วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จากเคยเกลียดพี่เบิร์ด กลายเป็นชอบพี่เบิร์ต ธงไชย ที่สุด







ศิลปินดารานักร้องซุปเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของไทย ที่ครองตำแหน่งยอดนิยมของไทยมาอย่างยาวนานเกินกว่า 30 ปีแล้ว จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจาก พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2561 พี่เบิร์ดมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์

ลองทายเล่น ๆ ซิว่า รูปนี้พี่เบิร์ดหล่อมาก จาก MV เพลงไหน ? (มีเฉลยตอนท้าย)


แต่ก่อนที่ทุกวันนี้ผมจะชื่นชอบพี่เบิร์ด ว่าเป็นนักร้องไทยอันดับ 1 ในใจผมเหมือนที่คนไทยหลาย ๆ คนชื่นชม

ผมเคยไม่ชอบขี้หน้าพี่เบิร์ดมาก่อน อาจไม่ถึงขั้นเกลียด แต่เอาเป็นว่า ไม่ถูกชะตา ไม่ชอบขี้หน้าพี่เบิร์ดเอามาก ๆ เลย

สำหรับ พี่เบิร์ด ได้เริ่มเข้าวงการจากบทตัวประกอบในละครของคุณไก่ วรายุทธ มิลินทจินดา ต่อมาพี่เบิร์ดก็ได้ไปประกวดร้องเพลงเวทีสยามกลการ จนได้รางวัลนักร้องดีเด่น จากเพลงชีวิตคือละคร ตามคลิปนี้



แล้วหลังจากนั้นพี่เบิร์ดก็เริ่มชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ได้ไปออกในรายการทีวีอยู่เรื่อย ๆ  ซึ่งตอนนั้นพี่เบิร์ดโดดเด่นในการเอนเตอร์เทนผู้ชมในรายการทีวีโชว์และเกมโชว์ต่าง ๆ อย่างมาก พี่เบิร์ดไปออกรายการไหน ก็เป็นที่สนุกสนานเฮฮาประเภท จ้างมาพันแต่เล่นซะหมื่นประมาณนั้น

เมื่อผมมองย้อนเวลากลับไป 30 ปีว่า ทำไมตอนนั้นผมถึงไม่ชอบหน้าพี่เบิร์ด ?

ผมคิดว่า คงเพราะตอนที่พี่เบิร์ดได้เข้าสู่วงการละครไทยอย่างเต็มตัว พี่เบิร์ดได้เล่นเรื่อง บ้านสอยดาว ทางช่อง 7 สี ตอนนั้นพี่เบิร์ดเล่นเป็นตัวร้ายกึ่งพระเอก ในบท ปวุฒิ เด็กที่เจ้าของบ้านสอยดาวเก็บมาเลี้ยง แต่พอ ปวุฒิ โตขึ้น คนในบ้านสอยดาวกลับถูกปวุฒิหักหลัง

คือสำหรับเรื่อง บ้านสอยดาว ผมจะรู้สึกว่า บทเจ้าตะวัน ที่แสดงโดย ศรัณยู วงศ์กระจ่าง เป็นพระเอกน่ะ เพราะผมชอบคุณศรัณยู เป็นทุนเดิม

แต่ความจริงบทปวุฒิ ที่พี่เบิร์ดแสดงนั่นแหละคือ บทที่เด่นที่สุดของเรื่อง

ส่วนละครเรื่องต่อมาในปีเดียวกัน พี่เบิร์ด ได้เล่นเป็นพระเอกเต็มตัว คู่กับนางเอกเบอร์ 1 ช่อง 7 สีในสมัยนั้นคือ มณฤดี ยมาภัย ในเรื่อง พลับพลึงสีชมพู

คือในเรื่องพลับพลึงสีชมพู พี่เบิร์ดแสดงไปก็มักสูบบุหรี่ไปด้วย แบบดูรู้เลยว่า เป็นคนสูบบุหรี่เก่งมาก ผมก็เลยไม่ค่อยชอบบทพระเอกในเรื่องนี้ของพี่เบิร์ดเท่าไหร่นัก

ด้วยเหตุนี้ การเข้ามาในวงการละครไทยยุคแรก ๆ ของพี่เบิร์ด ผมเลยไม่ค่อยชอบใจบทบาทของพี่เบิร์ดนัก (แต่ผมก็ดันดูครบทั้งสองเรื่อง)

ละครพลับพลึงสีชมพู พ.ศ.2527 พี่เบิร์ดมักสูบบุหรี่ในละคร


-------------

เมื่อพี่เบิร์ด ก้าวขึ้นสู่นักร้องอันดับ 1 ของวงการเพลงไทย

ก่อนที่พี่เบิร์ด จะกลายเป็นนักร้องอันดับ 1 ของวงการเพลงไทยนั้น

ก่อนหน้านั้นนักร้องชายอันดับ 1 ของไทยที่ครองความนิยมมาอย่างยาวนานร่วมสิบปี ก็คือ พี่แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ อดีตนักร้องนำวงแกรนด์เอ็กซ์

ตอนที่พี่เบิร์ด ธงไชย ออกอัลบั้มเพลงชุดแรกคือชุด หาดทราย สายลม สองเรา ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2529 นั้น

ก่อนหน้านั้นช่วงต้นปี พี่แจ้ ดนุพล ก็ออกอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองชุดแรกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2529 และถือเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของพี่แจ้ นั่นคือ อัลบั้ม ฝันสีทอง ซึ่งมียอดขายถล่มทลายเกินล้านตลับภายในปีเดียว แล้วยังเป็นอัลบั้มแรกของนักร้องเดี่ยวของไทยที่มียอดขายเกินล้านตลับ


อัลบั้มฝันสีทอง ของพี่แจ้ ออกวางแผง ก.พ. 2529
อัลบั้มหาดทรายสายลมสองเรา ออกวางแผง พ.ค. 2529

ตอนนั้นผมยังชื่นชอบพี่แจ้อย่างมาก ว่าเป็นนักร้องชายอันดับ 1 ของไทย

แต่แล้วจู่ ๆ ในปีเดียวกันนั้นช่วงกลางปี กลับมีนักร้องหน้าใหม่มาแรง ชื่อ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ได้เปิดตัวอัลบั้มแรกของตัวเองแรงสุด ๆ แรงไม่แพ้อัลบั้มฝันสีทองของพี่แจ้ ขึ้นมาเทียบรัศมีพี่แจ้ ในชื่ออัลบั้มว่า หาดทราย สายลม สองเรา 

โดยในอัลบั้มหาดทรายสายลมสองเรา ของพี่เบิร์ดนั้น มีเพลงด้วยรักและผูกพัน ที่ดังถล่มทลายไปทั่วประเทศ กลายเป็นกระแสจนต้องมีการสร้างภาพยนตร์ไทยเรื่อง ด้วยรักและผูกพัน ขึ้นตามมา โดยพี่เบิร์ด แสดงคู่กับนางเอกละครเบอร์ 1 ในขณะนั้นคือ กาญจนา จินดาวัฒน์



พูดได้เลยว่า ใน พ.ศ. 2529 ช่วงต้นปีถึงกลางปี เพลงแสนรัก ของพี่แจ้ดังสุด ๆ
แต่พอถึงกลางปี พ.ศ. 2529 เพลงด้วยรักและผูกพัน ของพี่เบิร์ด ดังกระหึ่มแจ้งเกิดให้พี่เบิร์ดทันที

คลิปเพลงด้วยรักและผูกพัน เพลงลำดับที่ 2 ในอัลบั้มหาดทราย สายลม สองเรา เพลงแจ้งเกิดของพี่เบิร์ด



