วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2557

นพพร ศุภพิพัฒน์ กรณีตัวอย่างที่ว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทยคือแหล่งฟอกเงินที่ดีที่สุด






ถ้าคุณผู้อ่านได้ตามอ่านบทความของผมมานาน ก็คงพอจะรู้ว่าผมเขียนบทความเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ไทยมาแล้ว 3 บทความ

1. การเก็งกำไรในตลาดหุ้นคือการพนัน เป็นอบายมุข ตอน 1

2. การเก็งกำไรในตลาดหุ้นคือการพนัน เป็นอบายุข ตอน 2 (เทคนิคการปั่นหุ้น)

3. คนรวยอวดหุ้น ก็เหมือนคนจนถูกหวย

ซึ่งทั้ง 3 บทความนั้น ผมพยายามจะบอกว่า ถ้าคุณไม่อยากเป็นเหยื่อให้พวกคนโกงเชือดคุณในตลาดหุ้น ก็อย่าไปเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรเลย (ยกเว้นการลงทุนระยะยาว)

ผมไม่อยากให้คนไทยโลภมากหวังรวยลัดในตลาดหุ้นด้วยการไปเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ซึ่งกองไฟนั้นก็คึอ พวกเซียนหุ้นทั้งหลายที่เขาทำกันเป็นขบวนการเพื่อหลอกให้คนโลภเข้าไปเป็นเหยื่อให้พวกเขาหลอกฟันไม่สิ้นสุด

---------------------------------------

ตลาดหลักทรัพย์ไทยคือแหล่งฟอกเงินที่ดีที่สุด

คุณผู้อ่านเคยสังเกตเหมือนที่ผมสังเกตไหมครับว่า เดี๋ยวนี้โครงการบ้านจัดสรรที่มีราคาหลังละ 50 ล้านขึ้นไปมันทำไมผุดขึ้นมากมาย แสดงว่า มีคนไทยที่เป็นเศรษฐีมากขึ้นใช่ไหม ?

โอเค คนไทยที่รวย ๆ มีมากมายขึ้นก็จริง แต่จะมีสักกี่คนที่กรมสรรพากรได้ไปสำรวจตรวจสอบว่า เขารวยเพราะอะไร ? รวยเพราะทำมาหากินบริสุทธิ์หรือไม่ ?

ผมเห็นข่าวแว่ว ๆ ว่า ตอนที่ คสช. ทำรัฐประหารใหม่ ๆ เห็นมีข่าวว่า ต่อไปจะให้มีการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนที่ซื้อรถแพงราคามากกว่า 10 ล้านขึ้นไปทุกราย หรือจะตรวจสอบเส้นทางของคนที่ซื้อบ้านราคาแพงกว่า 40 ล้านขึ้นไป

เพราะจากกรณีคดีรถซุปเปอร์คาร์ไฟไหม้ ที่เป็นข่าวดังไปเมื่อหลายเดือนก่อน บ่งชี้ว่า มีการหลีกเลี่ยงภาษีจากการซื้อรถหรูพวกนี้ และอาจรวมไปถึงการฟอกเงินด้วย แต่ข่าวที่ว่า จะมีการตรวจเส้นทางการเงินก็เงียบไปแล้ว..


ดีเจภูมิ กับลัมโบกนี

ดีเจภูมิ เคยเล่าในรายการเจาะใจไว้ว่า "ตอนผมมีเงินในธนาคาร 10 ล้าน ผมใส่กางเกงขาสั้นไปกินอาหารข้างทาง ไม่เคยมีใครชื่นชมผม 

แต่ผมพอซื้อรถซุปเปอร์คาร์คันละ 10 ล้าน จากเงินเก็บมาทั้งชีวิตของผมจนผมเหลือเงินแค่ 5 หมื่นบาทในธนาคารเท่านั้น ทีนี้พอผมใส่กางเกงขาสั้นไปกินอาหารข้างทาง มีแต่คนเขามาชื่นชมผมมากมาย กดไลค์เป็นหมื่น ๆ เช่น โหพี่ภูมิเขารวยขนาดนี้แล้วยังติดดินอีก , พี่ภูมิเขารวยแต่เขาไม่ถือตัวเลยนะ 

