เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2556 ผมได้มีโอกาสดูตี 10 ช่วงสัมภาษณ์
ซึ่งเป็นตอนที่เกี่ยวกับหนุ่มอเมริกันอายุ 25 ปี ที่พลัดพรากจากแม่คนไทย ตั้งแต่เขาอายุ 2 ขวบ เป็นเวลานานกว่า 22 ปี ได้ขอความช่วยเหลือมาทางรายการตี 10 เพื่อให้ช่วยตามหาแม่ของเขา
หนุ่มอเมริกันคนนี้ ชื่อ Yahya (ญาญ่า) ซึ่งตอนนี้เขาได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในสหรัฐ ในฐานะนักพูดเพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้กับวัยรุ่นในอเมริกา
ส่วนสาเหตุที่ญาญ่าต้องพลัดพรากจากแม่ของเขา ก็เพราะ
เมื่อแม่ของญาญ่าได้แต่งงานกับพ่อของญาญ่า ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ซาอุดิอาระเบีย จนมีลูกชายคือญาญ่า แต่พอเธอเลี้ยงลูกได้สักพัก เธอก็คิดถึงพ่อแม่ที่เมืองไทย อยากกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ของเธอ และเธอก็อยากพาลูกมาหาคุณตาคุณยายที่เมืองไทย และมาอยู่ที่เมืองไทยด้วย
แต่สามีของเธอไม่ยอม เพราะเขาต้องการให้ลูกเป็นอิสลามและอยู่ซาอุฯ แต่สุดท้ายสามีเธอก็ต้องยอมพาลูกมาเมืองไทยพร้อมกับเธอ
จนเมื่อมาอยู่เมืองไทยด้วยกันสักพัก ก็เกิดปัญหาตรงที่ พาสปอร์ตของสามีและลูกชายต้องหมดอายุใน 3 เดือน ทำให้สามีและลูกจึงต้องกลับซาอุฯ ไป
หลังจากสามีและลูกชายได้กลับไปซาอุฯ แล้ว ก็ได้ใช้วิธีติดต่อกันทางโทรศัพท์นานร่วม ๆ 1 ปี แต่ก็ติดต่อกันลำบาก เพราะเวลาแม่ของญาญ่าเธอโทรไปทีไร ก็จะมักเจอแต่พ่อแม่ของสามีที่เลี้ยงญาญ่าเป็นคนรับสาย เพราะสามีไปทำงาน
แล้วเธอก็พูดกันกับพ่อแม่สามีไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะปู่ย่าของญาญ่าพูดได้แต่ภาษาอาระบิก พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย
หลังจากแม่ของญาญ่าไม่ได้เจอลูกมา 1 ปี ต่อมาสามีของเธอได้พาลูกมาหาเธอที่เมืองไทยอีกครั้ง เธอพยายามจะขอร้องต่อสามีว่า ขอให้ลูกมาเป็นคนไทยอยู่เมืองไทยด้วยกันทั้งพ่อแม่ลูก ทั้ง 3 คนได้ไหม
แต่สามีไม่ยอม และไม่ยอมมอบเอกสารการเกิด และเอกสารต่างๆ ของญาญ่าให้เธอเลย
และเมื่อสามีได้พาญาญ่ากลับไปซาอุฯ อีกครั้ง ต่อมาอีกไม่นาน แม่ของญาญ่าก็ได้ทราบข่าวจากคนที่รู้จักที่ซาอุฯ ว่า สามีของเธอได้แต่งงานใหม่ และพาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว!!
