เพราะบล็อคมุมมองใหม่เมืองเอก ลิงค์มักมีปัญหาไลค์ไม่ได้ เลยมาเปิดบล็อคใหม่อันนี้แทนครับ
วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โฆษณาครบ 75 ปีไทยประกันชีวิต ชุด โอกาส ดันตกม้าตายตอนจบ
ในโอกาสที่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) จะมีอายุครบรอบ 75 ปี ในปี 2560 นั้น ก็เลยออกโฆษณาดราม่าชุดใหม่ มีความยาวมากถึง 5 นาที เพื่อฉลองโอกาสนี้
นั่นคือ โฆษณาชุด โอกาส ตามคลิปนี้ครับ
สร้างสรรค์ผลงานโฆษณาโดย ธนญชัย ศรศรีวิชัย (ต่อ ฟิโนมีน่า)
หากใครดูโฆษณาชุดนี้ไม่ได้ เพราะ บ.ไทยประกันชีวิตไล่ตามลบคลิปจนหมด ก็ให้ไปดูใหม่ได้ที่ https://vimeo.com/195906924
คือการนำเสนอแนวคิดของโฆษณา เพื่อที่จะสอนสังคมว่า โอกาสของคนเรานั้นไม่ได้มาจากใครอื่น แต่มาจากการที่ตัวเราเองสร้างโอกาสนั้นขึ้น เพื่อให้โอกาสที่ดีกับตัวเอง
หลายคนสร้างโอกาสที่ดีให้ตัวเองได้ ทั้ง ๆ ที่ ตัวเองก็ไม่ได้สวย ไม่ได้รวย ไม่ได้เก่งมาแต่เกิด แถมหนำซ้ำยังผ่านความทุกข์ยากลำบากมากมายมาสารพัด
แต่เพราะความไม่ท้อเช่นนางเอกในโฆษณาชุดนี้ ซึ่งสุดท้ายเธอก็เลยประสบความสำเร็จในชีวิตได้ในที่สุด
เพียงแต่ว่า โฆษณาไทยประกันชีวิต ชุด โอกาส นี้ เกิดมาตกม้าตายตอนจบครับ
แต่โฆษณาทั้งหมดเกือบ 5 นาทีได้นำเสนอดีมาตลอด แต่ดันมาตกม้าตายในฉากที่โรงพยาบาล เพราะนำเสนอได้กำกวมมาก จนคนดูจำนวนมากเลยเกิดข้อสงสัยและถกเถียงกันมากมาย
ซึ่งไม่รู้จะเป็นเจตนาของผู้ผลิตหรือเปล่า ?
ที่มีเจตนาให้เกิดความกำกวมขึ้นในโฆษณา เพื่อให้คนดูได้ถกเถียงดราม่ากัน เพื่อหวังให้โฆษณาได้ถูกกล่าวขวัญถึงมากขึ้น
ก็คือ ฉากที่นางเอกซึ่งเป็นพนักงานขายประกันชีวิต ต้องรีบวิ่งอย่างกระหืดกระหอบเพื่อไปให้ทัน จนต้องหกล้มหกลุกคลุกคลานในโรงพยาบาล เพื่อจะเอาเอกสารกรมธรรม์มาแสดงให้เห็นว่า เด็กที่ป่วยคนนี้ได้ทำประกันชีวิตไว้แล้ว ได้โปรดช่วยเด็กให้ถึงที่สุดด้วยเถิด แล้วนางเอกพนักงานขายประกันก็ถึงกับก้มลงกราบนางพยาบาลที่อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
ฉากนี้เกิดความกำกวมให้ผู้ชมอย่างมาก เพราะการนำเสนอเริ่มต้นจาก นางพยาบาลมีท่าทีเหมือนกับกำลังทะเลาะกับแม่ของเด็กที่ป่วย จนหลายคนตีความว่า ทางหมอและพยาบาลไม่ยอมรีบรักษาเด็ก เพราะผู้ป่วยอาจไม่มีเงิน ไม่มีเครดิต ไม่มีสวัสดิการในการรักษาพยาบาลอะไรเลยเหรอ ถึงขนาดพนักงานขายประกันจะต้องรีบวิ่งมาโชว์เอกสารกรมธรรพ์ให้ดูว่า ผู้ป่วยคนนี้มีประกันชีวิตคุ้มครองจริง ๆ นะ
ประเด็นจุดนี้ มีผู้ชมหลายคนตำหนิการนำเสนอของโฆษณาชุดนี้ว่า เหมือนเชิดชูแต่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของตัวเอง ยกย่องแต่พนักงานขายประกันของตัวเอง แต่กลับโยนบาปไปให้บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนแทน ว่า ไม่ยอมรักษาเด็ก ก่อนที่จะรู้ว่า แม่ของเด็กจะมีเงินจ่ายค่ารักษาหรือไม่ ?