แต่ตอนผมที่ขับรถซิตี้คาร์คันละ 5 แสน บางทีผมใส่กางเกงขาสั้นไปเดินห้าง ยังโดนค่อนแคะเลยว่า แต่งตัวซกมก"

สิ่งที่ดีเจภูมิต้องการจะบอกก็คือ "คนไทย สังคมไทย เป็นสังคมที่ยกย่องคนรวย ขอให้คุณรวยเถอะ ไม่ว่าคุณทำอะไรก็ดูดีไปหมด ทั้ง ๆ ที่ คนที่ขับรถซุปเปอร์คาร์บางคน พวกคุณเคยรู้ไหมว่าเขาเอาเงินที่ไหนมาซื้อ ผมว่ารถบางคันเป็นเงินที่มาจากการฟอกเงินด้วยซ้ำ"  ดีเจภูมิกล่าวไว้เช่นนั้น

ที่ผมยกตัวอย่างเรื่องดีเจภูมิ มาให้อ่านก็เพื่อจะบอกว่า สังคมไทยเรานั้นมีข้อเสียตรงที่ชอบยกย่องชื่นชมคนรวยมากเกินเหตุ จนเป็นเหตุให้ใคร ๆ ก็อยากจะรวย เพราะรวยแล้วจะเป็นที่ยกย่องนับน่าถือตาของคนในสังคม

ดังนั้นเพื่อที่จะได้รวย เพื่อที่จะได้มีคนนับหน้าถือตา ก็เลยมีคนเลว ๆ พยายามทำทุกวิถีทางให้ได้มาซึ่งความร่ำรวยนั้น

--------------------

หรืออย่างเช่น คดีฆ่าหั่นศพครูสอนภาษาญี่ปุ่นที่เป็นข่าวดังเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ต้องหาหญิงในคดีนี้เคยเป็นเมียชาวญี่ปุ่น และก็ฆ่าสามีชาวญี่ปุ่นเพื่อหวังได้เงินประกัน

มีสกู๊ปข่าวชิ้นหนึ่งได้รายงานว่า ที่บ้านแม่ของผู้ต้องหาหญิงคนนี้ในต่างจังหวัด เป็นบ้านที่ใหญ่โตกว้างขวาง รั้วและประตูใหญ่ของบ้านเป็นสแตนเลส ซึ่งบ่งบอกว่า เป็นคนมีฐานะพอควรในสังคมชนบท

ชาวบ้านที่นั่นต่างให้ความเห็นว่า ไม่อยากจะเชื่อว่า เธอจะกล้าก่อคดีนี้ได้ เพราะเธอเป็นคนใจบุญมาทำบุญที่วัด ช่วยงานบุญที่หมู่บ้านสม่ำเสมอ แจกเงินให้เด็กๆ ยากจนในหมู่บ้านเป็นประจำ

นี่ก็คือตัวอย่างว่า จะมีคนไทยจำนวนมากที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้รวย แม้เงินที่ได้มาจากการทำชั่วก็ตาม เพื่อจะได้เอาเงินไปทำบุญเอาหน้า เพื่อให้คนที่บ้านเกิดยกย่องสรรเสริญ

---------------

การฟอกเงิน ทำได้หลายทาง แต่ที่เนียนและดูดีที่สุดคือการเอาเงินไปเล่นหุ้น

เมื่อ 8 วันที่แล้ว หลังจากทราบเรื่องคดีส่วยหมื่นล้านของตำรวจใหญ่ ผมก็ได้เขียนบทความเรื่อง ต้องยึดทรัพย์ครอบครัวตำรวจในขบวนการส่วยหมื่นล้าน ซึ่งในบทความนั้นผมก็เขียนไว้นิดหน่อยเกี่ยวกับการจ่ายส่วยในรูปแบบต่าง ๆ และการเอาเงินจากส่วยไปฟอกในตลาดหุ้น

