ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนว่า เรื่องเขาพระวิหาร ผมนั้นเชื่อข้อมูลจาก ศาสตราจารย์อาจารย์อดุลย์วิเชียรเจริญ เป็นหลัก และผมก็เชื่อข้อมูลของคุณสมปอง สุจริตกุล อดีตทนายความร่วมในคดีเขาพระวิหาร เป็นสำคัญ
กรณีที่ 7 โดนจับนั้น ความจริงไม่ควรเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด เพราะอะไรรู้ไหมครับ ?
เพราะบริเวณนั้นเดิมคือ บ้านหนองจาน เป็นเขตที่ไทยเคยให้ผู้อพยพเขมรหนีสงครามเข้ามาพักอาศัยตั้งเป็นศูนย์อพยพ เป็นพื้นที่ของไทยแท้100% และมีโฉนดไทยด้วย
แต่เอาเถอะ ผ่านตรงนั้นไปก่อน
(คลิกอ่าน ความเป็นมาค่ายอพยพบ้านหนองจาน)
---------------------
ในเมื่อรัฐบาลไทยได้ไปเซ็น MOU43 กับเขมร เพื่อจะมาร่วมปกปันเขตแดนกันใหม่
ซึ่งในMOU43 ได้กำหนดไว้ว่า ห้ามคนทั้งสองชาติ และทหารทั้งสองชาติเข้าไปในพื้นที่ที่ยังพิพาทเรื่องเขตแดนกันอยู่ หรือที่เรียกว่า ต้องเป็น โนแมนแลนด์ no man's land
ซึ่งฝ่ายรัฐบาลไทยกลับชอบโง่ ชอบที่จะเรียกพื้นที่ทับซ้อน อยู่เสมอ
ในขณะที่เขมรไม่เคยเรียกพื้นที่ทับซ้อนเลย เพราะเขมรถือว่าเป็นดินแดนเขมร100% ทั้งๆ ที่ความจริงเขมรมันเข้ามาโมเมเอาแท้ๆ
-----------------------
ผมขอถามว่า ถ้ารัฐบาลไทยยึดถือเรื่อง MOU43 ไว้อย่างเหนียวแน่น
แล้วทำไมรัฐบาลไทยถึงได้ปล่อยปละละเลยให้เขมรเข้ามาสร้างชุมชนบ้านเรือน วัด และถนน รวมทั้งทหารเขมรเข้ามายึดครองในพื้นที่4.6ตร.กม.ได้ในเวลานี้ ?
แค่คำถามนี้คำถามเดียว ก็ไม่มีรัฐบาลไทยชุดไหนตอบได้สักรัฐบาล !!??
เพราะMOU43 ได้กำหนดไว้ว่า ห้ามคนไทย คนเขมร และทหารทั้งสองชาติเข้ามาในพื้นที่ ?
ฉะนั้น การกอดMOU43 ไว้จึงไม่เห็นได้ประโยชน์ตรงไหน แต่กลับทำให้ฝ่ายเขมรย่ามใจเข้ามารุกล้ำตั้งชุมชนในพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหารจนเต็มไปหมด จนคนไทย ทหารไทยก็ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่นั้นได้อีก ถ้าเขมรไม่อนุญาต
นี่เท่ากับในทางพฤตินัย ไทยเราเสียดินแดนไปแล้วใช่หรือไม่ ?
--------------------------
ในMOU43 ข้อ 5 หน้า4 กำหนดว่า
ข้อ 5
เพื่ออำนวยความสะดวกให้การสำรวจตลอดแนวเขตแดนทางบกร่วมกันเป็นไปอย่างประสิทธิผลหน่วยงานของรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเหล่านั้น จะงดเว้นการดำเนินการใด ๆ ที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน เว้นแต่จะเป็นการดำเนินการของคณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วมเพื่อประโยชน์ในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน
ข้อ 8
ให้ระงับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดจากการตีความหรือบังคับใช้ความเข้าใจฉบับนี้โดยสันติวิธีด้วยการปรึกษาและการเจรจา
-----------------------------
ทำไมราตรี และวีระ ไม่ควรโดนจับ ?