(แต่ความจริงถ้าเป็นเหตุฉุกเฉินจริง ๆ กฎหมายหลักประกันสุขภาพในปัจจุบันนี้ ก็กำหนดให้ทุกโรงพยาบาลต้องรับรักษาในขั้นแรกไปก่อน)
แต่มีผู้ชมหลายคนก็พยายามตีความเพื่อช่วยโฆษณาชุดนี้ว่า นางพยาบาลทำหน้าตาพร้อมทำมือเหมือนบอกแม่เด็กว่า .ใจเย็น ๆ หรือ เข้าไปไม่ได้นะคะ หรือจะทำท่าทางเหมือนจะบอกว่า หมดหวังแล้วนะคะ หรือนางพยาบาลพยายามจะบอกแม่ของเด็กว่า หมอได้ช่วยอย่างถึงที่สุดอยู่แล้วนะคะ
จนขนาดที่แม่ของเด็กต้องหันหน้าแสดงความผิดหวังเข้าผนังตึก (คือ คนดูต้องตีความกันเองว่าตกลงนางพยาบาลพูดอะไรกับแม่เด็กกันแน่วะ)
ขนาดเมื่อพนักงานประกันโชว์เอกสารประกันชีวิตแล้ว นางพยาบาลก็ยังทำหน้าราวกับว่า หมดหวังแล้วค่ะ
นางพยาบาลทำหน้าหมดหวัง ก่อนที่พนักงานประกันจะก้มตัวลงกราบ
ส่วนแม่ของเด็ก ก็ยิ่งเสียใจหนักมาก เพื่อเห็นสีหน้าหมดหวังของนางพยาบาล
ส่วนนางเอกพนักงานขายประกัน ก็คงนึกถึงอดีตในสมัยลูกสาวของตัวเองที่เคยป่วย แล้วพาไปรักษาไม่ทัน เธอก็เลยลืมตัวก้มลงกราบเพื่อให้หมอและพยาบาลพยายามช่วยชีวิตเด็กให้ถึงที่สุด
แต่ถ้าสังเกตดี ๆ พนักงานขายประกันทำหน้าเหมือนกำลังช็อค เมื่อเห็นสีหน้าหมดหวังของนางพยาบาล
พนักงานประกันที่หน้าตากำลังช็อค จึงค่อย ๆ ทรุดตัวลงกราบ เหมือนจะขอร้องว่า "ได้โปรดพยายามช่วยให้ถึงที่สุดด้วยเถอะ"
ตกลงโฆษณากำลังจะสื่อถึงอะไรกันแน่ ?? งง ??
กรมธรรม์ประกันชีวิตช่วยชีวิตเด็กไว้ ? หรือ
การกราบนางพยาบาลถึงช่วยชีวิตเด็กไว้ กันแน่ ??
ประเด็นตรงนี้โฆษณานำเสนอได้กำกวมมาก ตรงที่ว่า หมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินทำไม แล้วทำไมไฟห้องผ่าตัดถึงเพิ่งจะมาเปิดหลังจากพนักงานขายประกันได้ยื่นเอกสารให้หมอและพยาบาลได้เห็นและได้ก้มลงกราบหมอและพยาบาลแล้ว
โคตรงง งงโคตร ครับ เพราะมันเหมือนกับพยายามสื่อว่า หมอจะยังไม่รักษา จนกว่าจะเห็นเอกสารประกันชีวิตก่อน แล้วไฟห้องผ่าตัดถึงเพิ่งจะเปิดขึ้น เมื่อหมอและพยาบาลมั่นใจแล้วว่า โรงพยาบาลจะไม่ขาดทุน ????
