วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

กลยุทธ์รวยหลอกแดก ของ ตัน อิชิตัน








โดยส่วนตัว ผมชื่นชมคุณตัน ภาสกรนที ที่สร้างฐานะจากศูนย์จนเป็นมหาเศรษฐีได้ ทั้ง ๆ ที่เขาเรียนจบแค่ ม.3 เท่านั้น แต่ไม่ใช่ ม.3 ธรรมดา ๆ นะ แต่เป็น ม.3 ที่เกาะปีนังนะครับ

ผมชื่นชมที่คุณตันทำบุญทีละจำนวนมากๆ ในการช่วยเหลือน้ำท่วมปี 54 โดยเฉพาะได้นำเสนอออกรายการเล่าข่าวแบบร่วมธุรกิจกับสรยุทธอย่างสม่ำเสมอ

ในกลยุทธ์การตลาด เราต้องยอมรับว่า การทำบุญแบบคุณตัน มันชั่งเข้าตาประชาชนจริงๆ ทำบุญคืนแก่สังคมทีละหลายๆ ล้านแบบคุณคัน แม้จะหวังผลทางการตลาดด้วย แต่ผมว่าก็ดีกว่าเอาเงินไปจ้างดาราค่าตัวแพงๆ มาโฆษณา

การตลาดแบบคุณตันมีส่วนช่วยเหลือสังคม ถ้าเอาเงินไปจ้างดาราดังๆ แพงๆ บางคน ที่เอาเงินค่าตัวไปซื้อกระเป๋าใบละหลายแสนหรือเป็นล้านมาอวดในอินสตาแกรม ผมว่า ที่คุณตันใช้การตลาดแบบคืนกำไรให้สังคมไปด้วยนั้นดีกว่าเยอะ

ในช่วงน้ำท่วมใหญ่คุณตันบริจาคไปเกือบ 100 ล้านบาท จนดังกว่าใครๆ ประชาชนต่างอึ้งว่า ทำไมเศรษฐีคนนี้ทำบุญได้มากขนาดนี้ เขาชั่งใจบุญจริงๆ ซึ่งส่งผลให้ภาพลักษณ์สินค้าอย่างชาเขียวอิชิตัน ก็พลอยขายดีขึ้นไปด้วย

บางคนก็ว่าเลือกกินอิชิตันดีกว่ากินโออิชิ เพราะโออิชิ ไม่เห็นบริจาคอะไรเลย ?

แต่แท้จริงแล้ว เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของไทยเบฟ ซึ่งเป็นเจ้าของโออิชิ ด้วยนั้น ได้สร้างโรงพยาบาลโรคไต ถวายให้ในหลวงไป 1 โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งคนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ ?


โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ 


------------------------

ตอนน้ำท่วมโรงงานอิชิตัน

ผู้คนทั่วประเทศ รวมทั้งผมด้วย ต่างเห็นใจคุณตันมากๆ เพราะโรงงานอิชิตันที่เพิ่งจะสร้างเสร็จใหม่ ๆ กลับต้องมาจมน้ำท่วมที่อยุธยา

ทั้ง ๆ ที่คุณตันเองก็เพิ่งจะทำทานใหญ่ ด้วยการบริจาคเงิน 40 ล้านบาทช่วยอุทกภัยแท้ ๆ

หรืออาจเพราะคุณตันนำเงินบริจาค 40 ล้านบาทนั้น ไปมอบให้ยิ่งลักษณ์ก็ไม่รู้ เลยได้บุญไม่เต็มที่ ??

สงสัยทำบุญผ่านคนชั่ว เลยได้บุญน้อย 555



หรือว่า เพราะใช้การทำบุญนำการตลาดมากไป บุญก็เลยตกหล่นระหว่างทางไปเยอะ ?

เมื่อตอนสรยุทธตามไปทำข่าวโรงงานอิชิตันล่ม คุณตันร้องไห้ แต่บอกจะไม่ท้อ

เชื่อว่า คนไทยที่ชอบกินชาเขียว คงคิดในใจว่า ถ้าจะกินชาเขียวต้องเลือกกินอิชิตัน เพื่อจะได้ช่วยคุณตัน

แต่ดันมีพวกเสื้อแดงบางคน เว็บแดงบางเว็บ เสือกทำรูปด้านล่างนี้ออกมา เลยทำให้ความดีของคุณตัน มีรอยด่างพร้อย เพราะมีคนคิดทำนองว่า

"เอ๊ะ พวกเสื้อแดงมาช่วยโปรโมทให้ เพราะคุณตันรู้เห็นเป็นใจรึเปล่า แล้วให้สรยุทธช่วยสร้างกระแสดราม่าซ้ำ เพื่อหวังโฆษณาทางอ้อมดึงให้คนไปอุดหนุนชาเขียวอิชิตันของคุณตัน ด้วยความสงสารเห็นใจ เพื่อจะได้มีเงินมาซ่อมโรงงาน"



รูปนี้ผมนำมาจากไทยอีนิวส์ บล็อคดังของเสื้อแดง ที่นำมาจากเฟสบุ้คเสื้อแดงอีกที


อกจากนี้ยังมีกระแสข่าวลือว่า โอ๊ค กับสรยุทธ มีหุ้นในอิชิตันด้วยนี่สิ แต่ผมไม่เชื่อข่าวลือนี้หรอก พวกเขา 3 คนก็แค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้นแหละ หรืออาจมีหุ้นกันในธุรกิจอื่น ๆ มากกว่า

ในปี 2554 มีโรงงานจมน้ำท่วมเจ๊งมากมาย แต่โรงงานของคุณตันกลับได้ดราม่าออกรายการของสรยุทธมากที่สุด

ถ้าคิดในแง่ดี คงเพราะคุณตันได้บริจาคช่วยน้ำท่วมผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้มากที่สุด เลยทำให้สรยุทธจึงอยากตอบแทนน้ำใจเพื่อนสนิทอย่างคุณตันมั้ง

-----------------------

ชาอิชิตัน ออร์แกนิคไม่ 100 %

แม้คุณตันจะพยายามโฆษณาว่า ใบชาที่นำมาผลิตชาเขียวอิชิตันนั้น เป็นใบชาที่ปลูกแบบออร์แกนิค ไร้สารเคมีปนเปื้อน แม้ข้างขวดอิชิตันจะไม่ได้อ้างอิงสถานที่ที่ปลูกชาว่า ปลูกที่ไหน ได้การรับรองมาตรฐานออร์แกนิคจริงหรือไม่ เพราะตามหลักสินค้าออร์แกนิคต้องระบุแหล่งที่มาอย่างชัดเจน

เพราะผมไปตามดูที่เว็บอิชิตัน ก็ไม่มีการระบุสถานที่ที่ใช้ปลูกชาเขียวว่าตั้งอยู่ที่แห่งหน ตำบลไหน จังหวัดอะไร ในเมืองไทย นี่เท่ากับปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรตรวจสอบได้

แต่ที่แน่ๆ ชาเขียวอิชิตันทุกขวด ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค100% แน่นอน

เพราะในส่วนประกอบข้างขวด ระบุว่า แต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ!!?





ถ้าต้องแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติ ชาอิชิตันก็ไม่ออร์แกนิคแล้วครับ

การที่โฆษณาว่าอิชิตันผลิตจากใบชาออร์แกนิคแท้ ๆ  ก็คือการพูดความจริงครึ่งเดียว แต่เจตนาที่เหลือคือ เจตนาบิดเบือนความจริงให้ผู้บริโภคหลงเข้าใจผิดไปว่า ชาอิชิตันคือมาจากธรรมชาติแท้ ๆ  ปราศจากสิ่งสังเคราะห์

ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีนะคุณตัน ผมเองไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมต้องแต่งกลิ่นเลียนธรรมชาติด้วย ให้มันธรรมชาติแท้ ๆ ไม่ได้เหรอ ??

------------------------

ส่งรหัสใต้ฝาชิงทองวันละล้าน 60วัน60ล้าน คุณตันรวยทั้งปี

เพราะคุณตันรู้นิสัยคนไทยดีว่า ชอบหวังรวยทางลัด ชอบรวยแบบง่ายๆ แต่ไม่ต้องทำงานหนัก ชอบรวยเร็วจากการเสี่ยงโชค

แคมเปญแจกทอง 60 วัน 60 ล้าน จึงตอบสนองความโลภของคนไทยที่ชอบรวยง่ายๆ รวยลัดๆ ได้โดนใจ ซึ่งมีคนจำนวนมากบอกว่าไม่ได้ชอบกินชาเขียว แต่เพราะอยากลุ้นโชค ก็เลยต้องซื้ออิชิตันมากินเพื่อส่งชิงโชคบ้าง หรือถ้

โปรโมชั่น แจกทองคำมูลค่า 1 ล้านบาท 60 วัน 60 ล้านนั้น คุณตันเคยให้สัมภาษณ์ว่า โปรโมชันนี้เน้นเจาะตลาดต่างจังหวัดหรือตลาดล่างโดยเฉพาะ เพราะเดิมลูกค้าหลักของอิชิตัน มีแค่กลุ่มคนในเมือง กลุ่มคนกรุงเทพ กลุ่มชนชั้นกลาง เท่านั้น

การที่คุณตัน ใช้กลยุทธ์ส่งรหัสตัวเลขใต้ฝาเพื่อแจกโชค เพราะคุณตันรู้ดีว่า คนต่างจังหวัดส่วนใหญ่มุ่งเน้นลุ้นโชค อยากรวยเร็วมากกว่าสนใจในตัวสินค้าจริง ๆ

เพราะถ้าคนต่างจังหวัดสนใจในชาอิชิตันมากกว่าลุ้นโชค คุณตันก็คงไม่ต้องใช้กลยุทธ์รางวัลมาล่อหรอก

และผลตอบรับก็ดีเกินคาด จากที่คุณตันหวังว่า ยอดขายจะเพิ่มขึ้นสัก 30 % แต่กลายเป็นว่ายอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 100 %

จากส่วนแบ่งตลาดรวมเดิมในปี 2554 อิชิตันกินส่วนแบ่งตลาดรวมที่ 10 % เท่านั้น แต่พออัดโปรโมชันติดต่อกันในปี 2555 -2556 จนทำให้แค่ครึ่งปีแรกของปี 2556 อิชิตันก็กินส่วนแบ่งตลาดรวมที่ 44 % เข้าไปแล้ว กลายเป็นผู้นำตลาดชาเขียวในที่สุด

เพราะถ้าเราดูจากยอดขายในปี 2554 อิชิตันมียอดขายเพียง 1,057 ล้านบาท แต่พอจัดแคมเปญแจกทอง 60 วัน 60 ล้าน และหลาย ๆ แคมเปญต่อเนื่องตลอดปี 2555 แทบไม่มีหยุด

ยอดขายในปี 2555 ของบริษัทอิชิตัน เพิ่มขึ้นเป็น 3,907 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 เกือบ 4 เท่า

แน่นอน พอคุณตันใช้กลยุทธ์แจกโชค ก็ทำให้คู่แข่งอย่างโออิชิ ก็ใช้แคมเปญแจกโชคตามบ้าง

แต่พอโออิชิทำตาม คุณตันก็จะเกทับทำให้ดังให้มันใหญ่กว่าโปรโมชั่นของโออิชิทุกครั้งไป โดยมีสรยุทธช่วยดันอีกแรง

การที่คุณตันและอิชิตันประสบความสำเร็จในการใช้รางวัลใหญ่ล่อหลอกคนชอบรวยทางลัดตลอดปี 2556 อีก ก็ทำให้ยอดขายในปี2556 ก็เพิ่มขึ้นจากปี 2555 อีกเกือบเท่าตัว เป็น 6,787 ล้านบาท!!