ในตอนนั้นผมย่อมจะรู้สึกเชียร์พี่แจ้มากกว่าเป็นธรรมดา เพราะติดตามพี่แจ้มานานเกือบ 10 ปี ผมจึงเหมือนยังมีอคติกับพี่เบิร์ด ธงไชย อยู่กลาย ๆ

แต่คนมันจะเป็นซุปตาร์อันดับ 1 อะนะ ยังไง ๆ ใครก็มาฉุดไม่อยู่

ในช่วงที่พี่เบิร์ด ธงไชย กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 แทนพี่แจ้นั้น เคยมีนิตยสารบางฉบับจับเอาสองคนนี้มาเปรียบเทียบกันว่า ทั้งสองคนมีจุดเด่นแตกต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร

คำตอบคือ แนวเพลงของพี่เบิร์ด มักเป็นเพลงรักแบบอบอุ่น หรืออกหักแบบคิดบวก คือไม่โกรธไม่เกลียดคนรักที่มาหักอก ออกแนวทำใจได้และให้กำลังใจคนฟัง

ในขณะที่แนวเพลงของพี่แจ้ ออกแนวอกหักรักคุด เสียน้ำตามากมายประมาณนั้น

แล้วพี่เบิร์ด ธงไชย ก็ขึ้นมาเป็นนักร้องซุปเปอร์ตาร์อันดับ 1 แทนพี่แจ้ได้ นับจากวันนั้นจนวันนี้ ก็นานร่วม 32 ปีเต็มแล้วล่ะ

โดยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ก็เคยมีค่ายคู่แข่งของแกรมมี่ คือ ค่ายอาร์เอส ได้สร้างนักร้องคนนึงที่คิดว่าจะเทียบรัศมีพี่เบิร์ดพอได้ นั่นก็คือ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง

ถึงขนาดมีนิตยสารธุรกิจบางฉบับ จับ 2 คนนี้มาเปรียบมวยกันว่า อริสมันต์ จะแซงหน้าขึ้นเป็นซุปเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของไทยแทนพี่เบิร์ดได้ไหม ทำนองเปรียบเทียบจุดแข็งของแต่ละคน

แต่มาถึงวันนี้ ก็คงรู้คำตอบกันดีอยู่แล้ว

-------------------

เมื่อผมเริ่มชอบพี่เบิร์ดเป็นครั้งแรก

เมื่อพี่เบิร์ด ธงไชย ออกอัลบั้มที่ 2 ในปี พ.ศ. 2530 ชุดสบาย สบาย ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดของ พ.ศ. 2530 โดยเฉพาะเพลงสบายสบายโด่งดังมาก ดังไปไกลถึงต่างประเทศ มีการนำทำนองไปใส่เนื้อเพลงในหลายภาษาในหลายประเทศ

แถมเพลงสบายสบาย ยังมีเวอร์ชั่นโจ๊ะ ๆ ประกอบภาพยนตร์เรื่อง หลังคาแดง ที่พี่เบิร์ด แสดงนำคู่กับนางเอกจอเงินอันดับ 1 ในตอนนั้นคือ จินตหรา สุขพัฒน๋

โดยในอัลบั้มสบายสบายนั้น ได้มีเพลงเหมือนเป็นคนอื่น ซึ่งเป็นเพลงที่ทำให้ผมรู้สึกเริ่มชอบเพลงของพี่เบิร์ดขึ้นมา ก็เพราะเพลงนี้แหละ



แม้ผมจะชอบเพลงเหมือนเป็นคนอื่น ที่ท่วงทำนองและคำร้องมันไพเราะสำหรับผมก็ตาม แต่ผมก็ยังไม่เลิกมีอคติกับพี่เบิร์ด ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่เบิร์ดอยู่ดี

จนกระทั่งในปลายปี พ.ศ.2530 ปีเดียวกับอัลบั้มสบายสบาย ในวันที่ 1 ธันวาคม 2530 พี่เบิร์ด ได้ออกอัลบั้มในปีนั้นอีกชุด  อัลบั้มมีชื่อว่า รับขวัญวันใหม่

แล้วในวันหยุดยาวช่วงปีใหม่เดือนมกราคม พ.ศ. 2531 ผมได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วได้นอนในโรงแรมแห่งหนึ่ง มีคืนนึงทางโรงแรมได้เปิดเพลงในอัลบั้มรับขวัญวันใหม่ เปิดแบบวนไปวนมาตลอดทั้งคืน

ผมก็นอนเปิดฟังเพลงของโรงแรม ได้ฟังเพลงของพี่เบิร์ดวนไปวนมา จนผมมาสะดุดกับเพลงที่มีชื่อว่า หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ

เพลงหมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ เพลงนี้แหละ ที่ช่วยทำลายกำแพงอคติในตัวผมที่มีต่อพี่เบิร์ดลงจนหมดสิ้น!!

ผมหายสงสัยในความเป็นนักร้องชายเดี่ยวอันดับ 1 ของพี่เบิร์ดที่มาแทนพี่แจ้ ได้อย่างหมดหัวใจเลย

เพลงหมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ ทั้งคำร้องและทำนอง รวมทั้งเสียงร้องของพี่เบิร์ด ได้ทำให้ผมหลงรักเพลงนี้มากที่สุดมาจนวันนี้ มันช่างไพเราะโดนใจผมซะเหลือเกิน

แล้วหลังจากที่กำแพงแห่งอคติของผมถูกทำลายลง ในคืนวันนั้นผมนอนฟังเพลงของพี่เบิร์ด ไพเราะเสนาะหูทุกเพลงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน



เพลงหมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ
ศิลปิน : เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์
อัลบั้ม : รับขวัญวันใหม่ (2530)
คำร้อง : นิติพงษ์ ห่อนาค
ทำนองเรียบเรียง : อภิไชย เย็นพูนสุข

เคยมีรายการฉลองครบรอบ 10 ปีจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เมื่อ พ.ศ. 2536 พี่เบิร์ด เคยเล่าในรายการว่า เพลงที่พี่เบิร์ดชอบมากที่สุด ก็คือ เพลงหมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ

โดยเหตุผลที่พี่เบิร์ด ชอบ เพราะเนื้อหาเพลงอบอุ่นมาก แล้วมักใช้เป็นเพลงปิดท้ายทัวร์คอนเสิร์ตของพี่เบิร์ดในช่วงเวลานั้นเสมอ

---------------------

กว่าจะได้เสียงร้องเป็นเอกลักษณ์แบบเบิร์ด ธงไชย

ในรายการฉลองครบรอบ 10 ปีบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมมี่ พี่เบิร์ดเคยเล่าในรายการว่า ตอนที่พี่เบิร์ดกำลังจะออกอัลบั้มแรก ใช้เวลาทำอัลบั้มอยู่นานร่วม 2 ปี เพราะพี่เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ ไม่ยอมให้พี่เบิร์ดร้องผ่านเลยสักเพลง

พี่เต๋อ บอกว่า การร้องของพี่เบิร์ดยังเป็นแนวทางพวกนักร้องเวทีประกวดที่ชอบตะเบ็งเสียงโชว์พาเวอร์ ซึ่งมันยังไม่ใช่สำหรับการที่จะเป็นนักร้องที่จะออกอัลบั้มเพลงเป็นของตัวเอง แล้วถ้าพี่เบิร์ดยังร้องในแนวนักร้องประกวดอยู่ พี่เบิร์ดจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในอาชีพนักร้องในระดับแถวหน้าของไทยได้เลย

(ให้สังเกตจากคลิปที่พี่เบิร์ดร้องเพลงประกวดเวทีสยามกลการด้านบน นั่นแหละ แนวนักร้องประกวดที่พี่เบิร์ด เคยติดเป็นนิสัยการร้องเพลง)