เพราะตามหลักกฎหมายทั่วโลกแล้ว ไม่เคยมีคนในประเทศใดๆ ต้องโดนจับเข้าคุกในพื้นที่ที่ยังเป็นปัญหาพิพาทในเรื่องเขตแดนอยู่
เช่น ถ้าบ้านผม กับบ้านคุณ ยังมีปัญหาพิพาทในที่ดินว่า เป็นของใครแน่ ตามหลักถ้าใครรุกล้ำไปในพื้นที่นั้นๆ ก็ไม่มีทางที่ตำรวจจะจับไปเข้าคุกหรอก เพราะพื้นที่ตรงนั้นยังไม่มีบทสรุปชัดเจนว่า เป็นพื้นที่ของใคร ? จึงไม่สามารถใช้กฎหมายบุกรุกได้
แล้วทำไมกรณี 7 คนไทยเดินเข้าไปในพื้นที่ที่อ้างสิทธิกันทั้งสองฝ่าย คนไทยกลับถูกทหารเขมรจับตัวไปได้ ?
ทั้งๆ ที่แผ่นดินตรงนั้น หากนำแผนที่1:50,000 ของไทยและแผนที่ 1:200,000ของเขมรมาตรวจดู ก็จะพบว่า ต่างฝ่ายต่างยังอ้างกรรมสิทธิบนแผ่นดินตรงจุดนั้นด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ตามปกติ ในอดีตเวลามีคนไทยโดนทหารเขมรจับตัวไปในพื้นที่ๆ ยังเป็นปัญหาพิพาทเขตแดน หากทหารไทยรู้ข่าวก็จะต้องรีบบุกเข้าไปเจรจาให้ทหารเขมรปล่อยตัวคนไทยทันที
เพราะตรงจุดนั้นยังเป็นพื้นที่พิพาทในเรื่องดินแดนกันอยู่ ซึ่งที่ผ่านๆ มาทหารเขมรไม่กล้าหือกับทหารไทยมาตลอด ก็มักจะยอมปล่อยตัวคนไทยโดยดี
แต่เดี๋ยวนี้ทหารไทยไม่ทำหน้าที่ปกป้องดินแดน กลับปล่อยให้เขมรเข้ามายึดพื้นที่บ้านหนองจานตรงจุดนั้นไว้ได้ ก็เท่ากับทหารไทยละเว้นหน้าที่
ส่วนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็กลับไม่แสดงท่าทีให้ชัดเจนว่า คนไทยไม่ได้รุกล้ำแผ่นดินเขมร และควรแถลงการณ์ให้เขมรต้องปล่อยตัวคนไทยทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
แถมรัฐบาลอภิสิทธิ์ยังมีท่าทีไปยอมรับด้วยซ้ำว่า คนไทยไปรุกล้ำแผ่นดินเขมรจริง เพราะพยายามจะให้คนไทยทัั้ง 7 คนยอมรับผิด เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ แต่คุณวีระ และคุณราตรีไม่ยอม
ทั้งๆ ที่ แผ่นดินตรงนั้น มันอยู่ในแผ่นดินไทยแท้ๆ คนไทยจึงไม่ควรถูกจับข้อหารุกล้ำดินแดนอย่างเด็ดขาด เว้นแต่รัฐบาลไทยไปยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนของเขมรแล้วนั่นแหละ คนไทยถึงจะรุกล้ำแผ่นดินเขมร !!
--------------------------
ทีคนเขมรหลบหนีเข้าไทยอย่างผิดกฎหมายเป็นแสนๆ คน ไทยก็แค่ผลักดันกลับออกไปเท่านั้น
แต่พอคนไทยเดินไปในที่ๆ ยังพิพาทกันอยู่ เขมรกลับยัดข้อหาจารกรรมและรุกล้ำแผ่นดิน จนยัดคนไทยขังคุก !!
ไทยเราแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีที่น่าเกรงขามดั่งในอดีตอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้รัฐบาลไทยกลัวเขมร !!
akecity
ย้อนอ่าน ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ คุณคือวีรสตรีแห่งไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น