แน่นอน! อาจมีคนเถียงว่า ไม่จริงหรอก คนไทยชอบคุณตันมาก เพราะคุณตันใจดี ใจบุญ คืนกำไรเป็นเงินล้านแก่ลูกค้า คนก็เลยเลือกที่จะกินชาเขียวของคุณตัน

อันนั้นก็แล้วแต่จะคิดครับ ถ้ารักก็จะมองในอีกแง่หนึ่ง ถ้าไม่รักก็จะมองในอีกแง่นึง

แต่ถ้าการใช้รางวัลมาล่อไม่มีผลเท่าไหร่จริง ๆ คุณตันก็คงไม่โง่จัดแคมเปญให้ลุ้นโชคเกือบทั้งปีหรอกครับ เดี๋ยวแจกทอง เดี๋ยวแจกเงิน เดี๋ยวแจกไอโฟน เดี่ยวพาไปญี่ปุ่น

แต่สำหรับผม ผมมองว่า กลยุทธ์ใช้รางวัลใหญ่หลอกล่อให้คนซื้อในการทำการตลาด คือวิธีการที่เป็นอบายมุข ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่มักง่ายที่สุด ที่ในประเทศที่เจริญแล้วเขาไม่อนุญาตให้ทำ คงทำได้ในเฉพาะในประเทศที่กฎหมายหย่อนยาน และผู้คนสันดานขี้เกียจนั่นแหละ

------------------

คำนวณกำไรอิชิตันแบบคร่าว ๆ

ราคาขายปลีกอิชิตันขวดละ 15 บาท มีต้นทุนอยู่ที่ขวดละ 5 บาทเท่านั้น

แบ่งเป็นต้นทุนค่าน้ำชา ไม่เกิน 1.50 บาท/ขวด , ต้นทุนขวด pet ที่ขวดละ 1.50 บาท ที่เหลืออีก 2 บาทคือการดำเนินการและค่าการตลาดบางส่วน (รวมทั้งเงินเดือนผู้บริหารของคุณตันด้วย)

แต่คุณตันจะขายส่งที่ราคาขวดละ 10 บาท คุณตันจะได้กำไรเนื้อๆ เน็ต ๆ เข้ากระเป๋าคุณตันและมูลนิธิตันปันในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่ขวดละ 5 บาท

ถ้ายอดขายอิชิตันขั้นต่ำประมาณวันละ 1 ล้านขวด  เท่ากับคุณตันได้กำไรเนื้อ ๆ เน้น ๆ วันละ 5 ล้านบาท !! (ย้ำว่าความจริงขายได้มากกว่าล้านขวด)

เพราะในความเป็นจริงโรงงานอิชิตันกำลังจะเพิ่มฐานการผลิตจากเดิมปีละ 600 ล้านขวด (และแบบกล่อง 200 ล้านกล่องต่อปี) เพิ่มเป็นปีละ 1,000 ล้านขวดต่อปี ในปี 2557 (เฉลี่ยผลิตวันละ 2.7 ล้านขวดต่อวัน)  คุณตันจึงได้นำหุ้นอิชิตันเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนสร้างโรงงานใหม่แห่งนี้

นั่นจึงแสดงว่า อิชิตันขายได้มากกว่าวันละ 1 ล้านขวด


**หมายเหตุ ต่อไปนี้คำว่า "คุณตัน" ขอให้เข้าใจว่า บางบริบทผมหมายถึง บ.อิชิตัน นะครับ เพื่อให้อ่านเข้าใจง่าย ๆ จึงไม่อยากเขียนยาว ละไว้ในฐานที่เข้าใจ**


เมื่อคุณตันได้กำไรเนื้อ ๆ ตกวันละ 5 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคุณตันถึงกล้าแจกทองวันละ 1 ล้านบาท !!

แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมคุณตันถึงกล้าแจกปอร์เช่เดือนละ 1 คัน คันละ 8 ล้านบาท

ก็เพราะคุณตันได้กำไรเนื้อ ๆ เน็ต ๆ ตกเดือนละ 150 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ พอเข้าใจกันรึยังครับ

และคนไทยโง่ ๆ ที่หลงดีใจว่า โห!! คุณตันใจดีจังเลย ใจป้ำแจกโชควันละล้าน แจกปอร์เช่เดือนละ 1 คัน

(สำหรับต้นทุนค่ารหัส sms ใต้ฝาไม่เกิน 50สต.ต่อครั้ง  บวกค่าดำเนินการต่อวัน ผมให้เต็มที่ตกประมาณวันละ1ล้านบาท)


ขอบอกว่า แท้จริงแล้วเงินและของรางวัลพวกนั้นมันก็ไม่ใช่เงินของใครที่ไหน ก็เป็นเงินของพวกโง่ที่ซื้อชาเขียวเพื่อหวังแค่ได้รหัสใต้ฝา เพื่อส่งชิงโชค นั่นแหละครับ

(เดี๋ยวมีคนแย้งว่า เขาส่งรหัสผ่านระบบ ussd (subset in sms system) เออ..นั่นแหละ เขียนให้คนทั่วไปเข้าใจง่าย ๆ โว้ยไอ้พวกชอบคิดเล็กคิดน้อย โนเกีย3310 ก็ส่งรหัสแบบนี้ได้ เพราะมันคือระบบsmsประเภทหนึ่ง)

ส่วนคุณตันก็อยู่ในฐานะเจ้ามือหวยออกเบอร์ ที่กินกำไรส่วนต่างหลังจากหักต้นทุนของรางวัลไปแจกพวกโง่แล้วนั่นแหละ


ส่วนเรื่องผลกำไรตัวเลขทางบัญชี ผมไม่ขอพูดถึง เพราะผมไม่ค่อยเชื่อตัวเลขทางบัญชีของบริษัทเอกชนไทยส่วนใหญ่อยู่แล้วครับ

อ้อ.. แม้โออิชิจะเป็นคู่แข่งสำคัญของอิชิตัน แต่คุณตันก็ยังถือหุ้นในโออิชิอยู่ 10 % นะครับ

แนะนำอ่านลิงค์บทความข้างล่างสักนิดเพราะจะได้รู้ว่า คนญี่ปุ่นแท้ ๆ เขาคิดอย่างไรกับชาเขียวแช่แย็นของไทย

คลิกอ่าน ตัน อิชิตัน คือเจ้ามือการพนัน ออกเบอร์


------------------------

คุณตันบริจาคเงินพันล้านบาทให้โรงเรียนทั่วประเทศ

ปี 2556 โรงงานอิชิตันมีกำลังการผลิตแบบขวดที่ 600 ล้านขวดต่อปี แบบกล่อง 200 ล้านกล่องต่อปี


จากหลักการคำนวณคร่าว ๆ ที่ผมยกตัวอย่างในตอนแรก

ถ้าในปี 2556 อิชิตันขายได้ที่ 500 ล้านขวด กำไรขวดละ 5 บาท คุณตันก็จะได้กำไรปีละ 2,500 ล้านบาทต่อปี

ในปี 2556 แบบกล่องขายได้ปีละ 150 ล้านกล่อง ถ้ากำไรกล่องละ 3 บาท คุณตันก็จะได้ปีละ 450 ล้านบาทต่อปี

ฉะนั้นเมื่อรวมสินค้าทั้ง 2 แบบ เฉพาะในปี 2556 เท่านั้น คุณตันก็กำไรประมาณ3 พันล้านบาทเข้าไปแล้ว

(ประมาณการกำไรที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายแคมเปญ และก่อนหักภาษี)


แล้วพอโดนกระแสตำหนิคุณตันว่า ชอบสร้างภาพ ได้กำไรตั้งเยอะ

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 57 คุณตันจึงได้ประกาศว่า จะบริจาคทุนการศึกษาให้โรงเรียนทั่วประเทศ 1,174 ล้านบาท ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคุณถึงบริจาคได้

เพราะคุณตันเคยประกาศไว้นานแล้วว่า กำไรจากการขายอิชิตัน ประมาณครึ่งหนึ่งจากมูลนิธิตันปัน จะบริจาคให้การศึกษา




เงินกำไรที่ได้จากกลยุทธ์การตลาดแบบหวยออกเบอร์ ถือเป็นเงินที่ได้มาจาก อบายมุขประเภทหนึ่ง เหมือนที่ผมเคยเขียนในบทความเก่า

แม้คุณตันจะทำบุญด้วยเงินจำนวนมาก แต่บุญที่ได้มาจากอบายมุขนั้นจะได้มากด้วยหรือไม่ ก็ลองคิดเอาเองครับ

ไม่มีการระบุว่า จะบริจาคเมื่อไหร่ และนานแค่ไหนจะบริจาคจนครบ 1,174 ล้านบาท

ว่าแต่มีโรงเรียนไหนได้เงินบริจาคจากคุณตันแล้วบ้าง ? ผมเห็นอยู่ ๆ ข่าวนี้ก็เงียบไป..

แต่ถึงยังไงผมก็ว่าคุณตันยังดีกว่าเศรษฐีหลายคน  เพราะอย่างน้อยก็เขาพูดจริงทำจริง และโฆษณาการทำบุญให้คนอื่น ๆ ได้ร่วมอนุโมทนาในบุญนั้นด้วย

ถ้าคุณตันได้บริจาคไปแล้ว ผมก็ขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ


ส่วนตัวเลขทางบัญชีในปี 2556 บ.อิชิตันรายงานว่า มีกำไรสุทธิเพียง 900 ล้านบาทเท่านั้น

โห!! คุณตันทำบุญตั้งพันล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีกำไรเพียง 900 ล้านบาทเท่านั้น??! (ทำบุญมากกว่ากำไรของบริษัทเนี่ยนะ)


แสดงคุณตันนี่โคตรใจบุญจริง ๆ แล้วถ้าใครซื้อหุ้นอิชิตันไป ช่วยทำใจหน่อยแล้วกันว่า เจ้าของบริษัทเขาใจบุญ

งั้นช่วยกันซื้ออิชิตันกันเยอะ ๆนะครับ คุณตันจะได้ยิ่งรวยขึ้น ๆ  คุณตันจะได้มีเงินไปทำบุญเยอะ ๆ ให้พวกเราได้ร่วมอนุโมทนาบุญ

ส่วนคนกินอิชิตันส่วนใหญ่น่ะเหรอ ไม่อ้วน ก็เบาหวานแดก แล้วก็จนเหมือนเดิม 




-----------------------

เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ควรดื่มชาทุกชนิด !!

คลิกอ่าน ผลวิจัยเตือนชาเขียวพร้อมดื่มร้ายยิ่งกว่าน้ำอัดลม คาเฟอีน น้ำตาลสูงปรี๊ด และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ควรดื่ม!!




ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานที่อายุต่ำกว่า 12 ปี ว่า ไม่ควรดื่มชาทุกชนิดนะครับ


------------------

กลยุทธ์ดิ้นรนหนีภาวะขาดทุน




ปี 54 ยอดขาย1,057 ล้านบาท แต่ขาดทุนตั้ง 791 ล้านบาท !!


ด้วยเหตุที่ปี 54 นั้นเกิดน้ำท่วมใหญ่ โรงงานใหม่ก็พลอยน้ำท่วมไปด้วย ทำให้ปีแรกอิชิตันขาดทุนไป 791 ล้านบาท เมื่อขาดทุนจากน้ำท่วม และต้องหาเงินมาซ่อมแซมโรงงาน

ประกอบกับคุณตันต้องการแย่งส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 มาจากโออิชิ ยี่ห้อเก่าที่คุณตันสร้างมากับมือ แต่ลบด้วยคำตอแหล ทีว่าจะไปทำธุรกิจอื่นไม่ทำธุรกิจแบบเดิมอีก

จึงทำให้คุณตันต้องใช้วิธีการอบายมุขมามอมเมาคนไทยที่ชอบการเสี่ยงโชค ด้วยกลยุทธ์หวยออกเบอร์ ทั้ง ๆ ที่ตอนคุณตันเป็นเจ้าของโออิชินั้น จะใช้แค่กลยุทธ์ชิงโชคใหญ่เท่านั้น

พอปี 55 และปี 56 ยอดขายพุ่งเป็น 3 พันกว่าล้านบาท และ 6 พันกว่าล้านบาท ตามลำดับ ยอดขายพุ่งกระฉูด แต่ไฉนกำไรไม่ค่อยพุ่งตามเท่าไหร่ ?

ก็เพราะเอาเงินไปขยายโรงงานเพิ่มขึ้นอีก จากเดิมผลิตได้วันละ 600 ล้านขวด/ปี เป็น 1,000 ล้านขวด/ปี

เมื่อโรงงานใหม่มีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น ก็ต้องมอมเมาคนไทยให้หนัก จะได้มียอดขายรองรับให้คุ้มกับการที่มีโรงงานใหม่





พวกเจ้าสัวมหาเศรษฐีที่มอมเมาคนไทย ด้วยธุรกิจบาป เช่นขายเหล้า เบียร์ เขามีแนวคิดที่ว่า ถ้ารวยจากธุรกิจบาป ก็ต้องทำบุญคืนให้แก่สังคมเยอะ ๆ 

แต่เจ้าสัวธุรกิจบาปเหล่านั้น เขาจะแยกระหว่างการทำบุญกับการตลาดออกจากกัน ไม่มาปนกันด้วยการโฆษณาสร้างภาพให้โจ๋งครึ่มจนเกินไป

ส่วนคุณตันก็คงคิดแบบนั้นเข่นกัน เมื่อใช้กลยุทธ์หวยออกเบอร์มามอมเมาคนไทยมากแล้ว ก็ต้องทำบุญให้มากขึ้น เพียงแต่คุณตันก็ใช้กลยุทธ์ทำบุญนำการตลาดไปด้วย เพราะคุณตันถือว่า นี่ไม่ใช่ธุรกิจบาป เหมือนพวกธุรกิจเหล้า เบียร์


------------------------


ปี 2557 คุณตันนำอิชิตันเข้าตลาดหลักทรัพย์

โดยคุณตัน นำหุ้น 300 ล้านหุ้น (สัดส่วน23.1%) จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 1,300 ล้านหุ้น เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในราคาเปิดวันแรก ( IPO) ที่ 13 บาทต่อหุ้น

ก่อน IPO 1,000 ล้านหุ้น 
หลัง IPO 1,300 ล้านหุ้น

หุ้นละ 13 บาท x 300 ล้านหุ้น = 3,900 ล้านบาท



แน่นอน ถ้าเล่นหุ้นเพื่อเก็งกำไร ตัวนี้ก็น่าสนใจ แต่ที่แน่ ๆ คุณตันรวยเละ รับเหนาะ ๆ 3,900 ล้านบาท (เขาบอกเอาไปใช้หนี้ และไปขยายโรงงานโว้ย !! อ๋อ..เหรอ)

ไอ้ตรงคำว่า ผู้ถือหุ้นอื่น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก ส่วนหนึ่งก็ของคุณตันนั่นแหละ แต่คงถือในรูปนอมินี ไม่งั้นจะอยู่ ๆ จะเอามาเข้าตลาดหุ้นได้ไง


(การคาดการณ์จากบ.อิชิตัน คาดว่าในปี2557 จะปันผลได้ในอัตรา 0.86 บาทต่อหุ้น)


------------------

ย้อนดูวันวานที่เคยพูดไว้ของคุณตัน !!

แล้วคุณเชื่อหรือไม่ว่า คุณตันเคยพูดในรายการทีวี 2 รายการว่า จะไปทำธุรกิจอย่างอื่นที่ ไม่ใช่ธุรกิจชาเขียวอีก!!

ถ้าไม่เชื่อไปดูคลิปนี้



v


v

คลิกอ่านวันนี้คุณเลิกดื่มชาเขียวแล้วรึยัง

-----------------------

ผลพวงของกลยุทธ์นี้ของคุณตัน

แน่นอน ถ้าใครเคยดิ่มชาเขียวครั้งแรก อาจจะรู้สึกรสชาติแปลก ๆ แต่ถ้าได้ดื่มบ่อย ๆ จะรู้สึกชอบมากขึ้น ๆ ก็คล้ายคนเริ่มติดเหล้านั่นแหละครับ

ดื่มเหล้าครั้งแรก มันไม่อร่อยเลย แต่ดื่มบ่อย ๆ มันอร่อยจนไม่อาจเลิกได้ง่าย ๆ

ผลพวงกลยุทธ์นี้ของคุณตัน ก็คือ

เป็นการกระตุ้นให้คนไทยให้ดื่มชาเขียวมาก ๆ โดยนำของรางวัลมาจูงใจให้ดื่มเยอะ ๆ จะได้มีรหัสใต้ฝาไปเสี่ยงโชค

ที่จริงผมอยากเรียกว่า "การซื้อรหัสเสี่ยงโชค แล้วแถมชาเขียว 1 ขวด" มากกว่า หรือการซื้อหวยออกเบอร์แถมชาเขียว

สารในชาเขียวอย่างหนึ่งก็คือ คาเฟอิน ซึ่งเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง และในชาเขียวก็มีคาเฟอีนมากกว่าน้ำอัดลมหลายเท่า

คนเราติดโค้ก ติดเป๊ปซี่ยังได้ จึงไม่ยากที่จะติดชาเขียวได้ในที่สุด และก็จะกลายเป็นลูกค้าคุณตันในระยะยาว

ซึ่งผมเป็นห่วงเด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 12 ปีที่ต้องมาติดคาเฟอินตั้งแต่เด็ก ซึ่งจะทำให้การพัฒนาสมองของเด็กแย่ลง


----------------

ชี้แจงสักนิด 

หลังจากผมปล่อยบทความนี้ออกไป ไม่คิดว่า จะมีคนสนใจอ่านเยอะ แต่ก็มีพวกโง่ที่คิดว่าผมรับจ้างโออิชิมาโจมตีคุณตัน

เหอะ ๆ  แสดงว่าพวกโง่เหล่านั้น ไม่ได้อ่านบทความที่ผมแนบลิงค์ด้านบนไว้เลย นั่นคือ บทความ วันนี้คุณเลิกดื่มชาเขียวแล้วรึยัง ? ที่ผมเขียนไว้่ตั้งแต่ปี 2554

ว่าผมเลิกดื่มมชาเขียวนานแล้ว และไม่สนับสนุนให้ใครดื่มชาเขียวทุกยี่ห้อด้วย ส่วนเจตนาของบทความนี้เพื่อเตือนสติคนที่หวังรวยทางลัด ที่ไม่ได้ชอบชาเขียว แต่อยากกินเพื่อชิงโชค และเตือนคนที่ยังไม่ได้กิน แต่กำลังจะกินเพื่อหวังชิงโชค

ส่วนใครที่นิยมดื่มชาเขียวอยู่แล้ว ผมเคยเขียนในบทความเก่า ๆ ว่า ผมไม่ได้ตำหนิคนกลุ่มนี้ เพราะนั่นเขาชอบกินจริง ๆ  ถึงไม่มีเรื่องชิงโชคเขาก็ชอบกินเหมือนเดิม ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ใช่เป้าหมายของบทความนี้ของผม

ขอยกสิ่งที่เคยเขียนในบทความเก่าว่า ชาเขียวแช่เย็นไม่ได้มีประโยชน์อะไรทางคุณค่าทางยา เพราะชาเขียวที่ประโยชน์ในคุณค่าทางยาคือชาเขียวชงสด ๆ ใหม่ ๆ ร้อน ๆ เท่านั้น แต่ถ้าจะกินเอาอร่อย ก็ตามสบาย !!

และอยากจะบอกให้คนที่ไม่รู้ได้รู้ว่า ชาเขียวแช่เย็นทุกยี่ห้อ มีต้นทุนการผลิตถูกกว่าพวกน้ำอัดลมด้วยซ้ำ


@@ บทความนี้ไม่ใช่บทความเชิงวิชาการ ผมต้องการให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกระดับการศึกษาอ่านเข้าใจง่าย ๆ จึงไม่ลงลึกทางเทคนิคหุ้น และทางบัญชี นะครับ @@

--------------

อธิบายเพิ่มเติมเรื่องกฎหมายไทย

กฎหมายไทยจะมีการควบคุมเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นการเฉพาะ

เช่น ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ปี 2546 ในข้อ 5 ที่ระบุให้การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน ต้องไม่โฆษณาในลักษณะการแถมพก หรือให้รางวัลด้วยการเสี่ยงโชค หรือมีการให้ของแถม

หรือ

การประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 277 ซึ่งออกมาตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2546 ได้กำหนดให้ชาพร้อมดื่มต้องแสดงปริมาณคาเฟอีนหน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิกรัม ด้วยอักษรสีเข้มเส้นทึบขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร ที่อ่านได้ชัดเจนอยู่ในกรอบพื้นที่สีขาว
     
หรือ

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2548 สำนักคณะกรรมการอาหารและยา ได้เรียกผู้ผลิตเครื่องดื่มชาเขียวมาพบและตอกย้ำถึงการห้ามเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมกาเฟอีน ในเรื่องห้ามการโฆษณาในลักษณะแถมพก หรือให้รางวัลด้วยการเสี่ยงโชค หรือมีการให้ของแถม เพื่อไม่ให้มีการส่งเสริมการดื่มจนทำให้เกิดการบริโภคที่ไม่เหมาะสม หรือมีการบริโภคในปริมาณมากเกินกว่าที่ระบุในคำเตือนบนฉลาก อันอาจจะนำมาซึ่งอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพอยู่แล้ว เช่น เป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น


แต่คงเพราะชาเขียวอาจมีคาเฟอีนต่ำกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง หรือเพราะมีช่องว่างของกฎหมาย ทำให้กลยุทธ์ของคุณตัน จึงสามารถหลบเลี่ยงอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายไปได้ เช่นไม่ใช้วิธีเปิดฝาได้โชคทันที เป็นต้น

แต่ที่แน่ ๆ จากกรณีโปรโมชันของอิชิตัน ได้มีส่วนทำให้กฎหมายในเรื่องนี้หย่อนยานลง เพราะมีเครื่องดื่มบำรุงกำลังบางยี่ห้อ กลับนำกลยุทธ์เปิดฝาปุ๊บได้ของรางวัลทันทีกลับมาใช้อีก

เช่น คาราบาวแดงใช้การแจกทองคำใต้ฝา หรือ M150 แจกมอไซค์ใต้ฝา เป็นต้น ก็เข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐไปเอาผิด

นี่เพราะ การบังคับใช้กฎหมายของไทยหย่อนยาน !!