ผ่านไปหลายเดือน พี่เบิร์ดก็ยังร้องเพลงได้เสียงที่ยังไม่ถูกใจพี่เต๋อสักที

ช่วงพักการทำอัลบั้มแรก พี่เบิร์ดได้กลับไปค้นหาแนวทางเสียงของตัวเองอยู่หลายวัน

จนเมื่อพี่เบิร์ดทดลองร้องเพลง ฝากฟ้าทะเลฝัน ด้วยเสียงอันอ่อนโยนแต่แฝงทรงพลังในความอ่อนโยนนั้น แล้วส่งเทปที่อัดเพลงฝากฟ้าทะเลฝัน ในเวอร์ชั่นเสียงทดลองล่าสุดไปให้พี่เต๋อลองฟังอีกรอบ คราวนี้แหละได้เป็นที่ถูกใจพี่เต๋อเป็นอย่างมาก

พี่เต๋อ สั่งเลยว่า ขอให้พี่เบิร์ดยึดแนวทางแนวเสียงแบบที่ร้องในเพลงฝากฟ้าทะเลฝัน ครั้งนี้เอาไว้เป็นเอกลักษณ์ของพี่เบิร์ดตลอดไป

แล้วหลังจากนั้นอีกไม่นาน อัลบั้มหาดทราย สายลม สองเรา  อัลบั้มแรกของธงไชย แมคอินไตย์ ก็สำเร็จลุล่วงออกมาได้ในที่สุด

เพลงฝากฟ้าทะเลฝัน เพลงที่พี่เบิร์ดค้นพบแนวเสียงของตัวเอง


-------------------------

MV ที่พี่เบิร์ด ธงไชย หล่อที่สุด คือ เพลงนี้

จากรูปด้านบนสุดของบทความ ผมคิดว่า เป็นช่วงเวลาที่พี่เบิร์ดหล่อสุด ๆ ซึ่งรูปนั้นอยู่ใน MV อัลบั้ม ธงไชยเซอร์วิสพิเศษ ในเพลงก้อนหินกับนาฬิกา 

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ผมชอบมากในบรรดาเพลงทั้งหมดของพี่เบิร์ด



ตลอดระยะเวลา 30 กว่าปีในวงการบันเทิงและวงการเพลง พี่เบิร์ดได้พิสูจน์แล้วว่า คือขวัญใจมหาชนไทยอันดับ 1 ตัวจริง

พี่เบิร์ด เป็นขวัญใจของคนไทยทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็ก ๆ ก็ยังเรียกพี่เบิร์ด มาตลอด 30 กว่าปี

"ขออวยพรให้พี่เบิร์ดหมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ ให้แข็งแรงอายุยืนยาวถึง 100 ปีครับ"




คลิกอ่าน เบิร์ด ธงไชย vs สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คนปีเดียวกัน



วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

รัฐบาลไทยยังโง่กรณีกัมพูชาขึ้นทะเบียนโขนเป็นมรดกโลก







โดนเขมรใช้แผน 2 ชั้นรัฐไทยยังไม่รู้ตัว

คนที่มองตื้น ๆ ก็เฮว่า โขน ไทยได้ขึ้นทะเบียนแม้จะคนละประเภทกับละครโขนของเขมร
.
เขมร มันฉลาดที่ทำให้คำว่า "ละครโขน" เป็นของเขมรคิดเอง เขมรสร้างมาเอง ทั้งที่เดิมเขมรเลียนแบบการแสดงโขนมาจากไทย
.
ทั้งที่แต่ดั้งเดิม โขน มันคือศิลปะการแสดงชั้นสูงประจำชาติไทย ถ้าคนในโลกได้ยินคำว่า โขน เขาย่อมเข้าใจทันทีว่าหมายถึง ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ที่คนไทยคือผู้คิดค้นรูปแบบการแสดงแบบนี้ และเป็น ออริจินอล
.
เหมือนเช่น งิ้ว ก็คือศิลปะการแสดงชั้นสูงของจีน เป็นออริจินอล แม้ว่าต่อมาชาติอื่น ๆ จะนำงิ้วมาแสดงเองในประเทศตัวเองบ้าง แต่คนทั้งโลกต่างยอมรับว่า งิ้ว มีต้นกำเนิดที่จีนแดง

แต่ต่อไปถ้าคนในโลกได้ยินคำว่า โขน เขาอาจจะไม่คิดว่าโขนไทยคือ โขนออริจินอล แล้ว เขาจะเริ่มคิดว่า หรือดั้งเดิมเป็นของเขมรหว่า

และนานวันเข้า ๆ ยิ่งเขมรมีนครวัตนครธมที่เก่าแก่นับพันปีในประเทศเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างดี  ต่อไปคนในโลกเขาจะค่อย ๆ เริ่มเชื่อไปเองว่า

"อ้อ สงสัย โขน จะมีต้นกำเนิดจากเขมรมาก่อน"
.
สรุปง่าย ๆ คือ ภาครัฐไทยตั้งแต่ยุคจอมพลสฤษดิ์ ก็ยังโง่กว่าเขมรวันยังค่ำ
.
เขมรมันฉลาดที่ขึ้นทะเบียนอ้อม ๆ ไปก่อนในเบื้องแรก แต่ถ้าดูจากพฤติกรรมในโลกโซเชียลของเขมรที่ผ่าน ๆ มา  เราจะเห็นการบิดเบือนมาตลอดว่า โขน เขมรคิดเอง ไทยนั่นแหละที่มาเลียนแบบเขมร

ตัวอย่างความเห็นคนเขมรหลังจากไทยขึ้นทะเบียนมรดกโลก โขน โดยคนเขมรีคนนนี้เขาเชื่อว่า โขน มีต้นกำเนิดมาจากเขมร


ฉะนั้นใครที่ยังหลงโง่หลงปลื้มว่า ไทยขึ้นทะเบียนโขนประเภท 1 ดูมีค่ากว่า

ผมขอบอกเลยว่า ในอีกไม่เกิน 20 ปี คนทั้งโลกเขาจะเชื่อว่า โขนออริจินอล คือ โขนเขมร แน่นอน

ลองนึกภาพตามนะ เช่น ต่อไปที่นครวัตนครธม เมื่อมีการจัดแสดงแสงสีเสียงเมื่อไหร่ จะมีการแสดงโขนร่วมแสดงด้วยทุกครั้ง ต่อไปชาวโลกก็อยากมาดู โขน ที่นครวัตนครธม เพราะมันคือ โขนออริจินอล เขมรจะโฆษณาประชาสัมพันธ์แบบนี้.

ดังนั้น การขึ้นทะเบียน ละครโขน ของเขมรในวันนี้ เจตนาเพื่อประกาศว่า เขมร มีละครโขนเป็นของตัวเอง เขมรคิดค้นโขนเอง ไม่ได้ไปลอกขโมยโขนของชาติอื่นมา เพียงแต่ โขนของเขมรในวันนี้ เริ่มสูญหายสมควรให้โลกช่วยกันอนุรักษ์

โดยเฉพาะ โขนวัดสวาย ของเขมรที่นำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกประเภท 2

แต่เดิมโขนทวาย ก็เป็นโขนที่รับมาจากโขนไทยเช่นกัน เพียงแต่ว่า พอมาในยุคเขมรแดง การแสดงโขนทั่วประเทศกัมพูชาได้หายสาปสูญ คงเหลือโขนที่วัดสวาย เพียงแห่งเดียวที่เหลือรอดมาเท่านั้น
.
การขึ้นทะเบียนโขนสวาย คราวนี้เป็นมรดกโลกที่ควรอนุรักษ์เร่งด่วย เจตนาของเขมร ก็เพื่อจะชูโขนสวายว่า คือ โขนที่เขมรคิดค้นเองแล้วพัฒนาต่อมาเป็นโขนที่สวยงามอลังการในปัจจุบัน ด้วยภูมิปัญญาเขมรเอง

