควรมีกิจการแบบนี้ริมหาดเลย เพราะมันทำลายความสวยงามของชายหาดของไทยอย่างมาก ประเทศอื่น ๆ เขาก็ไม่มีแบบนี้

ถ้าไม่เชื่อดูรูปของ CNN ประกอบเพิ่มอีก

อีกมุม ของหาดสุรินทร์ ภูเก็ต ก่อน คสช. จัดระเบียบ




หาดสุรินทร์ หลังจัดระเบียบชายหาด




สภาพหาดป่าตอง ภูเก็ต ก่อน คสช. จัดระเบียบ


หาดป่าตอง นักท่องเที่ยวยิ้มให้ทหารที่เข้ามาจัดระเบียบหาดทราย




พวกแม่ค้าหากินริมหาด ทำเป็นบีบน้ำตา ทั้ง ๆ ที่พวกนี้แหละตัวปัญหาของประเทศนี้ อ้างจน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้จนเลย เพราะราคาที่คิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติครั้งนึง วันนึงหาได้มากกว่า 3 พันบาทเสียอีก



พลเอกประยุทธ์ ช่วยคืนความสุขให้คนไทยทั้งประเทศ ด้วยการคืนชายหาดสวย ๆ ให้คนไทยเถอะครับ อย่าปล่อยให้พวกมาเฟียริมหาดทำมาหากินขูดรีดนักท่องเที่ยว มาทำลายหาดสวย ๆ ของประเทศชาติอีกเลย



การมีร่มริมหาด ร้านอาหารริมหาด มันก็จะมีขยะริมหาดมากขึ้น





รูปจากเว็บพันทิพ หาดป่าตอง หลัง คสช. จัดระเบียบ





-----------------------

ผู้บังคับการตำรวจภูธร ชลบุรี โชว์โง่ จะเอาผิดคนเผยแพร่คลิป

หลังจากคลิปผู้ชายเตะทรายไล่นักท่องเที่ยวริมหาด ถูกเผยแพร่ออกไป และคลิปก็ไปถึงสรยุทธ

ล่าสุด ตำรวจอ้างว่าเป็นคลิปเก่า และผู้ชายในคลิปเป็นชาวเขมรที่หลบหนีเข้ามาทำงาน แถมตำรวจบอกว่า จะเอาผิดคนเผยแพร่คลิปนี้

นี่เท่ากับ ผกก.ตำรวจชลบุรี กำลังโชว์โง่ เพราะแทนที่จะขอบคุณคนเผยแพร่คลิป เพื่อให้รู้ว่า การท่องเที่ยวไทยมีข้อบกพร่องตรงไหน แต่ตำรวจกลับคิดจะเอาผิดคนเผยแพร่คลิป นี่คือความโง่ของ ผกก.ตำรวจชลบุรีนายนี้โดยแท้


ตามข่าวนี้

ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ (6 ก.ย.) นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เพื่อขยายผลติดตามจับกุมชายที่ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดี ก่อนนำกำลังรุดไปยังหาดนวล ชุมชนบ้านเกาะล้าน เพื่อควบคุมตัวนายปึ้ง สัญชาติกัมพูชา อายุ 28 ปี ลูกจ้างของผู้ประกอบการร่มเตียงและเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว และนำตัวมาสอบสวนพร้อมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังมีกระแสข่าวในด้านลบอย่างครึกโครม



จากการสอบสวนนายปึ้ง ทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ซึ่งนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย ได้เข้ามาปูผ้านั่งอาบแดดบริเวณชายหาด ทำให้นายชาลี หรือ แป๊ะ เจ้าของและผู้ให้บริการร่มเตียงใช้ให้นายปึ้ง ลูกจ้างชาวกัมพูชา ไปไล่นักท่องเที่ยวเพื่อให้เข้ามานั่งในเตนท์ผ้าใบที่ตนเปิดให้บริการ แต่นักท่องเที่ยวไม่ยินยอม นายปึ้งจึงเตะทรายเข้าใส่จนมีปากเสียงกัน กระทั่งนักท่องเที่ยวทนไม่ไหวลุกออกจากบริเวณดังกล่าว