---------------------


อันตรายจากน้ำตาลฟรุคโตส

เพราะในอิชิตันได้ใส่น้ำตาลฟรุคโตส ถ้าใครกินน้ำตาลฟรุคโตสมาก ๆ ก็มีโทษเช่นกัน เช่น พวกที่กินชาเขียววันละหลาย ๆ ขวด เพื่อหวังรวย !!

เพราะนักวิจัยก็พบว่า น้ำตาลฟรุกโตสอาจส่งผลให้ไขมันในเลือดสูงได้

โดยพบว่าฟรุกโตสมีส่วนทำให้คอเลสเตอรอลตัวร้ายที่ชื่อว่าแอลดีแอลคอเลสเตอรอล (LDL-C) ระดับไตรกลีเซอไรด์และระดับคอเลสเตอรอลรวมในเลือดสูงขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งไม่เป็นผลดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวาน

นอกจากนั้นการใช้ฟรุกโตสในระยะยาวยังทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และโรคความดันโลหิตสูงได้ รวมถึงน้ำตาลฟรุกโตสยังสามารถถูกกลไกการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายเปลี่ยนให้เป็นกรดไขมันอิสระ ซึ่งอาจไปเกาะอวัยวะภายใน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะสำคัญ เช่น ตับ ทำให้เกิดภาวะไขมันเกาะตับ (Fatty Liver) ได้ โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

สมาคมเบาหวานแห่งอเมริกัน (American Diabetic Association) จึงแนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานใช้น้ำตาลฟรุกโตสอย่างระมัดระวัง และต้องติดตามผลของระดับคอเลสเตอรอลในเลือดเป็นระยะ เพื่อความปลอดภัย

คลิกอ่าน ดื่มชาเขียวอันตรายกว่านัำอัดลม





รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เคยวิเคราะห์เอาไว้ผ่านงานวิจัยเรื่อง “การพนันหรือการเสี่ยงโชค”

"ธุรกิจชาเขียวมีมูลค่าตลาดสูงถึงปีละ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท บริษัทจึงใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ ในการกระตุ้นยอดขาย จนกลายเป็นการมอมเมาประชาชน ทำให้ส่งเสริมพฤติกรรมการเสี่ยงโชคเป็นเรื่องที่น่าทดลอง เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ทำให้คนเชื่อว่าสามารถได้สิ่งที่ต้องการโดยง่าย สนุก ไม่เหนื่อย ไม่ต้องทำงาน แค่รอคอยโชควาสนา หากไม่ควบคุม เชื่อว่าสินค้าหลายตัวจะนำกลยุทธ์เช่นนี้ไปใช้จนกลายเป็นปัญหาของสังคมไทยได้"

ปัญหาหลักๆ อยู่ที่ พ.ร.บ.การพนัน 2478 ที่มีเนื้อหาล้าสมัย ยังไม่มีข้อความระบุให้ชัดเจนลงไปว่า ควรจะต้องจัดการการพนันในรูปแบบ “การเสี่ยงโชคผ่านการส่ง SMS” เหล่านี้อย่างไร จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ นายธนากร คมกฤส ผู้อำนวยการรณรงค์หยุดพนัน มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว เคยพยายามออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาปรับแก้กฎหมายตัวนี้ให้ทันยุคทันสมัยและทันเล่ห์ของการตลาดแบบนี้เสียที!!

กูเอาฮา !!



หากคุณตันได้มีโอกาสมาอ่านบทความนี้ ผมขอย้ำเหมือนในบทความเก่าที่ผมเคยเขียนไว้ว่า ไม่อยากให้คุณตันนำกลยุทธ์แบบนี้มาใช้กับคนไทยเลย เลิกซะเถอะครับ เพราะผมอยากชื่นชมคุณตันเหมือนที่ผมเคยชื่นชมมาก ๆ ในอดีต อยากเห็นคุณตันไม่ยุ่งเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์ที่แฝงอบายมุขแบบนี้

ที่คุณตันมีเป้าหมายต่อไปว่า ต้องการให้อิชิตันกระโดดข้ามไปแย่งส่วนแบ่งตลาดน้ำอัดลมที่มีมูลค่ารวม 4.5 หมื่นล้านบาท ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ



คลิกอ่านวิเคราะห์กลยุทธ์ทำบุญสร้างภาพของตัน ภาสกรนที


(มีหนังเกาหลีเรื่องนึงที่ผมชอบ กำลังฉายที่ช่อง 3 อยากแนะนำคือเรื่อง "นักข่าวใจเด็ด เผ็ดแสบเต็มร้อย" เรื่องนี้ตัวร้ายมันจะลงสมัครเป็นประธานาธิบดี มันมีหนังสือพิมพ์เป็นของตัวเองที่คอยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ดีๆ ให้ 

ผู้คนเกือบทั้งประเทศหลงใหลไอ้ตัวร้ายคนนี้มาก เพราะเห็นมันใจบุญ ใจดี ช่วยเหลือสังคมมากมาย ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น รักครอบครัว แต่เบื้องหลังกลับโหดร้ายมาก ๆ ฆ่าได้กระทั่งลูกชายตัวเอง ที่เล่าเนี่ยเพราะหนังเขาดีครับผมชอบ )

คลิกอ่าน ตัน ภาสกรนที รวยได้เพราะรู้สันดานคนไทย


----------------

แนะนำอ่าน บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุด รองจากบทความนี้ 

คลิกอ่าน วิกฤติหวยชาเขียว เพราะหน่วยงานสาธารณสุขไทยละเลย






81 ความคิดเห็น:

  1. ข้อมูลก็คงจริงแล้วใช้คำพูดอคติไปหน่อยนะครับ แล้วก็เขามีแต่ ได้บุญมากบุญน้อยอยู่ที่ความตั้งใจที่จะทำบุญครับ ไม่ใช่ว่า บุญมากบุญน้อยมาจากที่มาของสิ่งที่เอามาทำบุญครับ

    แล้วคุณก็ไม่มีสิทธิ์เรียกคนที่ซื้อของเขากินว่าโง่นะครับ พ่อคนฉลาด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมด่าคนที่ซื้อเพื่อหวังชิงโชค ว่าพวกโง่ครับ
      ส่วนคนที่ซื้อกินเพราะชอบกิน ไม่ได้อยู่ในกล่มเป้าหมายของบทความผม

      เจตนาการทำบุญคือสิ่งสำคัญ ผมถามว่า ถ้าทำบุญโดยมีเจตนาสร้างภาพ และมีเจตนาเพื่อโฆษณาตัวเองล่ะ ได้บุญเยอะไหม ?

      ผมเรียกยิ่งลักษณ์ ว่าอีโง่ได้ แล้วทำไมผมจะเรียกคนที่ไม่ใช่นายก ว่าพวกโง่ไม่ได้ พ่อคนเกือบฉลาด !!

      ลบ
    2. คำว่าบาปบุญมีจริงแค่ไหน คุณเชื่อยังไง สำหรับผมแล้ว การทำบุญถ้าไม่ได้ทำด้วยใจที่อยากจะทำ มันก็ไม่ได้บุญ บุญคนที่ทำ ทำแล้วต้องสบายใจไม่ใช่ทำไปแล้วมานั่งเสียดายสิ่งที่ทำไปสิ่งที่ให้ไป คนนั่นก็ไม่ได้บุญแล้ว กลับจะเกิดบาปด้วยซ้ำ เพราะเกิดนรกอยู่ในใจแล้วเป็นทุกข์แล้ว

      ทำบุญจะเพื่อสร้างภาพรึไม่แต่เขาก็เต็มใจที่จะทำ สัญญาว่าจะทำแล้วก็ทำ สร้างภาพหรือไม่ โฆษณาหรือไม่ ก็คงมีหวังไว้กันมั่ง แต่เขาก็ตั้งใจเต็มใจที่จะทำ คุณตันได้บุญไปแล้ว สุขกายสุขใจ แต่คุณที่มั่งนั่งคิดว่าเขาทำเพื่อผลประโยชน์อย่างนู้นอย่างนี้ คุณก็เป็นทุกข์แล้ว นรกอยู่ในใจคุณแล้ว
      คำว่าสวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจก็คือ ถ้าคุณเป็นสุขคุณก็จะอิ่มอกอิ่มใจเหมือนกับทำบุญแล้วได้บุญ แต่ถ้าคุณเป็นทุกข์คุณทำบาปนรกก็อยู่ในใจคุณ คุณก็เจ็บใจแค้นใจ บาปบุญมีง่ายๆแค่นี้

      เขาว่ากันว่า สวดมนต์แล้วได้บุญ แต่พวกม๊อบกบฎหน้าโง่มันนั่งสวดมนต์หน้าเวทีแล้วไล่สาปแช่งคนนู้นคนนี้ มันไม่มีความสุขหรอก นรกล้วนๆ

      ลบ
    3. ผมไม่ทุกข์เลยครับ ผมสนุกต่างหาก บทความนี้ผมเขียนเพราะเพื่อน ๆ ผมเขาอยากให้ผมเขียน วิเคราะห์ ผมก็เขียนให้เพื่อน ๆ ผมอ่าน
      ส่วนใครจะทำบุญ ผมก็ร่วมอนุโมทนาด้วยทุกคน
      ทุกครั้งที่คุณตันทำบุญ ผมก็ร่วมอนุโมทนาด้วยทุกครั้ง

      คุณมันก็ไอ้พวกควายแดงเท่านั้น ที่ยังมองอะไรตื้น ๆ ครับ

      ลบ
  2. คืออะไรอ่ะ HATE SPEECH หรอครับ อคติ ลอยเต็มอยู่ในอากาศเบย -*-

    ตอบลบ
  3. คนที่กินชาเขียว แล้วส่งฝาเขาไม่โง่หรอกครับ เท่าที่ผมอ่านดูมันก็อาจเป็นเรื่องจริง แต่คนจะทำธุระกิจแล้วไม่หวังผลกำไร มันมีหรอครับ?? คนที่ทำเขาก็หวังผลกำไรทั้งนั้น อยู่ที่จะทำวิธีไหนเท่านั้นเอง ที่คุณว่าพวกที่ส่งฝาไปชิงโชคโง่ คุณคงคิดผิดครับ อย่างผมเป็นผู้บริโภค ผมซื้อน้ำชามากิน15บาท เท่าที่ดูน่าจะถูกที่สุดแล้ว เชื่อเถอะครับ คงไม่มีคนซื้อมาเป็นพันๆขวดแล้วเทน้ำชาทิ้งเอาแต่ฝาหรอก เขาก็กินกันทั้งนั้น แน่นอนครับคนไทยหวังรวยทางลัด ในความคิดผม ผมว่ายังดีกว่าซื้อล็อตตารี่ ลงทุนซื้อใยละร้อย รอเดือนละ 2 ครั้ง ใบละเป็นร้อย บางคนเล่นหวยใต้ดินอีก แต่ถ้าไม่ถูก เงินที่ซื้อไปละ ไปไหน?? เจ้ามือหรอ ?? แต่สำหรับน้ำชาที่แค่ขวดละ 15 บาท เราได้กินชา ส่งรหัสไป ถูกไม่ถูกก็ช่าง เราก็ยังได้กินน้ำชา สำหรับความคิดคนไม่มีการศึกษาอย่างผม ผมชื่นชมคุณตัน อย่างที่คุณบอกข้างต้น คืนเงินแก่ประชาชน ดีกว่าไปจ้างดาราแพงๆมา มันอาจเป็นแค่เงินสาวนเล็กของคุณตัน เชื่อเถอะมันดีกว่าสินค้าบางอย่างที่หวังผลกำไลอย่างเดียว คุณทำได้คุณตันไหมล่ะ??