รัฐบาลไทยอย่าโง่ ช่วยส่งครูโขนไปช่วยสอนให้เขมรมันอีกล่ะ รับรองต่อเขมรมันจะเป็นศิษย์คิดล้างครู มั่วเอาโขนไทยไปเป็นของมันเองอีกแน่นอน

----------

ณ เวลานี้ ผมยังขอชื่นชม ลาว กับ พม่า ที่เขายอมรับว่า การแสดงรามายณะของเขาได้รับอิทธิพลโขนมาจากไทย แล้วนำไปปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามแบบฉบับของเขาเอง โดยทั้งสองประเทศเขายังให้เกียรติโขนไทยเป็นออริจินอล ไม่ไปขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก

เช่น โขนของลาว ก็มีรูปแบบคล้าย ๆ โขนไทย แต่ก็พอดูออกว่า มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง

กรณีพม่า ถ้าเขาจะขึ้นทะเบียนมรดกโลกการแสดงรามเกียรติ์แบบพม่าบ้าง เขาก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจริง ๆ ท่าร่ายรำและชุดสวมใส่แตกต่างจากโขนโดยสิ้นเชิง และไม่ใช่คำว่า โขน แต่พม่าเขาเรียกว่า ยามะซะตอ

ซึ่งการแสดง ยามะซะตอ ของพม่า ได้รับอิทธิพลจากโขนไทยก็เมื่อครั้ง กรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าในปี พ.ศ. 2310 พม่าได้กวาดต้อนผู้คนจากกรุงศรีอยุธยาเป็นเชลย ชนเหล่านี้มีทั้งเจ้านาย ช่างฝีมือ นักแสดง และนักดนตรีรวมอยู่ด้วย

หลังจากนั้นเป็นต้นมา รามายณะฉบับพม่า จึงรับอิทธิพลจากรามเกียรติ์ของอาณาจักรอยุธยาค่อนข้างสูงผ่านเชลยเหล่านี้ โดยต่อมา พม่าก็เริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดง ท่าร่ายรำ และเครื่องดนตรีให้เป็นรูปแบบเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของพม่าขึ้นมาใหม่ แบบที่เราเห็นในปัจจุบัน

ดูคลิปรามเกียรติ์พม่า 


แต่เขมรเนี่ยลอกเลียนไทยเราแบบเป๊ะ ๆ โดยเฉพาะท่ารำเลย เพียงแต่ว่าฝีมือการตัดชุดวิจิตรสู้ไทยยังไม่ได้เท่านั้นเอง



วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

นาคี 2 หนังไทยเป่านกหวีดเย้ยถิ่นเสื้อแดงอีสาน







นาคี 2 หนังไทยของบริษัท Search Entertainment และช่อง 3  โดยมีผู้กำกับมากฝีมือ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง กำกับการแสดง ได้ทำเงินไป 400 ล้านบาทแล้ว

หนังไทยฝีมือกำกับของคุณพงษ์พัฒน์ เป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดในปีนี้ แถมทำเงินในภาคอีสานมากที่สุดด้วยนะ

ทั้งที่เขาบอกว่า ภาคอีสานเสื้อแดงครองทั้งภาค 555

เมื่อหนังของพวกเป่านกหวีด ทำเงินมหาศาลทั่วประเทศผมรู้สึกสะใจครับ 😁

คุณแดง ธัญญา ภรรยาคุณพงษ์พัฒน์.





จอห์นนี่ แอนโฟเน่ เจ้าของบริษัท Search Entertainment ผู้ผลิตหนังนาคี 2



----------------

งานฉลอง 400 ล้าน นาคี 2 

ล่าสุด คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ดีใจมากจนขอเมียเดินทางมาร่วมงานฉลอง 400 ล้าน นาคี 2

คุณแดง ธัญญา ภรรยา บอกกับสื่อว่า เพราะได้ 400 ล้าน พี่อ๊อฟเลยรีบเดินได้เพราะอยากมาร่วมงานฉลองวันนี้ นี่ถ้าได้ถึงพันล้านเมื่อไหร่ พี่อ๊อฟ จะวิ่งมาร่วมงานฉลองอีกรอบ



#นาคี 2 ภาพยนตร์ที่คนอีสานอุดหนุนเยอะสุด ๆ 😁

---------------------

นิมิตหมายดีแห่งความสามัคคี

จะเสื้อแดง หรือจะเสื้อเหลือง หรือจะพวกเป่านกหวีด ก็ล้วนคนไทยด้วยกัน

ผมว่านะ การที่หนังนาคี 2 ทำรายได้ดีทั่วประเทศแบบนี้ ก็เป็นนิมิตหมายที่ดีว่า ความแตกแยกในสังคมไทยเริ่มลดลงในยุค คสช.

ผมล่ะเกรงจริง ๆ ว่า พอกลับไปมีการเลือกตั้งอีก กลัวคลื่นใต้น้ำ เพราะไม่อยากให้คนไทยต้องแตกแยกเข่นฆ่ากันเหมือนหลายปีที่ผ่านมาเลยจริง ๆ

อย่าให้นักการเมืองเป็นต้นเหตุให้คนไทยต้องแตกแยกกันเอง

ดูง่าย ๆ คนจริงใจต่อประชาชนจะไม่หนีเอาตัวรอดไม่ทิ้งประชาชน



คลิกอ่าน พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในความทรงจำของผม



วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

นิยามคำว่า คนดี ที่ผิดเพี้ยนในสังคมเสื่อมศีลธรรม






ตอนนี้สังคมไทยก็ยังชอบคิดผิดเพี้ยนเหมือนเดิม ๆ ว่า

คนรวยที่บริจาคเงินเยอะ ๆ แปลว่า เขาเป็นคนดี

#ยิ่งบริจาคมาก แปลว่า #ยิ่งเป็นคนดีมาก

ทั้งที่คำว่า คนดี แท้จริงแล้ว หมายถึง ผู้ที่ละเว้นการทำชั่วต่างหาก

------------------

คนดี ในความหมายของหลวงพ่อชา สุภัทโท

#ธรรมะหลวงพ่อชา
#คนดีคือผู้ละเว้นความชั่วทั้งปวง

" การไม่กระทำบาปนั้นมันเลิศที่สุด บางคนบางคราว โจรมันก็ให้ได้ มันก็แจกได้ 
แต่ว่าจะพยายามสอนให้มันหยุดเป็นโจรนั้นนะ มันยากที่สุด 
การจะละความชั่วไม่กระทำผิดมันยาก 
การทำบุญ โจรมันก็ทำได้ มันเป็น ปลายเหตุ
การไม่กระทำบาปทั้งหลายทั้งปวงนั้นนะเป็น ต้นเหตุ "





วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561

โรคบ้างาน กับ ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน







บทความนี้ผมเขียนขึ้นต่อเนื่องจากที่เคยโพสเรื่อง ยาหอมกับโรคหัวใจ ในเพจของผม ซึ่งถ้าใครได้อ่านโพสบนเพจของผมเรื่อง หัวใจวาย กับ ยาหอม แล้ว ก็ข้ามรูปแรกนี้ได้เลยครับ

โพสจาก ใหม่เมืองเอกเพจ


#โรคบ้างาน

จากโพสในเพจเรื่อง #ยาหอม กับ #โรคหัวใจวายเฉียบพลัน ด้านบน

ผู้ที่เจอภาวะโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันนี้ มักจะมีหน้าที่การงานดีแทบทั้งนั้น แต่จะเป็นคนทุ่มเททำงานหนัก และมักจะพักผ่อนน้อยร่วมด้วย ประกอบกับมีความเครียดสูง