ผมเขียนไปได้อาทิตย์เดียว ก็มีกรณีตัวอย่างให้ผมได้เอามาเขียนบทความนี้จนได้





เพราะล่าสุดได้มีการออกหมายจับนายนพพร ศุภพิพัฒน์ มหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 31 จากนิตยสารฟอร์บส์ 2557 เขามีอายุแค่ 43 ปี แต่เป็นประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง บริษัทผลิตไฟฟ้าพลังลมรายใหญ่ของประเทศไทย ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้จ้างวานให้อุ้มนักธุรกิจเพื่อลดหนี้ให้กับตนเอง ซึ่งในระหว่างการเจรจา มีการข่มขู่ผู้เสียหาย โดยการแอบอ้างเบื้องสูง

นายนพพร ศุภพิพัฒน์ คนนี้ถ้าจากตามรายงานข่าวก็บอกว่า เคยรวยมาจากตลาดหุ้น ซึ่งหลังจากนั้นก็เอาเงินที่รวยจากหุ้นไปลงทุนมากมาย ทำเจ๊งมีก็มีเยอะ เจ๊งแล้วก็มาเล่นหุ้นอีก พอรวยก็เอามาลงทุนกิจการใหม่ วนเวียนแบบนี้หลายกิจการ

แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่กิจการด้านพลังงานทดแทน เช่น พลังงานไฟฟ้าจากลม แล้วขายไฟฟ้าให้ กฟผ. ซึ่งนายนพพร มีเส้นสายใหญ่โตทั้งในวงการนักการเมือง วงการพลังงาน วงการทหาร และที่พลาดไม่ได้ก็คือ วงการตำรวจ !!

จากรายงานข่าวบอกว่า นายนพพร รวยจากหุ้นมาตั้งแต่วิกฤติปี 40 เมื่ออายุแค่ 21 เท่านั้น แถมเขายังถือหุ้นในบริษัทอีก 10 แห่งที่ไม่มีรายได้อีกด้วย ??

แปลกดีไหม ถือหุ้นในบริษัทที่ไม่มีรายได้ แต่นายนพพรกลับรวยเอา ๆ ๆ จนติดอันดับที่ 31 เศรษฐีไทยตามที่นิตยสารฟอร์บส์ไทยรายงานในปี 2557

ตอนนายนพพรในวัย 21 ปี เอาเงินที่ไหนมาเล่นหุ้นจนรวย ?? พ่อแม่รวยมากเหรอ ?ง่ายไปมั้ง ?

คำตอบคือ ไม่มีใครรู้แน่ชัด ? ทั้ง ๆ ที่ทำกิจการหลายอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ เจ๊งไปก็มี แต่ก็รวยเอา ๆ

มีข้อสันนิษฐานเดียวที่ผมนึกได้คือ เขานำเงินผิดกฎหมายมาเล่นหุ้น แล้วคนจะรวยหุ้นได้ต้องมีเงินมากพอที่จะปั่นหุ้นให้เกิดกระแส

แล้วเงินที่ผิดกฎหมายจำนวนมากที่มาปั่นหุ้นเหล่านั้นได้มาจากไหนล่ะ ?

มันก็ต้องวนกลับไปที่นักการเมือง ตำรวจ ทหาร และมาเฟียในวงการต่าง ๆ นั่นเอง หรือพูดง่าย ๆ คือ มันน่าจะมีขบวนการที่ใช้เด็กหนุ่มที่หัวดีที่ฉลาดในเรื่องหุ้น ช่วยฟอกเงินให้

เพราะตลาดหุ้นไทยเขาปั่นหุ้นกันเป็นขบวนการ ยากที่จะตรวจสอบได้ง่าย ๆ อย่างที่เรียกว่า ปั่นหุ้นอย่างบูรณาการ นั่นเอง

ภาษาเซียนหุ้นในวงการเขาเรียกว่า "มือปืนรับจ้าง" คือพวกรับจ้างฟอกเงิน พร้อมทำกำไรจากหุ้นให้ผู้ว่าจ้าง หรือเรียกอีกแบบก็คือ นอมินี !!