    ตอบลบ
  4. อยากอ่านวิจารณ์โครงการจำนำข้าวบ้างครับ ส่วนตัวไม่ค่อยซื้อดื่มและรุ้สึกโออิชิจะอร่อยกว่า

    ส่วนของคุณตันผมว่าคล้ายๆการตล่าดประชานิยม

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เรื่องจำนำข้าว ผมเขียนไว้เยอะครับ ลองหาดูในหลาย ๆ บล็อคของผม จะเจอครับ บล็อคนี้ก็มี

      ลบ
  5. ผมรู้ว่าคุณคือคนที่ไม่ชอบ ทักษิณ ไม่ชอบเสื้อแดง ผมก็ไม่ใช่ฝ่ายใด ผมเป็นคนไทยรักพระเจ้าอยู่หัว คุณอคติเพราะคุณตัน อาจเป็นฝ่ายนายก หรือเสื้อแดงอะไรก็แล้วแต่ คุณต้องมองที่ตัวบุคคล อย่ามองที่เขาเป็นฝ่ายไหน เขาช่วยเหลือคนไทยก็ถือว่าดีแล้ว กลับไปนึกดีๆนะ เขาก็ไม่ได้คอรัปชั่นแบบนักการเมืองคนไหนหนิ ถึงการตลาดเขาอาจเป็นแบบนี้ จะเป็นไรไปเขาไม่ได้ขอเงินคนไทย 15 บาทแล้ว บอกว่าให้เราลุ้นคืนเป็นล้านหนิครับ เขาแค่ขายสินค้าหนิ อย่าลืม !! มันคือการตลาดนะคุณเอ้ย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เดิมผมชอบคุณตันมาก แต่ผมต่อต้านการใช้อบายมุขนำการตลาดครับ

      ถ้าคุณตันมาแบบนาน ๆ ทำที ผมยังพอรับได้ แต่พอคุณตันเล่นใช้อบายมุขหลอกล่อคนตลอดทั้งปีนี่แหละครับ ผมถึงต่อต้านกลยุทธการตลาดแบบมักง่ายนี้

      และที่เขียนถึงคุณตัน เพราะคุณต้นคือต้นแบบที่ไม่ดี ที่ทำให้บริษัทอื่น ๆ เลียนแบบกลยุทธมักง่ายแบบนี้บ้างครับ

      ถ้าคุณอ่านบทความแตก คุณจะรู้ว่า ผมโจมตีกลยุทธการใช้ของรางวัลมาล่อคนซื้อครับ

      ขนาดขนมหลอกเด็ก เขายังห้ามใส่ของเล่นในขนมแล้วเลย การใช้ของรางวัลมาล่อให้ซื้อนี่ก็เช่นกัน

      ลบ
    2. ผมกลับมองว่า การตลาดแบบนี้มันมีมานานแล้ว นะ แต่ อิชิตัน มาทำให้มันบูม เพราะ เค้านำ เรื่องการ ใช้ เทคโนโลยี การ ส่ง sms มาใช้ โดยที่การ ส่ง sms ชิงโชค ไม่เสียเงินค่าส่งสักบาท
      หรือคุณจะเถียงว่า ก่อนที่ อิชิตัน ทำการตลาดแบบนี้ไม่เคยมี การซื้อของแล้ว ส่งชิงโชค ทอง หรืออะไรพวกนี้เลย ...

      ลบ
    3. ผมด่าวิธีการที่เลวที่สุด เป็นอบายมุขมากที่สุด มอมเมามากที่สุด ส่วนวิธีการอื่น ๆ ผมยังพอรับได้ เพราะเขานาน ๆ ทำที แต่คุณตันมอมเมาตลอดปี จริงไหม ?

      ลบ
    4. ตอบคุณ suravuth
      สินค้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่เราใช่ในชีวิตประจำอยู่แล้ว ถ้าเขามีให้ชิงโชคเราก็ส่งไปเล่น ๆ นาน ๆ ที ไม่ใช่แบบคุณตันล่อหลอกให้คนซื้อเยอะๆ เพื่อหวังรวยทุกวัน

      แตกต่างกันไหม ? และสินค้าประเภทมีคาเฟอีน มันมีโทษต่อร่างกาย เขาถึงไม่อยากให้กินเยอะ ๆ แต่คนไทยบางคนกินแทนน้ำ เพราะอยากส่ง sms นี่แหละอันตรายที่มาจากคาเฟอีน

      ลบ
  6. ปัญญาอ่อนเกี่ยวไรกับ ยิ่งรัก แล้วคนกินนี้โง่มากเลยเหรอเฮอออ โครต ปญอ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เกี่ยวดิ เพราะยิ่งลักษณ์มันโง่ไง กูเอายิ่งลักษณ์มาเกี่ยวจะได้มีพวกโง้หลงยิ่งลักษณ์สงสัย

      แล้วพวกโง่ที่กูหมายถึงในบทความ ไม่ได้หมายถึง คนที่กินชาเขียวโว้ย

      แต่กูหมายถึง พวกที่ไม่เคยกินชาเขียวมาก่อน แต่มากินชาเขียวเยอะ เพื่อหวังชิงโชคเป็นหลัก แบบพวกที่บ้าหวยไง คุณตันมันรู้ว่ามีพวกโง่แบบนี้เยอะไง ไอ้โง่

      ลบ
    2. แล้วมึงเป็นใครเป็นศูนย์กลางจักรวาลเหรอที่จะไปตัดสินใครโง่ใครฉลาด สินค้ามัน 15บาทซื้อมากซื้อน้อยมันก็ได้ใช้สินค้าไม่ใช่หวยที่มีแต่กระดาษเปล่าทำอะไรไม่ได้

      ลบ
    3. ถ้ามึงอยากซื้อ ก็เรื่องของมึงดี เพราะเงินของมึง
      ที่กูเขียนก็แค่อยากให้คนฉลาด ๆ ที่ไม่ได้หลงอบายมุขหวยชาเขียวอ่านว่ะ เข้าใจนะ
      .
      ถ้ามึงคิดว่ามึงฉลาด ก็แล้วแต่มึงสิ เพราะกูไม่ได้ตัดสินใครแบบเจาะจง เว้นแต่แม่งกินปูนร้อนเองท้องว่ะ 555

      ลบ
  7. ไม่มีธุรกิจไหน ที่ทำแล้วไม่หวังผลกำไรคับ ถ้าทำแล้วขาดทุน เขาคงไม่ทำกันหรอก #ถูกมั้ยคับ ต่างคน ต่างความคิด ไม่มีใครถูก ใครผิดหรอก

    ตอบลบ
  8. ปกติของการตลาดมันต้องงัดกลยุทธออกมาทำการตลาดให้ขายได้เยอะๆเพื่อแบ่งส่วนแบ่งการตลาด และมันหมายถึง เงินเดือนพนักงานและโบนัสของพนักงานนะจ๊ะ

    ส่วนเรื่องการดื่มหรือไม่ดื่ม อันนี้อยู่ที่ผู้บริโภคแล้วว่า มี "ความคิด" พอที่จะเลือกดื่มหรือเปล่า ซึ่งมันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน อย่าไปคิดแทนเขาให้ตัดสินใจกันเอง เพราะการเปิดฝาชิงโชคมันเป็นส่วนหนึ่งของการตลาด เหมือนที่สินค้าอื่นๆ ซื้อเท่านี้ลุ้นชิงโชคไปกรี๊ดกับดารา บลาๆๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าคุณอ่านบทความแตก คุณจะรู้ว่า บทความแค่ต่อต้านการทำการตลาดด้วยอบายมุขตลอดปีครับ
      ผมถึงเขียนในบทความว่า ประเทศที่เขาเจริญแล้ว เขาจะห้ามทำการตลาดแบบมักง่ายแบบนี้
      ถ้าคุณตันเก่งจริง ต้องไม่ใช้อบายมุขครับ

      ลบ
    2. คุณตันไม่ใช่คนคิดกลยุทธนี้ครับ แต่เป็นบุคคลในแผนกการตลาดที่คิดแคมเปญขึ้นมา และถ้าผิดเป็นอบายมุขจริงทำไมไม่มีกฎหมายข้อบังคับนี้เกิดมา เอ๊ะ หรือว่าผมอาจพลาดไป

      ลบ
    3. กฎหมายเก่า ยังไม่ได้แก้ไขให้ทันยุคน่ะครับ

      ลบ
  9. การเมืองปลิวว่อนเชียว ชาเขียวอะไรเนี่ย

    ตอบลบ
  10. เค้าไม่ได้บังคับให้คนไทยทุกคนต้องแดกแต่ชาเขียวของกูนะไอสัด! นะครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กูก็ไม่ได้บังคับให้ควายมาเชื่อกูว่ะ ไอ้สัส !!