คนที่ทำงานหนัก ในที่นี้หมายถึง งานจำพวกใช้ความคิดและเป็นงานไม่ได้ออกแรงกายเยอะ ๆ แล้วยังชอบอดนอน พักผ่อนน้อยสะสม แถมงานมีความเครียดสูง ซึ่งหลายคนอาจเครียดโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

เมื่อสะสมวิถีชีวิตและการทำงานผิด ๆ แบบนี้นานวันเข้า มักเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันได้ ทั้งที่หลายคนอาจไม่เคยมีอาการโรคหัวใจแสดงให้รู้ตัวมาก่อนด้วยซ้ำ



ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์อาการหัวใจวายเฉียบพลันและรอดตายมาได้เกือบทุกคน เคยเล่าประวัติตัวเองที่ผ่านมาว่า ตนเองก็มักมีวิถีชีวิตการทำงานที่ใช้สมองอย่างหนัก แถมพักผ่อนน้อยสะสม และงานมีความเครียดสูงทั้งนั้น

บางคนออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ก็ยังเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ เหตุเพราะใช้วิถีชีวิตที่ผิด ๆ สะสมมาก่อนนานหลายปีนี่แหละ

ยิ่งถ้ากินชอบอาหารตามใจปาก ได้รับคุณค่าอาหารที่ไม่สมดุล และไม่ค่อยออกกำลังกายด้วยเลย ยิ่งมีความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลันได้สูงขึ้น

ถ้าให้ผมเรียงลำดับความสำคัญ ผมยกให้ การนอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงคือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะต่อให้ทำงานหนัก และเครียดอย่างไร แต่ถ้าได้นอนหลับพักผ่อนเพียงพอทุกวัน (หรือเกือบทุกวัน) ก็มักจะไม่เกิดอาการหัวใจล้มเหลวได้ง่าย ๆ

บางคนคิดว่า ขอทำงานหนักติดต่อกันหลายวันก่อน แล้วค่อยหาเวลานอนหลับยาว ๆ ชดเชย ถ้าทำเช่นนี้เป็นประจำ แบบนี้นี่แหละที่ทำให้ร่างกายล้าสะสมโดยไม่รู้ตัว (ซึ่งจะส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว)

ถ้าคนอายุยังไม่เกิน 35 ปี ร่างกายยังหนุ่มยังสาวก็อาจพอทนได้ แต่ถ้าเกิน 35 ปีไปแล้ว แต่ยังใช้วิถีการทำงานที่ผิด ๆ อยู่ แถมนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อาหารการกินก็ห่วยเพราะตามใจปาก

สักวันอาจเป็นคุณที่มีหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้ 💔😨

หมายเหตุ ถ้าในเด็กและวัยรุ่น สำหรับอาการหัวใจวายเฉียบพลัน มักพบในพวกเด็กที่เป็น #โรคติดเกมงอมแงม (คงพอนึกภาพออกนะครับว่าทำไม)

---------

ส่วนพวกอาชีพที่ใช้แรงงานหนัก ถ้าพักผ่อนน้อย ๆ แถมชอบทานเหล้า รวมถึงยังกินอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ

คนพวกนี้มักเกิดอาการอีกแบบที่เรียกว่า ไหลตาย ครับ


คลิกอ่าน มหัศจรรย์ยาหอมไทนคุณค่าที่คุณควรรู้




วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561

พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ในความทรงจำของผม






ตอนผมเด็ก ๆ บริษัท JSL ได้สร้างละครแนวแฟนตาซี เรื่อง เมฆินทร์พิฆาต ในปี พ.ศ. 2528 มี พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง แสดงคู่กับ ธัญญา โสภณ

ผมไม่ได้สนใจที่จะดูละครเรื่องนี้ เพราะละครดันฉายตอนเช้าเสาร์อาทิตย์ทางช่อง 5 หรือช่อง 3 ไม่แน่ใจ ซึ่งตอนนั้นผมดันติดการ์ตูนช่อง 9 เสาร์อาทิตย์

แต่ได้เห็นบ้างแวบ ๆ และจำได้ดีว่า คือ ละครที่ทำให้คุณอ๊อฟกับคุณแดง รักกันมาจนวันนี้

คู่รัก อ๊อฟแดง มีพันธะสัญญาต่อกันว่า ทั้งคู่จะไม่แสดงบทจูบกับดาราคนใดอย่างเด็ดขาด เพื่อรักษาความสัมพันธ์และให้เกียรติความรักของกันและกัน

คุณอ๊อฟ เป็น 1 ใน 2 พระเอกละครในดวงใจของผม ซึ่งพระเอกในดวงใจของผมอีกคนคือ คุณตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง

พระเอกในดวงใจของผมทั้ง 2 คนนี้ เคยแสดงละครด้วยกันในเรื่อง อวสานเซลล์แมน โดยแสดงเป็นพี่น้องกัน ซึ่งเป็นละครที่ดีที่สุดเรื่องนึงของช่อง 3 ในอดีต เป็นละครที่ทำให้ น้องแว่นสาวข้างบ้านผู้น่ารัก นางเอกในเรื่อง โด่งดังเป็นนางเอกเบอร์ต้น ๆ ของช่อง 3 นั่นคือ คุณนก จริยา

--------

ละครที่คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ แสดงเป็นพระเอกที่ยังตราตรึงในความทรงจำของผม คือ

เทวดาตกสวรรค์ , ด้วยสองมือแม่นี้ที่สร้างโลก , แก้วกลางดง

ส่วนที่คุณอ๊อฟ แสดงเป็นตัวร้าย ที่ผมชอบที่สุดคือบท เสือโหย โจรโรคจิต ในละครเรื่อง โปลิศจับขโมย ละครที่แจ้งเกิดนางเอกในดวงใจของผมคือ เชอรี่ เข็มอัปสรณ์

-------

ตอนคุณอ๊อฟ ออกอัลบั้มเพลง หรือที่เรียกว่าออกเทปชุดแรก เคนมีคนดูถูกว่า เสียงคุณอ๊อฟเหมือน เสียงหมาเยี่ยวรดสังกะสี ซึ่งตอนนั้นผมก็เห็นด้วยกับคำดูถูกนี้นะ คือ ไอ้คนด่าเนี่ย (ซึ่งเป็นสื่อคนนึงในวงการ) มันก็ช่างเปรียบเปรยซะจริง ๆ เล้ย 5555

แต่ที่ไหนได้ ไอ้เสียงหมาเยี่ยวรดสังกะสี คนนี้แหละ ที่กลายเป็นตำนานร็อคเกอร์คนนึงของวงการเพลงไทย

อ้อ ! ที่เห็นคุณอ๊อฟชอบใส่กางเกงยีนส์ตัวใหญ่ ๆ เวลาร้องเพลง

แต่คุณอ๊อฟบอกว่า ภายใต้กางเกงยีนส์นั้น คุณอ๊อฟ ไม่เคยใส่กางเกงใน เพราะใส่แล้วมันจะคัน 555



รูปละครเมฆินทร์พิฆาต จากเว็บพันทิป

สรุป ที่คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ป่วย เขาเรียกว่า อัมพฤกษ์

ซึ่งเป็นผลพวงมาจากโรคความดันสูงของคุณอ๊อฟ ที่เป็นอยู่ ซึ่งลูกสาวคุณอ๊อฟเล่าว่า พ่อไม่ค่อยทานยารักษาความดัน

โรคความดันสูงอันตรายกว่าที่คิดนะครับ อย่าประมาท

กรณีคุณอ๊อฟนี่ยังดีที่เป็นไม่มาก ยังคล้าย ๆ กรณีโจอี้ บาซู คือ ต้องกายภาพ แล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้น จนกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้ แต่จะประมาทอีกไม่ได้ไปตลอดชีวิต