ตัวอย่างเช่น ถ้าผมเป็นมาเฟียที่มีเงินสกปรกมาก ผมก็จะนำเงินสกปรกมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยสักพัก แล้วผ่านไปไม่กี่วัน เงินสกปรกเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเงินสะอาดทันที แล้วพอผมรวยโดยที่จะไม่มีใครสงสัย ??

ก็เพราะผมก็จะมีข้ออ้างง่าย ๆ และไม่ต้องมีใครมาตรวจสอบด้วย นั่นก็คือ ผมได้กำไรจากการเล่นหุ้น แถมไม่ต้องเสียภาษีจากการขายหุ้นที่ได้กำไรด้วย จึงไม่ต้องห่วงว่าสรรพากรจะมาตรวจสอบ เพราะขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้รับการยกเว้นการจัดเก็ยภาษี พอสิ้นปี ก็เสียภาษีรายได้ไปตามระเบียบแบบคนดี ๆ ทั่วไปเขาทำกัน

เห็นไหมครับง่ายจะตายไป ใคร ๆ ก็อ้างได้ว่ารวยจากการซื้อขายหุ้น มันง่ายจะตายไป แถมดูดี ดูเท่ ดูฉลาด ดูเก่ง ดูเป็นคนทันสมัยอีกด้วย 

แล้วพอรวยมากขึ้น ๆ ก็ยังสามารถปั่นหุ่นได้ง่ายขึ้นเช่นกัน นั่นก็คือ พอตั้งตัวเป็นเซียนหุ้นได้แล้ว ก็จะมีเหยื่อใหม่ ๆ ก็คือ แมงเม่าบินเข้ามาให้เซียนหุ้นเชือดได้สบาย ๆ เรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด เพราะขบวนการหลอกคน เอ้ย ชักชวนคนให้เข้ามาเล่นหุ้นมีมากมายในสื่อทุกสื่อ

แล้วสมมุติว่า ถ้าผมอาจรวยหุ้นสัก 100 ล้านบาท แต่ผมยังสามารถนำเงินสกปรกจากธุรกิจมืดหรือจากการคอร์รัปชันต่าง ๆ  เข้ามาผสมปนเปเข้าไปได้อีก จนสร้างภาพลักษณ์ให้ผมเป็นเซียนหุ้นพันล้านหมื่นล้านได้สบาย ๆ

แต่แน่นอน คุณต้องไม่โง่ที่จะฟอกเงินในตลาดหุ้นเพียงที่เดียวเท่านั้น เพราะมันเสี่ยงเกินไปที่จะมีคนสงสัย

แล้วทำยังไงดีล่ะ ?

ก็เอาเงินที่ผ่านการฟอกจากตลาดหุ้นแล้วไปลงทุนสร้างกิจการอะไรขึ้นมาก็ได้ อย่างเช่น ถ้าคุณอยากมีภาพลักษณ์หล่อ เท่ ดูดี คุณก็เอาเงินไปทำกิจการพลังงานทดแทน พลังงานทางเลือก ซึ่งมันจะทำให้คุณดูหล่อ ดูอนุรักษ์พลังงาน ดูเป็นคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมขึ้นมาเลยทีเดียว

อย่างยุคนี้กิจการที่ดูเท่มาก ก็คือ โรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม นั่นเอง แล้วก็ไม่ต้องกลัวขาดทุนหรือเจ๊ง เพราะเงินที่ได้มาลงทุนมันก็ได้มาอย่างชิวชิว ถึงจะขาดทุนก็ไม่ต้องกลัว เพราะเดี๋ยวก็หาเงินจาก ระบบชิวชิว ผ่านการฟอกเงินอีกทอดในตลาดหุ้นไทย แล้วเอามาโปะในกิจการที่คุณเอาไปลงทุนจริงได้ตลอดเวลา