      ลบ
    2. อ่านบทความแตกเหี้ยอะไรของมึง โง่ อ่านเท่าไหนมันก็ไม่แตกหรอกสัด มีแต่ อคติ ทำอย่างกับโรงงานไออ้วนตันจับพ่อแม่มึงไปเชือดและมึงเดือดร้อน เท่าที่อ่านๆมากูว่ามีแต่ควายนะที่เชื่อมึง คนเค้ามีสมองเยอะเค้าแยกแยะได้หมดแหละ นี่มึงเดือดร้อนอะไรด้วย เพี้ยนชิบหาย

      ลบ
    3. มึงก็ทำอย่างบทความกู เอาพ่อมึงมาเชือดเหมือนกัน 555

      ลบ
  11. บทความแบบนี้มันก็แค่พวกเดินผ่านบ้านผีสิงแล้วบอกว่า เฮ้ย ข้างในนี่ผีปลอม คนโง่ก๋ซื้อตั๋วเข้าไปดูอยู่ได้

    ตอบลบ
  12. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  13. คุณบอกพวกโง่ที่ส่ง SMS คือ ส่งฟรีนะไม่เสียเงิน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมรู้อยู่แล้วว่า ส่ง sms ฟรี คุณอ่านบทความไม่แตก เลยมาถามโง่ ๆ แบบนี้

      ลบ
  14. บทความนี้เจตนาคือด่าเรื่อง กลยุทธการตลาดที่ใช้อบายมุขมอมเาคนทั้งปีนะครับ

    ไม่ได้เกี่ยวกับกำไร หรือขาดทุนอะไร หัดอ่านไทยให้แตกนะครับ

    ตอบลบ
  15. แหม่ งั้นน้ำสิงห์ที่ต่อต้านควายแดง แต่ให้ส่งsmsทีละ3บาทลุ้นไอโฟนจะเรียกว่าอะไรดีล่ะนี่

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นกลยุทธที่เลียนแบบตัน ก็เป็นเรื่องไม่ดีทั้งนั้นแหละครับ แต่น้ำสิงห์ไม่มีคาเฟอีนครับ สินค้านี้จะไม่มีการควบคุมพิเศษอยู่แล้ว

      ลบ
  16. ผมเป็นเป็นกำลังใจให้ จขกท ครับ ใครจะด่าอะไรก็ช่างมัน คนเราไม่มีใครคิดเหมือนกันหมดทุกคนหรอก

    ตอบลบ
  17. ไปเดือดร้อนอะไรกะเขาหรอ??? ยุคของการแข่งขันและหัวคิด ผู้บริโภคถ้าคิดมากกลัวไม่คุ้มกับเงินที่ซื้อไปก็ไม่ต้องซื้อ หรือถ้ามองว่าดีก็ซื้อ ไปมองให้ลึกถึงการผลิต ถ้าคิดมากก็ไม่ต้องซื้อกิน คิดง่ายๆ แค่น้ำเปล่ายังขวดละ 5บาทขึ้นไปเลย ไอ้เรื่องการทำบุญ หรือการบริจาคช่วยเหลืออะไรนั้นมันก็อีกเรื่อง ถ้าเขาออกสื่อมันก็เป็นผลพลอยได้ทั้งนั้นละ ลองไม่ออกสื่อให้คนเขารู้ดิ ถามจิงใครจะรู้ ยิ่งพิมก็ยิ่งยาว สรุปง่ายๆ ชอบก็ซื้อกินไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อกิน ทุกคนมีหัวสมองเป็นของตัวเอง อยู่ที่ว่าจะให้ใครจุงจมูก เหมือนเรื่องการเมืองป่าวแค่นั้น ปัญญาอ่อน เอาเวลาไปคิดทำมาหากินดีกว่า หรือบทความนี้ก็คือการทำมาหากินป่าวไม่รู้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. นั่นดิ แล้วคุณจะมาเดือดร้อนอะไรกับบทความผมนะ รับจ้างคุณตันมาด่ารึเปล่านะ 555

      ลบ
  18. เห้อ เขาแสดงทัศนะคติให้แสดงความคิดเห็น แล้วถ้าผมอ่าน แล้วผมเฉยๆ ผมจะโดนด่าไหม เห้อ แล้วที่บอกว่ากินไปเถอะน้ำหวานไม่นานก็ตาย ดีนะผมไม่ได้กิน ผมซื้อมา เอาแต่ฝา แล้วน้ำให้อื่นกินหมด

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. สิทธิเสรีภาพของแต่ละคน โปรดใช้วิจารณญาน

      ผมก็แค่เขียนในสิ่งที่มีคนสงสัย และเตือนสำหรับคนที่อยากรู้เท่านั้น ใครจะกินเหล้า สูบบุหรี่ กินชาเขียว ก็เป็นสิทธิของทุกคน บทความก็แค่เตือนครับ ก็เท่านั้น

      และผมก็แค่อยากเตือนคุณตันว่า อย่าใช้กลยุทธแบบนี้เลย มันไม่ค่อยดีสำหรับสังคมโดยรวม แต่นไทยจำนวนมากเขามองภาพรวมไม่ออก

      ลบ
  19. แหม๋ ไอควายไทย คิดว่าความคิดตัวเองดี ล้ำเลิศ ตรรกะคนอื่นควาย ของมึงดีหมด เลิศเลอหมด ถูกทุกอย่าง ถุ้ย

    ตอบลบ
  20. จะกินไม่ว่า แต่กินพอประมาณนะครับ สุขภาพสำคัญนะ //คุณตันจะได้ไม่ได้ เราไม่รู้ ถ้าเราได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราชอบกินชา(เน้น"ชา")

    ตอบลบ
  21. อยากให้เบียร์กับเหล้ามีแจกวันละล้านบ้างจัง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เหล้า เบียร์ เมื่อก่อนก็เคยให้ทั้งโฆษณา ให้ชิงโชคครับ แต่วันนี้กฎหมายห้ามทั้งโฆษณาไปแล้ว

      ลบ
  22. ผมไม่เดือดร้อนเลยครับ คุณตันกล้าใช้อบายมุขนำการตลาด ผมก็กล้าวิจารณ์ในมุมมองของผม
    ผมว่า คุณตันเขาไม่เดือดร้อน เพราะเขารวยขึ้น
    ผมก็ไม่เดือดร้อน เพราะผมช่วยให่คนอีกจำนวนมากเชื่อผม

    ประเด็นคือ กฎหมายไทยมันห่วยที่ปล่อยให้มีการใช้การตลาดแบบอบายมุขได้ ในประเทศที่เจริญแล้ว คนเจริญแล้ว เขาจะต่อต้านการตลาดแบบนี้

    ตอบลบ
  23. แค่จะกินชาเขียวยังต้องคิดมากขนาดนี้ คงต้องรองน้ำฝนไว้กินแล้วละ เพราะเราหยิบอะไรได้ แบบหวานๆ เย็นๆ ราคาไม่แพงมากก็กิน เค้ามีให้ส่งก็ลองส่งดู พอไม่ได้ก็เลิก เพิ่งจะรู้ว่าถูกมองว่าโง่ สงสัยเราจะโง่จริงๆ โดนรัฐหลอกเดือนละ 2 ครั้ง โดนสื่อหลอกทุกวัน เสพติดออนไล วันละหลายชั่วโมง เสียเวลาทำงานมาอ่านบทความ แล้วคอมเม้น วันละหลายนาที โง่จริงๆเลย กูนี่

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าคนไทยฉลาดกว่านี้ ชาเขียวทุกยี่ห่อ จะราคาไม่เกิน 10 บาท และเจ้าของก็ยังรวยเหมือนเดิมครับ

      ลบ
  24. อยากแดกอะไรก็แดกเถอะคับ แต่อิชิตันผมไม่แดก

    ตอบลบ
  25. ทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ในทุกๆฝ่าย

    มีใครบ้าง ทำงานแล้วไม่อยากใด้เงิน

    ตอบลบ
  26. จะแดกไรก้แดกไปสิคับอิชิตันเขาไปบังคับมรึงแดกรึ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มึงก็ควาย มึงจะแดกอะไรก็เรื่องของมึงดิ กูไปบังคับให้มึงเลิกแดกรึ ?

      ลบ
  27. สู้ไม่ได้และก็มาอย่างเงี้ยย ... ศึกษาความหมายของการตลาดดีกว่า ความรู้เยอะ ข้อมูลแยะก็จิงครับ สุดท้ายยอย่าลืมว่า คุณกำลังพูดถึงเศรษฐศาสตร์นะ :D ลองเปิดดูความหมายเศรษฐศาสตร์ เป้าหมาย และก็ เรื่องของการตลาดด้วยครับบบ ยังดีครับ เงินเค้าก็คืนสู่สังคม เงินบริจาคสามารถลดภาษีได้ แต่คนจนก็ได้เงินมาบำรุงครับ ถือว่าเป็นสิ่งที่คนทำดีควรได้ เค้าคว้าวิกฤตให้เป็นโอกาส ก็ไม่ผิดนิคับบ อย่าใช้คำว่าอบายมุขอะไรมากมายเลยจากการส่งรหัสลุ้นทอง เพราะถ้าคุณคิดงี้ โออิชิ บริษัทขนมเยอะแยะมันก็โดนคุณด่าหน่ะครับ รากฐานประเทศเรามันวางไว้อย่างนี้ ก็ต้องเข้าใจด้วย ... อย่าอ้าง สรยุทธ์ หรือ เสื้อแดงมากนะครับ จุดประสงค์คุณผมพอรู้อยู่

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้ากลยุทธแบบนี้มันดี ในประเทศเยอรมัน สหรัฐ อังกฤษ ญี่ปุ่น เขาก็คงทำกันแล้ว เขาคงไม่ห้ามให้ทำหรอกครับ

      และคุณยังแยกแยะระหว่าง การส่งสลากชิงโชค กับ การใช้กลยุทธหวยออกเบอร์ ไม่ได้เลย

      ที่สำคัญขนาดในขนม ก็ยังมีกฎหมายห้ามใส่ของเล่นในซอง คุณเคยรู้ไหม

      ลบ
  28. ไม่มีใครโง่หรอก เงินที่ซื้อ อิชิตัน เงินสมัครใจไม่มีใครบังคับ อิชัตันจะได้กำไรกี่พันล้านบาท ไม่มีใครสนใจหรอก นอกจากคู่แข่งทางการค้าและผู้มีผลประโยชน์เท่านั้น ส่วนคนที่ซื้อหวังรวยหรือหวังอะไร มันก็ไม่มีใครผิดหรือโง่ซื้อ แค่ลงทุน 15บาท ได้เงิน 8ล้านและทอง1ล้านบาท มันก็คุ้ม อย่าไปอิจฉาเลยอย่าไปมองว่าใครได้ดีกว่าตน ถ้าอยากได้ดีแบบอิชิตัน ก็ขยันทำมาหาแดกซะ คิดการตลาดและกล้าลงทุน คืนกำไรให้สังคม ถ้าทำไม่ได้ ก็หุบปากไปซะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. อย่าคิดว่า คนอื่นเขาจะขี้อิจฉาเหมือนนิสัยคุณสิครับ

      ผมแค่ต่อต้านอบายมุขในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น คุณตันรวย หรือใคร ๆ รวย ถ้าได้มาด้วยความชอบด้วยศีลธรรมอันดี ผมมุทิตาจิตด้วยทุกคน

      คุณควรกลับไปทำมาหาแดรกของคุณต่อไปนะครับ 5555

      ลบ
  29. มันเป็นวิทยาทาน ใครไม่ชอบ ก็ผ่านๆไป ใครที่อ่านแล้วก็รู้สึกไม่แปลกอะไร ก็ทำต่อไป มันก็แค่นั้น แค่เรื่องชาๆ ยังทะเลาะกันขนาดนี้เลย แม่จ้าวววว

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถูกต้องนะครับ

      และถ้าคุณสังเกตดี ๆ แทบไม่มีใครมาหักล้างว่า ข้อมูลในบทความไม่ถูกต้อง นั่นแสดงว่า ข้อมูลผมถูกต้อง