โรคความดันสูงเนี่ย ต้องระวังเรื่องอาหาร ต้องไม่ทานรสชาติเข้มข้น รสจัด เพราะมักมีความเค็มแฝงในอาหารเยอะ รวมทั้งผงชูรสแฝงในอาหารก็น่ากลัว

บางคนเป็นโรคความดันสูง แต่ไม่เชื่อหมอ แถมยังดื่มเหล้า ก็พาให้เส้นเลือดแตกในสมองตายมานักต่อนักแล้ว

แล้วต้องทานยาควบคุมความดันให้สม่ำเสมอตามหมอสั่ง ห้ามขาดยา

เพราะทุกครั้งที่ความดันสูง นอกจากเส้นเลือดในสมองที่มีความเสี่ยงแล้ว #ไต ก็จะค่อย ๆ เสื่อมลงเรื่อย ๆ ถ้าคุมความดันสูงไม่อยู่ครับ

โรคความดันสูงถ้าไม่เส้นเลือดสมองแตกตายก่อนก็จะมีไตวายเป็นจุดหมายปลายทาง

#ขอให้คุณอ๊อฟหายไวๆเพื่อกลับมาสร้างสรรค์ผลงานดีๆให้แฟนๆต่อไปครับ ขอบคุณ

#ใจนักเลง

--------------------

คุณอ๊อฟ ป่วยแบบคนมีบุญ

นับตั้งแต่ที่คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ป่วยจากอาการเส้นเลือดตีบในสมองในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ไอ้พวกล้มเจ้ามันตามด่าตามแช่งคุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ในหลายเว็บ พร้อมทั้งยกคลิปเก่าที่คุณอ๊อฟ พูดว่า ถ้าใครไม่รักพ่อก็ออกจากบ้านพ่อไป ซึ่งทั้งที่มันก็เป็นคำพูดที่ใช้ได้กับลูกทุกคน คือ ถ้าลูกคนไหนไม่รักพ่อ ก็แค่ย้ายออกจากบ้านไป จริงมะ

การพูดในวันนั้น คุณอ๊อฟ ไม่ได้เอ่ยชื่อใครหรือเจาะจงถึงใคร แต่ไอ้พวกวัวสันหลังหวะ มันดันเดือดร้อนไปเอง

แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้คุณอ๊อฟ ดีวันดีคืน ตามรูปจากเฟสของเลขานุการส่วนพระองค์ในพระองค์โสม ฯ




คุณอ๊อฟ ถึงจะป่วยก็ป่วยแบบ คนมีบุญ คือ มีลูกเมียที่รักคอยดูแลใกล้ชิด มีคนให้กำลังใจมากมายทั้งประเทศอย่างอบอุ่น ครับ

จากรูป ชายหญิงที่ยืนด้านขวามือของคุณอ๊อฟคือลูกสาวและลูกชายของคุณอ๊อฟ

--------------

ปิดท้ายบทความด้วยละครสั้น ที่ดัดแปลงจากเรื่องสั้นเรื่อง ฆาตกรรมจากก้นครัว ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

นำแสดงโดย สินจัย เปล่งพานิช



คลิปละครเรื่องนี้เจตนานำเสนอเกี่ยวกับภัยแฝงที่อยู่ในอาหารการกินรสชาติเข้มข้น รสจัดจ้าน

คลิกอ่าน บทเรียนราคาแพงของ วีเจจ๋า กับคำว่า เมียน้อย 2018



วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พฤติกรรมผิด ๆ ของแม่ตอนตั้งครรภ์ ทำให้ลูกเสี่ยงเป็นโรคอ้วนง่ายขึ้น







เมื่อวันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ช่อง 7 สี ได้นำสารคดีต่างประเทศชุด เซลล์ มหัศจรรย์แห่งชีวิต (HUMAN LIFE OUR AMAZING CELLS) มาออกอากาศตอน 04.11 น.

ในสารคดีพูดถึงการปฏิสนธิของมนุษย์ทุกคนว่า มีขั้นตอนต่าง ๆ อย่างไร หลังจากที่อสุจิเข้าไปในมดลูดของแม่ได้แล้ว

แต่ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดของสารคดีชุดนี้ซึ่งเป็นผลของการวิจัยค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ต่างประเทศ ที่ผมสนใจอยากจะนำมาแชร์ต่อก็คือ

สารคดีเขาได้พูดถึงว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบสาเหตุที่แม่มีส่วนทำให้ลูกที่กำลังจะเกิดขึ้นมากลายเป็นเด็กที่มีความเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้มากขึ้น หากในระหว่างตั้งครรภ์แม่มีพฤติกรรมเสี่ยง

ซึ่งพฤติกรรมเสี่ยงของแม่ ที่ทำให้ลูกที่อยู่ในครรภ์จะกลายเป็นคนที่มีความเสี่ยงเกิดโรคอ้วนง่ายหลังจากเกิดมาแล้ว นั่นก็คือ

ในระหว่างการตั้งครรภ์ แม่กินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินไป

การที่ปัจจุบันนี้ ผู้หญิงจำนวนมากกลัวการบริโภคอาหารประเภทแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป เหตุเพราะกลัวจะอ้วน

จึงทำให้เวลาผู้หญิงที่กลัวอ้วนจากการบริโภคอาหารประเภทแป้ง จึงมักกินแป้งน้อยลงในระหว่างการตั้งครรภ์ไปด้วย แล้วไปบริโภคอาหารประเภทโปรตีนมากขึ้นแทน

ซึ่งผลจากการที่แม่ทานอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตน้อยลงมากในระหว่างตั้งครรภ์นั้น ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรหัส DNA ในสายสะดือของลูก เพราะกลไกร่างกายของลูกเกิดการเข้าใจผิดว่า ขณะนี้โลกภายนอกกำลังขาดแคลนอาหาร กำลังแห้งแล้ง โลกกำลังขาดแคลนพืชอาหาร หรือแปลว่า โลกในตอนนั้นมีอาหารน้อย พืชผลบนโลกตอนนั้นกำลังขาดแคลน

เหตุเพราะ อาหารประเภทแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารที่ได้จากพืช

-----------------


ดังนั้นเมื่อแม่ทานอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตน้อยลงมากผิดปกติ ทำให้ร่างกายส่งสัญญาณไปเปลี่ยนแปลงรหัส DNA ของลูกให้เกิดการปรับตัวเพื่อเอาชีวิตรอดหลังจากเกิดขึ้นมาบนโลก (ที่กำลังขาดแคลนอาหาร)

ด้วยการสั่งให้เซลของเด็กคนนั้นจะเปลี่ยนสารอาหารประเภทแป้งที่ได้รับมาน้อยนิดจากแม่ ให้กลายเป็นไขมันได้ง่ายขึ้น

ดังนั้น ทารกที่ได้รับสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตน้อยมากระหว่างอยู่ในครรภ์มารดา ก็จะเกิดมาเป็นเด็กที่อ้วนง่าย กลายเป็นคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตให้เป็นไขมันสะสมในร่างกายได้ง่าย  เพื่อการอยู่รอดในโลกที่กำลังขาดแคลนอาหาร

เหตุเพราะแม่กินอาหารประเภทแป้งน้อยมากในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้ร่างกายของลูกถูกกลไกของร่างกายหลอกว่า โลกกำลังขาดแคลนอาหาร โลกกำลังแห้งแล้งไม่มีพืชมากพอเพื่อเป็นอาหาร


-------------------

สรุปท้ายบทความ

การที่ปัจจุบันนี้ เราเห็นเด็ก ๆ เป็นโรคอ้วนกันง่าย หรือผู้ใหญ่ในยุคปัจจุบันเป็นโรคอ้วนกันง่าย ทั้ง ๆ ที่พยายามงดหรือลดอาหารประเภทแป้งกันมากแล้ว แต่ก็ยังอ้วนง่ายอยู่ดี