นี่จึงทำให้เธอไม่สามารถพบ ญาญ่า ลูกชายของเธอได้อีก เพราะไม่รู้จะติดต่อสามีได้ที่ไหน ไม่รู้ลูกไปอยู่ที่ไหน ในที่สุดเธอก็ไม่ได้พบกับญาญ่าอีกเลย เป็นเวลาร่วม ๆ 22 ปี
แม้จะตามหาญาญ่าและสามีไม่เจอ แต่แม่ของญาญ่ายังคงเข้าใจว่า ญาญ่าคงยังอยู่ที่ซาอุฯ หรือไม่ก็ที่ซีเรีย เพราะพ่อของญาญ่าเป็นชาวซีเรีย
แต่กลับผิดจากที่เธอคาด เมื่อรู้ข่าวญาญ่าจากรายการตี10 ว่า ญาญ่าได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เติบโตที่อเมริกา และเป็นคนอเมริกันไปแล้ว
ส่วนรายละเอียดของการพบกันของ 2 แม่ลูกนี้ ก็ดูได้จากคลิปย้อนหลังในท้ายบทความ
---------------------
แต่สิ่งที่ผมประทับใจในเรื่องตามหาแม่ ในตี 10 ตอนนี้นั้น มีอยู่ 2 ประเด็นคือ
1. ประเด็นแรก คือ พอแม่ของญาญ่า รู้ว่า ญาญ่าเติบโตขึ้นมาในสหรัฐอเมริกา แถมญาญ่ายังรักแม่ และญาญ่าก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับวัยรุ่นอเมริกัน และเป็นคนดีที่มีชื่อเสียงทำประโยชน์ให้สังคม แม่ของญาญ่าได้พูดในรายการตี 10 ไว้ว่า
"เชื่อว่าพลังแห่งความรักมีจริงๆ แล้วก็ เราทำความดี เราดูแลพ่อแม่เรา แล้วเราก็อธิษฐานให้เขาทุกวัน สุดท้ายก็ได้เจอ.. ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ที่พาลูกมา ให้เราได้เจอกัน"
2. ประเด็นที่ 2 คือ รายการตี 10 ได้ทำเซอร์ไพรส์ ให้ญาญ่ามาไทยก่อนเวลาที่ญาญ่าเคยนัดกับแม่เอาไว้ แล้วให้ญาญ่าปลอมเป็นบริกรมาเสิร์ฟน้ำส้มให้แม่ และเมื่อแม่รู้ว่าเป็นญาญ่า ญาญ่าก็ได้สวมกอดแม่ และจูบหัวของแม่
แต่ช็อตประทับใจที่ผมซาบซึ้งและมีความหมายที่สุด นั่นก็คือ
หลังจากญาญ่าได้กอดแม่แล้ว ญาญ่าก็ได้ถอยออกมาแล้วก็ ก้มลงกราบแม่
สรุปประเด็นประทับใจ
1. ในประเด็นแรก ผมอยากให้ผู้อ่านทุกคนได้เห็นถึง ความดีของคนเป็นแม่ คือ แม่ของญาญ่า แม้ไม่ได้เลี้ยงดูญาญ่า เพราะแม่ญาญ่าเลือกที่จะกลับมาทำหน้าที่ลูกกตัญญู เพื่อเลี้ยงดูตายายของญาย่าที่เมืองไทย ทำให้แม่ของญาญ่าต้องพลัดพรากจากญาญ่า จนไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้พบญาญ่าอีกหรือไม่
แต่แม่ญาญ่าเชื่อมั่นในความดีที่ตัวเองได้กระทำ จากการที่ได้ดูแลพ่อแม่ของตัวเองเป็นอย่างดี และผลแห่งความดีนั้นก็ส่งผลให้ญาญ่าได้เป็นลูกที่ดี เป็นคนดีของสังคม เป็นลูกที่ไม่ลืมพระคุณผู้ให้กำเนิด
และเมื่อวิทวัสถามแม่ญาญ่าว่า อยากจะไปอยู่กับญาญ่าที่อเมริกาไหม?
แม่ญาญ่า ตอบว่า ต้องขอดูแลพ่อแม่ที่แก่แล้วในเมืองไทยก่อน
ข้อคิดในประเด็นนี้ก็คือ ถ้าใครอยากได้ลูกที่ดี มีความกตัญญูต่อพ่อแม่ เป็นอภิชาติบุตร ก็ให้เราจงตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ของเราให้ดีเสียก่อน
2. ประเด็นต่อมา คือ ผมประทับใจที่ญาญ่าได้ก้มลงกราบแม่ ในแบบวัฒนธรรมไทยที่ดี
ได้แสดงถึงจิตใจอันสูงส่งของญาญ่า ที่เข้าใจวัฒนธรรมไทยอย่างดี แม้ตัวเองจะเติบโตในสังคมอเมริกันก็ตาม แสดงว่า ญาญ่าเป็นคนฉลาดและลึกซึ้ง แม้เติบโตในประเทศที่ไม่มีการกราบแบบนี้ แถมเขาไม่ได้เติบโตอยู่ในสังคมคนไทยในอเมริกาด้วย
แต่ญาญ่าก็สามารถเข้าใจถึงวิถีวัฒนธรรมของประเทศแม่ได้
ซึ่งแตกต่างจากคนไทยชั่วๆ ในไทยบางกลุ่มที่ไม่เข้าใจวัฒนธรรมการกราบผู้มีพระคุณอันงดงามนี้
วิถีความเป็นไทยช่างงดงามนัก ผู้ที่อ่อมน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่นได้ แสดงว่าจิตใจของเขาสูงส่ง ไม่ใช่อ้างหลักความเท่าเทียมกันจนลืมรากเหง้าของตัวเอง ใครเป็นคนแบบนั้น แสดงว่า จิตใจต่ำทรามหาที่สุดมิได้
ถ้าอ่านบทความของผมแล้ว ยังประทับใจไม่พอ เชิญดูคลิปรายการตอนประทับใจนี้ได้เลยครับ
--------------------
คลิปรายการตี 10 หนุ่มอเมริกันตามแม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น