      ลบ
    2. ข้อมูลถูกแต่เขาไม่ทำใครเดือดร้อน ข้อมูลถูกแต่อคติเยอะเกินไป

      ลบ
  30. อ่านบทความและคอมเม้นท์ สนุกดีครับ นี่แหละคนไทย

    ตอบลบ
  31. ก้ออร่อยดีครับ แต่โทษจากน้ำตาลมันแย่จริงๆ ผมกลัวคนไทยเป็นเบาหวานกันมากกว่าจะสนใจ.ว่าใครจะรวยหรือจน.หรือเห็นแก่เงิน

    ตอบลบ
  32. ผมเห็นด้วยอย่างแรงกับบทความนี้ การกินชาเขียวใส่ขวดโง่ครับ ยิ่งพวกที่เดือดร้อนมาเถียงแทนคุณตันยิ่งโง่หนัก ตรรกะแบบว่าถ้าผิดแล้วทำไมไม่มีกฏหมายห้ามเนี่ย ถ้าไม่พูดก็ยังไม่มีคนรู้ว่าโง่นะ แต่คนเราก็มีสิทธิ์ทำไรโง่ๆ กันได้ทุกคน เพียงแต่ถ้ามีคนออกมาเตือนแล้วยังเลือกที่จะทำต่อก็สมควรให้เขาว่าโง่นะ

    ตอบลบ
  33. ก่อนจะมาเขียน blog ใส่ร้ายเค้านี่ คุณควรไปศึกษาข้อมูลให้ชีัดๆก่อนนะครับ
    ประเด็นแรก ระบบการลุ้นไม่ได้ใช้วิธีส่ง sms และการกดส่งรหัสก็ฟรีด้วย
    ประเด็นที่2 ค่าใช้จ่ายในการส่งรหัสรวมถึง sms ประกาศผลที่ส่งกลับมาให้ผู้ส่งแต่ละวันทางอิชิตันเป็นผู้ออก ไม่ใช่ผู้บริโภค
    ประเด็นที่3 คุณเองไม่มีสิทธิไปว่าใครโง่ เพราะคุณเองไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แม้แต่ข้อมูลมาเขียน blog ก็ยังใส่ข้อมูลผิดๆที่เต็มไปด้วยความอคติจนหน้ามืดตามัว มันจะสะท้อนเองนะครับว่าใครคือคนโง่

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมเขียนตรงไหนว่า sms เสียเงิน ?
      แค่นี้คุณอ่านบทความพลาดแล้ว

      จะให้ผมเขียนว่า ส่งรหัสผ่านระบบ ussd เหมือนตอนเติมเงินมือถือ แบบนั้นเหรอครับ ผมว่า ผมเขียนว่าส่งรหัสผ่าน sms คนที่อ่านทั่วไปจะเข้าใจง่ายกว่า เพราะมันปัญหาทางเทคนิคมือถือ ผมไม่ต้องการลงลึกเรื่องนี้ เพราะคนอ่านที่ไม่รู้จัก ussd ก็มีเยอะแยะ

      และผมรู้ทุกอย่างว่า ตันจ่ายภาษีรถปอร์เช่ให้ด้วย

      และผมด่าความเห็นโง่ ๆ และคนที่ทุกคนที่ไม่เห็นด้วยก็มีสิทธิด่าผมเช่นกัน

      และผมก็ไม่ได้บอกว่าตนเองฉลาด เพราะผมรู้ตรรกะที่ว่า ใครด่าคนอื่นโง่ แสดงว่าตัวเองโง่

      นี่ไง ผมถึงได้ด่าคนอื่นโง่ ๆ เพื่อจะบอกว่า ผมเองก็โง่กว่า เข้าใจนะ อย่าโง่ 5555

      ลบ
    2. ผมว่าธุรกิจของเสี่ยเจริญมันมอมเมาประชาชนมากกว่านี้หลายเท่า แค่เหล้าที่ขายอยู่ก็หนักหนาสาหัสกว่าเยอะแล้วไหนยังมี น้ำอัดลมให้โทษกว่าชาเขียวเยอะ

      ลบ
    3. ประเด็นหลักบทความคือ กลยุทธฺ์ขายอบายมุขแฝงสินค้าครับ แต่นี้ก็อ่านไม่แตกแล้ว คุณต้องตามไปอ่านบทความที่เกี่ยวเนื่องกันด้วย
      .
      ผมไม่สนพวกสาวกคุณตันหรอก อยากจะซื้อก็ซื้อไป
      เพราะผมเจตนาเขียนให้คนที่ไม่ใช่สาวกคุณตันที่หลงอบายมุขมาอ่านมากกว่า

      ลบ
    4. ไม่ระบุชื่อ29 พฤษภาคม 2559 เวลา 21:43

      เขียนแบบอคติ บอกคนอื่นอ่านไม่แตก แต่ผมว่าเค้าอ่านแตกและจับได้ว่าคุณมีอคติ เอาเถอะครับ เราก็รุ้ว่าคนธรรมดาเริ่ม่จากศูนย์ในการทำธุรกิจ กับพวก รวยล้นฟ้าแบ่งผลประโยชน์กับพวกมีอำนาจมันคือพวกไหน ก็ลองคิดดูว่า ประพเทศนี้มีทุกอย่างแต่ทำไมประชาชนยังจนอยู่
      ว่างๆ รองไปหาข้อมูลเสี่ยหรือเจ้าสัวและเครือข่ายธุรกิจพวกนี้ว่าใครมีหุ้มที่ไหนยังไงลองดูนะ แล้วจะถึงบางอ้อ ว่า ไอ้ตันที่ท่านด่านี้ชิดซ้ายไปแบบไม่เห็นฝุ่น

      ลบ
  34. บทความนี้ครึ่งนึงพอเชื่อถือได้นะ แต่อีกครึ่งเต็มไปด้วยทิฐิและการตัดสิน ใช้วิจารณญาณด้วยนะคะ สิ่งที่พบคือ การเลือกพวก เลือกคน เลือกข้าง ก็จริงที่เมืองนอกเขาไม่ค่อยมีมาลุ้นรถชิงทองกัน ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ทุนการศึกษา แต่เราเองอีกที่ต้องยอมรับว่ากลยุทธการตลาดแบบนี้มันอยู่คู่ประเทศไทยมาตั้งแต่จำความได้ แย่ยังไงค่อยแก้กฏหมาย

    ตอบลบ
  35. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  36. ถ้าอย่างนั้นถือว่ากองสลากเข้าข่ายผิดกฏหมายตามเงื่อนไขตามมุมมองของคุณด้วยมั้ยครับ? ทั้งที่ต่างก็ใช้แนวความคิดเช่นเดียวกันกับหวยชาเขียว ต่างแค่ตรงที่หวยชาเขียวค่าสลาก(ชาเขียว)นั้นเข้ากระเป๋านายตัน ภาสกรนที กับค่าสลากกินแบ่งฯนั้นเข้ารัฐที่เบื้องหลังก็มีเรื่องอีรุงตุงนังวุ่นวายเกี่ยวกับผลประโยชน์ของการออกสลากฯ ถ้าคุณมองว่าความเห็นของผมนั้นไม่มีสาระ บทความคุณก็เช่นกันครับ เนื่องจากเพราะเราโยงข้อมูลด้านธุรกิจเข้ากับการเมืองเหมือนกัน.

    ปล.ใครจะรู้หากวันนึงสังคมเปลี่ยนไปรัฐนึกสนุกทำให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฏหมายคุณๆกับผมอาจได้เห็นกัญชาถูกกฏหมายจากโรงงานยาสูบของกรมสรรพสามิตก็ได้นะครับ เนื่องจากมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย เช่นเจ้ามือหวยจะร้องต่อศาลกรณีคิดว่ากองสลากจงใจออกผลสลากให้ตรงกับทะเบียนรถของนส.ยิ่งลักษณ์

    ปล2. ผมไม่มีอคติหรือทิฏฐิต่อมุมมองของคุณนะครับ เพียงแต่ข้อความข้างต้นทั้งหมดก็เป็นความเห็นของผมเช่นกัน

    ***แก้ไขและเรียบเรียงข้อความใหม่จากเมื่อครู่***

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าคุณได้อ่านทีผมตอบในหลาย ๆ ความเห็น

      ผมเขียนแล้วว่า แค่หวยรัฐบาลก็มอมเมามากพอแล้ว แต่อย่างน้อยเงินมันเข้ารัฐแน่นอน เอาไปใช้เพื่อประโยชน์ของรัฐ

      แต่นั่นก็เป็นอบายมุขเช่นกัน ในทางธรรม ก็ไม่สมควรเล่นหรือซื้อ

      เคยมีการจะห้ามขาย แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมันฝังรากลึกแล้ว ยาก !!

      ฉะนั้นเอกชนที่ดี ไม่ควรส่งเสริมอบายมุขเพิ่มขึ้นให้ประชาชนหลงใหลอีก แถมหลงใหลไปยันเด็กเล็ก ๆ แต่หวยเขายังมีกฎหมายจำกัดอายุว่า เด็กห้ามซื้อ

      และถ้าคุณเคยอ่านบทความอื่น ๆ ของผม ผมเคยเขียนเรื่อง ควรนำใบกระท่อมกลับเป็นสิ่งถูกกฎหมายด้วย แต่ต้องมีการควบคุมในบางเรื่อง

      ย้ำว่า อบายมุขหวย ก็ไม่ดีทั้งสิ้น

      และถ้าคุณได้อ่านที่ผมตอบคนอื่น ๆ ผมเคยเขียนว่า ถ้าคุณตันนาน ๆ ทำที ผมยังพอรับได้ แต่การมอมเมาตลอดปี จบอันนี้ ต่ออันนั้น เป็นสิ่งไม่ถูกต้องครับ

      ลบ
  37. ขอบคุณครับ ผมก็เขียนให้คนที่สนในใฝ่รู้ได้อ่าน ถ้าผมไม่เขียน ก็คงมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่รู้ในเรื่องนี้

    การโดนด่า สำหรับผมแค่ธรรมดาครับ ชิว ๆ ผมว่า แค่หนุก ๆ ^_^

    ตอบลบ
  38. เห็นด้วยครับว่า นี่คือการขายหวย ไม่ใช่น้ำดื่มชาเขียว

    แต่มีขอติ
    - ราคา 13 บาทคือราคา ipo ไม่ใช่ราคา พาร์
    - เงินที่ขายหุ้นได้เข้าบริษัท ไม่ใช่เข้าคุณตัน
    - จำนวนหุ้นก่อน ipo 1000 ล้านหุ้น ไม่ใช่ 1300
    - บริจาก 1.7 พันล้าน อาจจะไม่จ่ายใน 1 ปี
    - กำไรทางบัญชี กับ cash flow ไม่ใช่อันเดียวกัน
    - อื่นๆ มั่วพอควร
    แต่ก็แถๆไปได้ แบบฮาๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ครับ ราคาพาร์ไม่ใช่ IPO คือตอนเขียน ผมจะนึกเสมอว่า ต้องพยายามจะเขียนให้คนอ่านเข้าใจง่ายที่สุด ก็นึกคำว่าจะใช้คำไทยคำไหนดี ตอนแรกยังนึกไม่ออก สุดท้ายเลยพลาดเสียเอง แต่แก้ไขแล้วครับ