บริษัทวินต์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด กำลังมีโครงการว่าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในไม่ช้านี้ แต่เผอิญเกิดคดีนี้ขึ้นเสียก่อน ไม่งั้นคงมีแมงเม่าไทยโดนปั่นหัวอีกเยอะ เพราะตอนนี้กระแสที่เป็นแฟชั่นในตลาดหุ้นก็คือ โลกเรามีวิกฤติน้ำมันแพง ดังนั้นต้องเล่นหุ้นพลังงานทางเลือกไว้ก่อน เพราะมีอนาคตสดใสแน่นอน

คลิกอ่าน นายนพพรไม่ได้รวยจากการขายพลังงานไฟฟาพลังงานลม





ที่ผมยกตัวอย่าง นายนพพร ศุภพิพัฒน์  ก็เพราะมันเป็นตัวอย่างเดียวที่ถูกจับได้ในวันนี้ แต่ที่ผ่าน ๆ มายังมีผู้คนอีกเพียบครับ ที่ใช้การเล่นหุ้นเพื่อการฟอกเงิน

อย่างเช่น เป็ดเหลิม ที่รวยเหลือเกินมีรถราคาไม่ต่ำกว่า 40 -50 ล้านมากมายหลายคัน มันรวยมาจากไหน ?

ตอนเล่นการเมืองใหม่ ๆ เป็ดเหลิม อ้างกับสังคมว่า ตัวเองมีที่ดินมรดกพ่อแม่เยอะเลยรวย แต่นี่คือการอ้างที่ง่ายที่สุดในสมัยอดีต แต่จะอ้างว่ารวยจากการขายที่ดินอย่างเดียว มันก็ไม่ง่ายแล้วในวันนี้

แล้วทีนี้เป็ดเหลิมทำไงล่ะ ?

เป็ดเหลิมก็ส่งลูกชายเข้าไปฟอกเงิน เอ้ย !! ส่งไปเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไงล่ะครับ ซึ่งตอนนี้ใคร ๆ ในตลาดหุ้นก็รู้จักกันดี เซียนปื๊ดลูกเป็ดเหลิม

แต่ก็นั่นแหละ จะอ้างแต่กำไรจากเล่นหุ้นอย่างเดียวก็คงไม่เนียนพอ ก็ต้องเปิดกิจการอะไรบังหน้าไว้ด้วย เห็นว่า บรรดาลูกเป็ดได้เปิดกิจการคาร์แคร์ และไอทีมาร์ทและขายเครื่องใช้ไฟฟ้าบังหน้า ใช่ไหม ?

ะนั้นขอเพียงคุณมีเส้นสายการเมืองดี ๆ หรือถ้ามีอำนาจในรัฐบาลได้ด้วยยิ่งดี  คุณจะเล่นหุ้นยังไงก็ไม่มีวันขาดทุนครับ ซึ่งผมได้อธิบายไปแล้วในบทความเก่า ๆ ว่า เขาใช้อำนาจทางการเมืองในการเล่นหุ้นปั่นหุ้นกันอย่างไร ?


--------------------------------

ก่อนจบบทความ ผมขอทิ้งท้ายคำถามดี ๆ เกี่ยวกับหุ้น ที่มีคนถามคุณสุนันท์ ศรีจันทรา เซียนรู้ทันกลโกงหุ้นดังนี้ครับ

คำถามแรก



คุณสุนันท์ ศรีจันทรา ตอบว่า "สุดยอดจริงครับ คุณคงป็นคนที่ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง และมีความรู้ความเข้าใจเรื่องตลาดหุ้นดีพอสมควร
แต่คนที่รู้ดี รักดีในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ มักจะไม่ได้ดี แต่อย่าท้อใจนะครับ สู้ๆ สักวันจะสมหวัง เห็นความเป็นธรรมในทุกด้านของประเทศนี้"