สาเหตุสำคัญที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบก็คือ เพราะแม่กลัวการทานอาหารประเภทแป้งมากเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์ เพราะแม่กลัวอ้วนเกินจึงทำให้แม่ทานสารอาหารต่าง ๆ ไม่สมดุล ด้วยการทานแป้งน้อยเกินไป และทานโปรตีนสูงทดแทน

เมื่อแม่กินอาหารประเภทแป้งน้อยมากในระหว่างตั้งครรภ์ จึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับ DNA ของลูกเพื่อความอยู่รอด ด้วยการกลายเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงสารอาหารประเภทแป้งให้เป็นไขมันสะสมได้ง่ายขึ้น


กรุณาดูคลิปนี้เพื่อเปลี่ยนความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการทานอาหารประเภทแป้งน้อยมากของแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งจะทำให้ลูกเกิดมาเป็นคนที่เป็นโรคอ้วนง่าย





วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561

ความกลัวคือเหตุจูงใจให้ธนาคารยกเลิกค่าธรรมเนียมผ่าน app






สาเหตุที่ธนาคารยกเลิกค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านแอพ

ผมล่ะขำ ที่ผู้คนตื่นตกใจข่าวที่ธนาคารใหญ่หลายธนาคารยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการเงินผ่านแอพของธนาคาร

คือผมรู้อยู่แล้วว่า ยังไง ๆ ก็ต้องถึงวันที่ธนาคารต้องทำเยี่ยงนี้ นั่นคือ กลยุทธ์ชิงเชือดเนื้อตัวเองก่อนเพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้

เพราะอะไร ธนาคารต้องรีบทำเช่นนี้ ?

คุณผู้อ่าน จำข่าวเก่าเมื่อเดือนที่แล้วได้ไหม ที่มีข่าวลือว่า ต่อไป ธปท. อาจจะอนุมัติให้เซเว่นเป็นธนาคารได้ (สุดท้ายยังเป็นแค่ Banking agent เพราะยังมีการกีดกันขัดขวางการเกิดธนาคารเซเว่นอยู่)

ซึ่งถ้าในต่างประเทศเขามี 7-11 bank ไปแล้ว (ดูกรณี ธนาคาร 7-11 ของญี่ปุ่น ที่ https://bit.ly/2GkC0BQ )

นี่แหละครับ คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธนาคารไทยเริ่มขาสั่น กลัว 7-11 จะยึดธุรกรรมการเงินทุกช่องทางมากขึ้น

ถามว่า แล้วคนที่ไม่มีบัญชีเงินฝากในธนาคาร หรือขี้เกียจไปธนาคารล่ะ ถ้าเขาอยากใช้เงินดิจิตอลผ่านสมาร์ทโฟนบ้างล่ะ เขาจะทำไง ?

เขาก็โหลดแอพ True Money Wallet มาไว้บนมือถือซะ ซึ่งสามารถใช้กับเบอร์มือถือของทุกค่าย

เพียงเท่านี้ คุณก็จะทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่าน true money wallet ได้ทั้งหมด แถมสามารถโอนเงินจากธนาคารทุกธนาคารผ่านแอพทรูนี้ได้เหมือนกัน




ผมสรุปง่าย ๆ คือ ธนาคารไทยทุกธนาคารกำลังกลัวเซเว่นอีเวลพเว่นมากที่สุด เพราะเซเว่น ฯ เข้าถึงง่ายกว่า

เราซื้อทุกอย่างได้ที่ 7-11 แต่เราซื้อน้ำเปล่าสักขวดที่ธนาคารยังไม่ได้เลย จริงมะ ?

ธนาคารทยอยปิดสาขา แต่เซเว่นกลับยิ่งเปิดสาขา

แวะเติมเงินเข้าแอพที่เซเว่นก็ง่าย หรือซื้อบัตรเติมเงินทรูแล้วกลับมาเติมเข้าแอพเองก็ได้ หากเราไม่มีบัญชีในธนาคาร




ลองนึกถึงพวกอาชีพที่ไม่มีเงินเดือนประจำสิ เขาจะใช้บริการทางการเงินที่ไหนจะสะดวกที่สุด ?!

ถ้าคุณเคยโหลดแอพทรูมันนี่วอลเลทมาใช้ คุณจะเข้าใจที่ผมอธิบายว่า แอพนี้ทำได้มากกว่าแอพของธนาคารเสียอีก

ยิ่งถ้า true money wallet ฟรีทุกค่าธรรมเนียมได้เมื่อไหร่ แอพํของธนาคารหนาวแน่


จ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟ ค่าทางด่วน ผ่านแอพทรูมันนี่ ฟรีทุกค่าธรรมเนียม


----------

เมื่อสองวันก่อนมีข่าว ร้านค้าที่ติดเครื่องรูดบัตรสวัสดิการคนจน จะขอคืนเครื่อง เพราะกลัวว่าถ้าขายดีมาก ๆ รัฐจะให้ร้านค้านั้น ๆ ต้องเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข่าวนี้บอกถึงอะไร ?

แล้วบริการ prompt pay ที่ผูกติดกับบัตรประชาชนผ่านบัญชีธนาคารและเบอร์มือถือ

นี่ก็ทำคนกลัวเรื่องข้อมูลรายได้ของตัวเองจะรั่ว กลัวจะเสียสิทธิคนจน กลัวรัฐรู้ว่าตัวเองรวย กลัวต้องจ่ายภาษีเงินได้ประจำปีให้รัฐ

ดังนั้นต่อไป โครงการ พร้อมเพย์ ที่รัฐสนับสนุนอาจจะไปไม่รอด อีกทั้งพร้อมเพย์ไม่สามรรถจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่น ๆ ได้

ทีนี้คุณผู้อ่านพอคิดต่อได้แล้วใช่ไหมว่า ที่จริงธนาคารกลัวอะไร ?!

ผมบอกเลยว่า ถ้าซีพีจะทำกิจการการเงินผ่าน true และ 7-11 จริง ๆ ธนาคารไทยทุกธนาคารจะเริ่มอยู่ยากมากขึ้นทุกวัน

------

ธนาคารไทยร่วมกันเอาเปรียบดอกเบี้ยกับคนไทย

เฟด หรือธนาคารกลางสหรัฐ ฯ เขาได้ประกาศเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝากถึง 1.5 % แล้ว และว่าจะทยอยประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้

แต่คนไทยยังก้มหน้ารับกรรมกับดอกเบี้ยเงินฝากต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากที่สหรัฐ ฯ ต่อไป

คนไทยเราเจอธนาคารไทยจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ แต่คิดดอกเบี้ยเงินกู้สูง ส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินฝากกับดอกเบี้ยเงินกู้ ต่างกันมากเกินไป

นี่คือการร่วมกันเอาเปรียบประชาชนของบรรดาธนาคารไทย

ลองดูอัตรากำไรของทุกธนาคารที่เพิ่มมากขึ้นทุกปีสิ รวยเอา ๆ แต่กลับร่วมกันกดดอกเบี้ยเงินฝากให้ต่ำลง ๆ แต่กินดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมเงินกู้ยุบยับ (โดยมี ธปท. ร่วมฮั้วผ่านนโยบายดอกเบี้ย)

ดังนั้น ผมจึงชอบที่ตอนนี้ธนาคารไทยกำลังกลัว CP และ 7-11 มากขึ้น

ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่ที่การวิ่งเต้นกีดกันเซเว่น ฯ ของพวกธนาคารผ่านนโยบายของ ธปท.
.
สมรภูมิทางการเงินยังอีกยาวไกล
ยิ่งดุเดือดประชาชนยิ่งได้ประโยชน์
.
หมายเหตุ เคยลือกันว่า ซีพีอยากจะซื้อกิจการธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์(หรือธนาคารเล็ก ๆ สักธนาคาร) เพื่อหาทางเลี่ยงนโยบายกีดกันธนาคาร 7-11 ของ ธปท.




วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

เขาทราย แกแล็คซี่ ผิดศีลข้อ 3 อย่างไม่สะทกสะท้าน







เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์เปี้ยนมวยโลกขวัญใจชาวไทย ได้แต่งงานใหม่เป็นครั้งที่ 3 และมีลูกกับเมียใหม่แล้วถึง 2 คน โดยที่ยังไม่ได้หย่าขาดกับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ทั้งที่มีลูกกับภรรยาคนนี้ 1 คน)

(เมีย หมายถึง เมียที่ยังไม่จดทะเบียนสมรส
ภรรยา หมายถึง เมียที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแล้ว)

ระเด็นสำคัญคือ คุณ "ฟ้า" ภรรยาที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายของเขาทราย ยังไม่ยอมจดทะเบียนหย่ากับเขาทราย แต่เขาทรายได้หมดรักภรรยาแล้ว

แต่เมื่อภรรยาไม่ยอมหย่าให้

เขาทราย เลยตัดสินใจทิ้งภรรยาเพื่อไปแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ ตามคำสัมภาษณ์ของเขาทราย ในรายการคลับฟรายเดย์ ดังนี้

“แล้วก็มามีความรักครั้งใหม่กับคนไทย อยู่กันมานานมาก 20 ปี มันก็หวานอมขมกลืน ก็เลยบอกเลิกเขาแต่เขาไม่ยอมเลิก แล้วก็ไม่ยอมหย่าให้ด้วย ทั้งๆ ที่เราก็ห่างกันแล้วนะ จนเรามาปิ๊งคุณหนึ่ง ภรรยาคนปัจจุบันของเรา เมื่อไม่ยอมหย่าเราก็แต่งกับคนนี้ซะเลย

“แต่ตอนนั้นภรรยาเก่าเขาไม่รู้นะ เราบอกเขาว่าไปงานอีเวนต์ เตะบอลกับเพื่อนๆ แต่พอเราแต่งงานกับคุณหนึ่งแล้ว เราก็ยกทุกอย่างให้ภรรยาเก่าไปหมดเลย คือมาอยู่กับคุณหนึ่งผมมาแต่ตัวกับหัวใจจริงๆ คุณหนึ่งเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบที่สุด และเป็นแม่ที่น่ารักของลูกๆ ด้วยครับ” เขาทราย แกแล็คซี่ กล่าว

-----------------------

สรุปสั้น ๆ คือ เขาทราย ยังไม่ได้หย่ากับภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่หนีไปแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่



ประเด็นตรงนี้ ถ้าในทางหลักพุทธศาสนา ถามว่า เขาทรายได้กระทำผิดศีลข้อ 3 หรือไม่ ?

ศีลข้อ 3 คือ ห้ามประพฤติผิดในกาม

ในกรณีของเขาทราย ไปแต่งงานกับหญิงอื่น ทั้งที่ภรรยายังไม่ยอมหย่านั้น คล้ายกับกรณีของผู้หญิงคนนึงได้ถามคุณดังตฤณ ไว้ตามนี้ครับ


ผู้หญิงถามว่า "ได้บอกสามีว่าต้องการหย่าอย่างชัดเจน แล้วออกมาอยู่ข้างนอกโดยไม่ได้ติดต่อเค้าเลย เพียงแต่เค้ายังไม่ยอมหย่ากับเรา ถ้าเราจะไปมีคนอื่น อย่างนี้จะผิดไหมคะ ?"

คุณดังตฤณ ได้ตอบว่า

" ในยุคสมัยที่คนเราเท่าเทียมกันโดยกำเนิด ฝ่ายใดบอกเลิก ตั้งใจเด็ดขาด และประพฤติตนตามที่เลิก ถือว่าเป็นสิทธิอันชอบธรรมครับ แม้อีกฝ่ายไม่ยินยอม ก็เป็นเรื่องของเขา

อย่างไรก็ตาม หากมีพันธะผูกพันตามกฎหมาย เป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนกัน อันนี้กลายเป็นอีกเรื่องแล้ว

ใบทะเบียนสมรสหรืองานแต่ง มีอิทธิพลทางใจสูงกว่าข้อตกลงด้วยปากเปล่า เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการว่า เป็นเจ้าของกันและกัน

ซึ่งเป็นที่ทราบกันทั่วโลกว่า ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะต้องไม่นอกใจกัน มีกันและกันเป็นคู่นอนเพียงหนึ่งเดียว เกิดข้อตกลงว่า จะ ‘ให้สิทธิ์ครอบครอง’ กันและกัน"



--------------------

ดังนั้นสรุปก็คือ เขาทราย แกแล็คซี่ รวมทั้งเมียใหม่ของเขาทราย ได้กระทำผิดศีลข้อ 3 ด้วยกันทั้งคู่ 

โดยในส่วนฝ่ายชายคือ เขาทราย ได้นอกใจภรรยา โดยภรรยาไม่ยินยอมพร้อมใจที่จะหย่าขาดให้ เท่ากับภรรยาของเขาทราย ยังมีสิทธิอันชอบธรรมในตัวของเขาทราย ที่จะไม่ยินยอมให้เขาทรายไปมีผู้หญิงอื่น

ส่วนเมียใหม่ของเขาทราย ก็ผิดศีลช้อ 3 เช่นกัน คือ แย่งสามีของคนอื่นมาเป็นผัวของตัวเอง ครับ

คือเมียใหม่ของเขาทราย ได้อ้างว่า ไม่รู้ว่าเขาทรายยังไม่ได้หย่า เพราะตอนแต่งงานกับเขาทราย ก็คิดว่า เขาทรายเลิกกับภรรยาแล้ว เพราะเขาทรายเคยบอกว่า เลิกกันแล้ว ก็เลยเชื่อเขาทราย

แต่ได้มารู้ภายหลัง ๆ จากแต่งงานไปแล้วว่า ความจริงเขาทรายยังไม่ได้จดทะเบียนหย่ากับภรรยา แต่สุดท้ายเมียใหม่ก็ยังเลือกที่จะอยู่กินกับเขาทรายต่อไป ทั้งที่เขาทรายยังไม่ได้หย่ากับภรรยา

ผมขอสรุปในส่วนของเมียใหม่ของเขาทราย ก็คือ เมื่อรู้ว่าเขาทรายยังไม่ได้หย่า ก็ยังจะขออยู่กินกับเขาทรายต่อไป ก็เข้าข่ายเป็นเมียน้อยที่แย่งสามีคนอื่นอยู่ดีครับ จึงถือว่า ผิดศีลข้อ 3 เช่นเดิม 

ส่วนในเวลาต่อมา ครอบครัวใหม่ของเขาทรายจะมีความสุขดีหรือไม่

ผมไม่ขอวิจารณ์ต่อ เพราะมันนอกเหนือประเด็นเรื่องผิดศีลข้อ 3 หรือไม่ ตามที่ผมต้องการนำเสนอครับ

ที่สำคัญคือ ณ เวลานี้ มันเป็นการพูดข้างเดียวของเขาทรายกับเมียใหม่เท่านั้น

ส่วนใครสนใจรายละเอียด คำสัมภาษณ์ของเขาทรายในเรื่องนี้ ก็ดูได้ตามคลิปฉบับเต็มนี้ครับ



คลิกอ่าน ค่านิยมผู้หญิงจำนวนมากส่งเสริมผู้ชายผิดศีล