      เงินขายหุ้นเขาบริษัท รู้อยู่แล้วครับ แต่เขียนที่คุณตันเพราะถือเป็นเจ้าของบริษัท และคนอ่านจะเข้าใจง่าย ๆ เพราะบทความนี้เน้นอ่านเข้าใจง่าย คนอ่านคงรู้อยู่แล้ว จึงละไว้ในฐานที่เข้าใจ

      ผมเขียนถึง 300 ล้านหุ้นจากจำนวนทั้งหมด 1,300 ล้านหุ้น สังเกตที่จำนวนเปอร์เซนต์ที่ผมเขียนไว้ผมเขียนถึงหลังทำ IPO แล้ว

      เงินบริจาค คุณตันไม่ระบุครับ ว่าจ่ายเมื่อไหร่ และเมื่อไร่จะจ่ายจนครบ ผมแค่ทวงถามเล่น ๆ เอาฮาด้วย

      เรื่องบัญชี ผมไม่ลงลึกครับ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องวิชาการ ต้องการให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกการศึกษาอ่านเข้าใจง่าย ๆ พอมองเห็นภาพรวมก็พอ

      ไม่มั่วหรอกครับ เพราะผมเน้นว่า คนอ่านต้องอ่านแล้วอ่านสนุก เข้าใจง่าย แต่ยอมรับว่า บทความยังมีข้อบกพร่องเยอะ เพราะไม่ต้องการให้กลายเป็นบทความที่เครียด จนคนเลิกอ่านก่อนอ่านจบ

      ตั้งแต่เขียนบทความจบ จนถึงวันนี้ ผมเข้ามาแก้ไขเรื่อย ๆ นึกอะไรได้ว่าต้องแก้ไขตรงไหน ผมมองเห็นจุดบกพร่องเรื่อย ๆ ก็จะมาแก้ไขเพื่อให้มันสมบูรณ์แต่เน้นว่าต้องอ่านง่ายที่สุด ถ้าเขียนให้ละเอียดทุกเรื่อง คงไม่มีใครอยากอ่านหรอกครับ

      ส่วนเรื่องฮา ๆ มันคือหัวใจของบทความอยู่แล้ว

      ลบ
  39. เห็นคนด่าคุณใหม่ เมืองเอกกันเพียบเลย 555555
    แต่ส่วนตัวกลับเห็นด้วยกับคุณนะคะ แล้วก็เข้าใจประเด็นที่คนอื่นๆคอมเม้นต์ด้วย
    เข้าใจที่ว่าคนทำธุรกิจ ถ้าทำไม่หวังกำไรจะทำทำไม ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตามก็ต้องทำให้เกิดกำไร

    แต่ที่เห็ยด้วยกับคุณใหม่ เมืองเอกคือ การจะเอากำไรจากลูกค้าก็ควรมีพื้นฐานมาจากคุณธรรมด้วย
    เช่น นึกถึงผลกระทบที่จะตามมากับผู้บริโภค ควรมีการระบุไว้อย่างชัดเจนถึงปริมาณที่ควรบริโภคต่อวัน
    ไม่ใช่ใช้คำโฆษณาว่า "ยิ่งดื่มมาก ยิ่งมีสิทธิ์ลุ้น" เพื่อกระตุ้นการบริโภคแบบไร้ขีดจำกัด (ซึ่งคนบางกลุ่มก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ) ขายของที่มันไม่มีประโยชน์กับร่างกาย ถ้าจะให้ขายได้มันต้องเล่นกับความอยากได้อยากมีของคนเท่านั้นแหล่ะค่ะ จึงจะขายได้ คนที่ยังอยู่กับความอยากได้อยากมี (ไม่ขอเรียกว่าโง่นะคะ เพราะเค้าน่าจะรู้ถูกรู้ผิด แค่ว่ายังยึดติดอยู่กับความอยากของตัวเอง) ก็มักจะหลงเข้าไปในวังวนการตลาดแบบนี้อยู่เรื่อยๆ เหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ รู้หมดแต่อดไม่ได้น่ะค่ะ

    การตลาดก็เป็นเรื่องดีที่จะทำให้สินค้าของเราเป็นที่รู้จัก แต่รู้สึกเหมือนกันค่ะว่า การตลาดแบบคุณตันมันดูไม่จริงใจกับผู้บริโภคเท่าไหร่ แต่ก่อนเคยชื่นชอบและชื่นชมคุณตันนะคะแต่จากเหตุการณ์เมื่อครั้งที่คุณตันให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนั้น ความรู้สึกก็เลยเปลี่ยนไป

    อีกประเด็นที่เข้าใจว่าทำไมคุณใหม่ เมืองเอกถึงถูกคอมเม้นต์แรงๆ ก็คงเป็นเพราะคำที่คุณใหม่ เมืองเอกใช้เรียก อย่าง "พวกโง่" หรืออะไรทำนองนี้ คงอาจจะไปสะกิดต่อมอะไรซักสิ่งของคนอ่าน ว่าคุณใหม่ เมืองเอกกำลังดูถูกคนอื่น เค้าเลยคิดว่าคุณใหม่ เมืองเอกกำลังยกหางตัวเองว่าเป็นคนฉลาด อย่างว่าแหล่ะค่ะ เวลาอ่านผ่านตัวหนังสือ น้ำเสียงและลีลา แม้แต่กระทั่งเจตนาที่คนเขียนต้องการสื่อมันก็เปลี่ยนไปตามทัศนคติ อคติ ของคนอ่านนั่นแหล่ะค่ะ

    ยังไงก็จะติดตามอ่านงานเขียนของคุณใหม่ เมืองเอกนะคะ ^^

    ปล. แค่ตัวหนังสือในคอมเม้นต์ ก็ทำให้เราเข้าใจลักษณะนิสัยใจคอ เข้าใจมุมมอง วิธีคิดของแต่ละคนที่คอมเม้นต์ได้ในระดับหนึ่งเลยนะคะเนี่ย..... น่าสนใจๆ

    ตอบลบ
  40. คุณใหม่ ก็เอาคืนแต่ละคอมเม้นท์ ... ซะ ( ฮา )

    ผมลองอ่าน "หลาย" คอมเม้นท์ ผมก็ฮา

    และเมื่อพอผมละเลียดคอมเม้นท์ ทุกคอมเม้นท์ แบบ "เอาจริง"

    ว่า ... ทำไมเจ้าของบล็อค จึงโดนเต้มๆ และเอาคืนแรงๆ ( แบบ - ยาแรง )
    กับคนที่เม้นท์ แบบ " อ่านไม่ครบ ๔ รู้ ๘ "

    ก็เลยเข้าใจ..

    ที่มีคนพูดไว้ว่า..

    คนไทยส่วนใหญ่ ในปัจจุบันนี้

    ไร้(ค)คิด - (ว)วิเคราะห์(สั้น) - (ย)แยกแยะ(ไม่เป็น)

    ผมบ้ารึเปล่าก็ไม่รู้นะ

    แต่ผมว่า "เจ้าของบล็อค" ..

    คิด "หลาย" ชั้นจริงๆ


    ****************
    ป.ล. ๑

    ผมอ่าน (และคิดว่าอ่าน-มาก-กว่า)
    ที่คุณใหม่ อ้างอิงไปนะครับ

    เลยฮา(ไม่ออก)

    **************
    ป.ล. ๒

    คุณใหม่ .. เคยได้ยินคำว่า..

    "พุทธในทะเบียนบ้าน" มั้ยครับ ?

    ***********************

    คุณใหม่ขว้างลูกแรง

    ลูกบอลก็ย่อมเด้งกลับแรง ... เป็นธรรมดา

    แต่..

    ผมชอบวิธี "ตี" บอลที่เด้งกลับมาแรงๆ

    แล้วคุณ-ตี-กลับไปแรงๆอีกรอบ-จนลูกบอล "แตก"

    ของคุณนะ !

    เอ้า - ฮา (มั้ง)

    ตอบลบ
  41. ค่ะอ่านไปด้วย นั่งจิบชาซองไปด้วย ก็ดีค่ะได้สาระดี เปิดมุมมองใหม่ๆ

    ตอบลบ
  42. เบียร์ เหล้า แม่งเลวร้ายกว่าชาเขียวเยอะ มึงไม่ไปด่าเสี่ยเบียร์ช้างให้เลิกกิจการปิดโรงงานบ้าง ? จะทำเหล้า เบียร์ มามอมเมาเยาวชนกันไปถึงไหน ? มีใครแดกชาเชียวผสมน้ำตาลแล้วเมาไปขับรถชนคนตายบ้าง ? กูว่ามึงหาเรื่องมากไป

    ทุกธุรกิจก็มีแจกสินค้า มีเสี่ยงโชคกันทั้งนั้น มีอันไหนไม่มี แม่งก็แย่งลูกค้าลด แลก แจก แถม เสี่ยงโชคกันทั้งนั้น มึงเล่นจะด่าเสี่ยตันคนเดียวว่าเป็นอบายมุข คนอื่นก็เสี่ยงโชค งานวัด กาชาด งานการกุศลแม่่งก็มีจับสลากเสี่ยงโชคเหมือนกัน

    เขาบริจาคเงินก็ดีแล้ว มึีงไปว่าเขามีกำไรหลายพันล้าน บริจาคร้อยล้าน ยังไม่ดีอีก ? มึงจะให้เขาบริจาคจนเกือบหมดตัวเลยหรือไง ? ทุกคนก็เป็นเหมือนกันหมด บริจาคตามสัดส่วนที่มีรายได้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. กูอ่านคห.มึงปุ๊บ ก็รู้เลย มึงอ่านไม่เกิน 10 บรรทัด มึงถึงได้แสดงความเห็นโง่ ๆ ออกมา

      ซึ่งถ้ามึงอ่านบทความจนจบแล้วยังเข้าใจ แสดงว่า สมองมึงยังพอฉลาดบ้างว่ะ
      .
      แล้วมึงคิดจะเชื่อ จะรักเสี่ยตัน ก็ตามสบาย แต่กูไม่ขอเถียงอะไรกับมึง เพราะมึงอ่านบทความไม่จบ จึงโชว์โง่แบบนี้ เพราะที่มึงถามกูได้อธิบายครบถ้วนในบทความหมดแล้ว

      ลบ
  43. ผมว่านะมันก็ไม่ต่างจากที่กระทิงแดงแจกมอไซยๆทำๆไมถึงไม่ผิดกฏหมายๆแล้วกระทิงแดงก็ระบุว่าห้ามกินเกินวันละสองขวดๆกับผิดกฏหมาย.

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ต่างกันครับ กฎหมายควบคุมสินค้าก็ต่างกัน วิธีการแจกก็ต่างกัน
      คุณค้องตามอ่านอีกหลายบทความของผม คุณถึงจะเข้าใจกฎหมายว่า ต่างกันอย่างไร ลองเสิร์ชหาดูนะครับ ผมไม่อยากถกเถียงเรื่องนี้แล้วล่ะ เขียนมาหลายปีแล้วด้วย

      ลบ