คำถามที่ 2 


คุณสุนันท์ ศรีจันทรา ตอบว่า "เข้าใจวาการเก็บภาษีหุ้น โดยผ่อนปรนสำหรับการลงทุนระยะยาวนั้น มีหลายประเทศ แต่ประเทศไทย พอจะเก็บภาษีทีไร มีกระแสตอบโต้ จนทุกรัฐบาลกลัว กลัวตลาดหุ้นจะตก จึงไม่เคยมีรัฐบาลใดเก็บ
ถ้าเก็บภาษีกำไรจากการลงหุ้นในระยะสั้น จะลดการเก็งกำไรระยะสั้น และจะส่งเสริมการลงทุนระยะยาว นักปั่นหุ้นก็ลำบากครับ เพราะปั่นมาได้ ต้องจ่ายภาษีหนัก เนื่องจากนักปั่นหุ้น จะล่อให้นักลงทุนแห่เข้าไปเก็งกำไรระยะสั้น และนักปั่นถือโอกาสขายทิ้ง ก่อนไปปั่นหุ้นตัวอื่นต่อ"


จากคำถาม 2 คำถาม ที่ผมยกมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ก็เพื่อจะบอกว่า ตลาดหุ้นไทยยังเป็นแหล่งฟอกเงินที่ดีที่สุดของพวกคอร์รัปชัน และพวกมาเฟียทั้งหลาย

เคยสังเกตไหมครับว่า ในแต่ละวันนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาซื้อขายหุ้นมีมากกว่าคนไทย ทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจไทยตอนนี้แย่มาก การส่งออกติดลบ การท่องเที่ยวก็หดตัวไม่โตเท่าที่ควร แถมยอดขาดดุลการค้าไทยก็เพิ่มขึ้นตลอด แปลความง่าย ๆ ก็คือ ประเทศไทยกำลังแย่ แต่ก็มีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนมากกว่าคนไทยด้วยกันทุกวัน

ผมจึงอยากจะบอกว่า เงินจากนักลงทุนต่างชาติเหล่านั้น ส่วนหนึ่งก็คือ บริษัทนอมินีของคนไทยทั้งนั้นแหละครับ ที่เอาเงินเข้ามาลงทุนหรือเอามาฟอกผ่านตลาดหุ้นไทย เพราะถ้าเอาไปฟอกผ่านตลาดหุ้นชาติอื่น มันก็เสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบได้ เพราะตลาดหุ้นของประเทศอื่นเขาไม่ห่วยเหมือน....  แต่ตลาดหุ้นไทยมัน ชิวชิว ไงครับ

เพราะทั้ง กลต. ทั้งพวกบริษัทโบรกเกอร์ไทย ต่างเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวกันทั้งสิ้น เขาชอบที่จะให้มีคนมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเยอะ ๆ แล้วก็แกล้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ซะ เพื่อพวกเขาจะได้ร่วมกันเสพสุขกับเม็ดเงินมหาศาลที่เข้ามาลงทุนเหล่านั้นด้วย

ดังนั้นมีคนเคยเสนอให้เก็บภาษีจากการขายหุ้นระยะสั้น ส่วนหนึ่งก็เพื่อสกัดกั้นการปั่นหุ้น การฟอกเงิน ให้ลดลงไปด้วยในตัว

แต่ก็นั่นแหละ พวกที่เสียผลประโยชน์จากการที่ไทยจะเก็บภาษีจากการขายหุ้นก็มีเยอะ จึงดาหน้ากันคัดค้านอ้างโน่นอ้างนี้ ตามที่คุณสุนันท์ตอบไปนั่นแหละ

ทั้ง ๆ ที่ถ้าเก็บภาษีจากการขายหุ้นระยะสั้น จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนส่วนรวมมากกว่า

ถึงเวลาต้องปฏิรปตลาดหลักทรัพย์ไทยและการซื้อขายหุ้นได้แล้ว !!


คลิกอ่าน ใครคือตัวต้นเหตุความยากจนของเกษตรกรไทย




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น