แล้วพอหมอได้เริ่มผ่าตัด ต่อมาเด็กก็รอด พนักงานประกันชีวิตถึงได้กอดกับแม่ของเด็ก
งงดีครับ คือเหมือนโฆษณาจะบอกว่า ต้องมีประกันชีวิตมาโชว์ เด็กถึงจะได้รับการรักษาทันที หรือได้รับการรักษาอย่างเต็มที่อีกครั้ง แล้วเด็กถึงจะรอด ???
คล้าย ๆ กับว่า ตอนแรกที่ยังไม่มีกรมธรรม์มาแสดง หมอยังรักษาแบบกั๊ก ๆ แต่พอรู้ว่า เด็กมีประกันชีวิต หมอเลยกลับไปรักษาใหม่อย่างเต็มที่ งั้นเหรอ ??
ไม่งั้น นางพยาบาลก็จะมัวทะเลาะกับแม่ของเด็กทำไม (ในตอนแรกนางพยาบาลทำหน้าเชิงปฏิเสธ !!)
สรุป ห่วยครับ โฆษณาไทยประกันชีวิต ชุด โอกาส ชุดนี้ เพราะเป็นการนำเสนอที่เสมือนจะไปทำลายจรรยาบรรณอาชีพอื่น ผมไม่เข้าใจว่า คณะกรรมการของไทยประกันชีวิตพิจารณาให้โฆษณาชุดนี้ผ่านออกมาออกอากาศได้อย่างไร น่าเสียดายจริง ๆ ทำมาเกือบจะดีแล้วเชียว
-------------------
สรุป
ผมว่า โฆษณาไทยประกันชีวิตชุด โอกาส มาตกม้าตายตอนจบ
คือช่วงเหตุที่เกิดในโรงพยาบาล เกิดความกำกวมในการนำเสนอที่ไม่ชัดเจน ซึ่งถ้าตรงฉากนี้ ใส่ซับไตเติ้ลคำพูดของนางพยาบาล ของพนักงานประกันชีวิต หรือทุกคนที่กำลังพูดในฉากนี้ จะลดความกำกวมในการนำเสนอลงได้มาก
ผู้ชมคนดูจะได้ไม่ต้องมาเดาเหตุการณ์ในโฆษณากันเองแบบงู ๆ ปลา ๆ
การนำเสนอที่ว่า การทำประกันชีวิตเป็นสิ่งที่ดี แถมยังช่วยให้โอกาสคนได้ประสบความสำเร็จในชีวิตจากการขายประกัน และการประกันชีวิตยังช่วยให้โอกาสคนได้รอดชีวิตนั้น
ผมว่า การตีความและการนำเสนอในประเด็นนี้ ควรคิดให้ละเอียดรอบคอบกว่านี้ครับ เพราะไม่เช่นนั้น จะทำให้หลายคนคิดว่าโฆษณาชุดนี้ กำลังเชิดชูผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตตัวเอง แต่กลับทำให้ผู้ชมมองภาพลักษณ์ของบุคลากรทางการแพทย์ในทางลบ
แม้ความเป็นจริงในอดีต จะเคยมีเหตุการณ์ รพ.เอกชนปฏิเสธการรักษาคนจนจริง ๆ ก็ตาม
แต่การนำเสนอโฆษณาในเชิงสร้างสรรค์สังคมนั้น ต้องยิ่งระมัดระวังให้มาก เพื่อจะได้ไม่ไปทำร้ายคนอื่น ทำลายภาพลักษณ์อาชีพอื่นโดยไม่เจตนาได้
นี่เท่ากับว่า คุณต่อ ฟีโนมีน่า พลาดเรื่องกติกามารยาทของนักโฆษณาเลยทีเดียว
--------------------
และแม้ว่า โอกาสนั้นเราต้องสร้างเองหรือหาเอง แต่เหตุปัจจัยของแต่ละคนได้มาไม่เท่ากัน บางคนแทบไม่ต้องสร้างโอกาสเลย โอกาสดี ๆ ก็วิ่งเข้ามาหาเองดื้อ ๆ
ส่วนมีอีกมากมายหลายคนที่พยายามจะสร้างโอกาสที่ดีให้กับตัวเอง แต่ก็มีอุปสรรคความยากลำบากมากมายมาขัดขวางอยู่เสมอ