พล.ต.ต.ธเนศ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าวว่า "เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ก็ถือเป็นความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นได้สอบสวนนายปึ้ง กระทั่งทราบว่าเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงดำเนินคดีในส่วนของการเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทำการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 5 ปี

ส่วนการก่อเหตุกับนักท่องเที่ยว ถือเป็นคดีเกี่ยวกับการข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิตและเสรีภาพที่มีโทษจำคุก 3 ปีนั้น เป็นเรื่องที่กระทำได้ลำบากเนื่องจากไม่มีเจ้าทุกข์และเหตุผ่านมานานหลายเดือนแล้ว

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะขยายผลดำเนินคดีในส่วนของคนที่นำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ในข้อหาทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อมเสีย ซึ่งจะได้มีการประสานไปยังกระทรวงไอซีทีเพื่อติดตามตัวต่อไป"

ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่าปัญหาการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ประกอบการกับนักท่องเที่ยวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่กรณีของนายปึ้งถือว่ารุนแรงและเกิดความเสียหาย แต่สาเหตุที่ไม่ดำเนินการเพราะไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความจึงทำให้ปัญหาคาราคาซังจนมีการนำภาพไปโพสต์ลงในเวปไซด์ต่างๆ

“อย่างไรก็ตามเมืองพัทยา ก็มีมาตรการควบคุมผู้ประกอบการร่มเตียงอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว แต่อาจมีหลงหูหลงตาไปบ้าง ซึ่งจากนี้ในวันจันทร์ที่ 8 กันยายนนี้เมืองพัทยาจะร่วมกับอำเภอบางละมุง ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบการบนเกาะล้านต่อไป”นายรณกิจกล่าว

มีรายงานว่า กรณีที่เกิดเหตุถือเป็นเรื่องปกติในเมืองพัทยา โดยเฉพาะกรณีของผู้ประกอบการชายหาดที่มักมีปัญหากับนักท่องเที่ยว อาทิ กรณีของเรือเจ๊ตสกีที่มักข่มขู่ขูดรีดค่าเสียหายจากเรือที่ประสบเหตุเกินความเป็นจริง ซึ่งปัจจุบันเมืองพัทยายังไม่มีแนวทางการแก้ไขที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งความไม่เป็นระเบียบของร่มเตียงชายหาดทั้ง 3 แห่งของเมืองพัทยาที่มีการจัดตั้งเตียงเกินพื้นที่ขอบเขต ที่ผ่านมาพบว่ามีการร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเมืองพัทยาเป็นจำนวนมาก

http://astv.mobi/Azu1q3R

หมายเหตุ ไม่ใช่เอเอสทีวีที่รายงานข่าวแบบนี้ แม้แต่ข่าวช่อง 3 ก็รายงานในทำนองเดียวกันว่า ผกก.ภูธร ชลบุรี คนนี้จะดำเนินคดีคนเผยแพร่คลิป

-------------------

ดูชัด ๆ หน้าตา พล.ต.ต.ธเนศ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.จว.ชลบุรี


เอ่อ.. ท่านผู้การฯ ไม่ทราบว่าใช้หัวแม่ตีนคิดเหรอครับ แทนที่จะยกย่องเขา ที่เป็นพลเมืองดีแจ้งเบาะแสมีประโยชน์ให้ทางราชการ ดันจะมาแจ้งข้อหาเขาว่า ทำลายการท่องเที่ยว !!?

ประเทศไทยไม่เจริญเพราะมีนายตำรวจห่วย ๆ แบบนี้นี่แหละ

คสช. โปรดพิจารณาลงโทษนายตำรวจโง่ ๆ นายนี้ด้วย 

เพราะถ้าไม่มีคลิปนี้ออกมา ตำรวจชลบุรี ก็ไม่เห็นไปตามจับเลย !!

นี่เฉพาะกรณีที่ถ่ายคลิปได้นะ แล้วที่ไม่มีคลิปจะมีกรณีแบบนี้อีกมากมายแค่ไหน ถ้าคนปล่อยคลิปนี้มีความผิด ประเทศนี้ก็อยู่ยากแล้วครับ พลเอกประยุทธ์ช่วยดูแลด่วน !!


คลิกอ่าน คลิปน่ากลัวมาก อุทาหรณ์เติมเชื้อเพลิงเหลวในร้านปิ้งย่าง