ทั้งหมดทั้งมวลของความยากง่ายในชีวิตของแต่ละคน ล้วนมีกฎแห่งกรรมเป็นตัวกำหนดทั้งสิ้น คนที่ได้โอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิตได้ง่าย ๆ ก็คือเคยทำกรรมดีไว้มาก
ส่วนคนที่กว่าจะได้โอกาสดี ๆ สักครั้ง ก็เลือดตาแทบกระเด็น ก็เพราะเคยสร้างกรรมชั่วไว้เยอะ เลยมีวิบากกรรมมาขัดขวางให้ยากเข็ญ
แต่ทั้งหมดแล้ว กรรมในปัจจุบันสำคัญที่สุด ทำดีที่สุดในวันนี้ แล้วพรุ่งนี้จะดีขึ้นเอง
----------------------
อัพเดทข่าวล่าสุด
หลังจากสภาการพยาบาล ได้มีหนังสือเรียกร้องให้ บ.ไทยประกันชีวิต ถอดโฆษณาชุด โอกาส ออกทันที เพราะเหมือนดูถูกวิชาชีพพยาบาล
ทาง บ.ไทยประกันชีวิต ก็ได้ถอดโฆษณาชุดนี้ออกจากสื่อทุกชนิด และลบโฆษณาออกจากช่องYoutube ของ บ.ไทยประกันชีวิต แล้ว พร้อมมีแถลงการณ์ขอโทษ
คลิกอ่าน ผลงานโฆษณาระดับมาสเตอร์พีซกู้ชื่อเสียงต่อ ฟีโนมีน่า ทิ้งท้ายปี 2559
คลิกอ่าน ผมไม่ชอบโฆษณาไทยประกันชีวิต ชุด เหตุผลที่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงหนัง
คลิกอ่าน วิจารณ์โฆษณาไทยประกันชีวิต ชุด Unsung Hero
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ผมแนะนำว่าให้คุณที่วิจารณ์ลองป่วยแบบฉุกเฉิน แล้วไม่มีประกันอะไรเลย วิ่งเข้าไปทำการรักษาดูสักครั้ง อาจจะได้ข้อมูลหรือความรู้สึกที่แท้จริงมากกว่าการอ่างสิทธิทางกฎหมายที่ประชาชนทั่วๆไปจะได้รับ
ตอบลบลองดูนะครับผมแนะนำ
ส่วนเรื่องการถอด เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ย่อมมีผู้ยอมรับความจริงทั้งหมดไม่ได้ ก็เป็นเรื่องปกติของสังคมเรา คือยอมตายแต่ไม่ยอมขายหน้าและรับความเป็นจริง
คุณก็แยกแยะไม่เป็นอีกคนละ บทความนี้พูดถึงหลักการทำโฆษณา ที่ต้องชัดเจน ไม่กำกวม ไม่ทำลายวิชาชีพอื่น นี่ไม่ใช่การทำข่าวครับ ไอ้ที่คุณว่านั่น คุณต้องไปทำเป็นข่าวแบบเจาะลึก แฉ เรื่องที่บกพร่องในสังคมมาประจานให้สังคมรับรู้
ลบหัดแยกแยะประเด็นบ้างนะครับ อิอิ
ผมว่าเค้าทำถูกนะ ที่กราบ เพราะโลกความเป็นจริงไม่ได้สวยอย่างที่คิด...และที่สำคัญ"ผมไม่ว่างที่จะมาจับผิดโฆษณา"เพื่อชี้นำคนทั่วไปให้เห็นพ้อง
ตอบลบแสดงว่าคุณไม่ได้รู้ระบบประกันชีวิตเลย ปกติ ผู้ประกันเขาจะมีบัตรประจำตัวผู้ประกัน แค่ยืนบัตรให้โรงพยาบาลที่อยู่ร่วมมือกับทางบริษัทประกัน หรือที่เรียกว่า โรงพยาบาลในเครือ ทางฝ่ายโรงพยาบาลเขาติดต่อไปทางบริษัทประกัน ก็รู้เรื่องกันแล้ว ไม่ต้องให้ตัวแทนไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ
ลบ