วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เมื่อพลเอกประยุทธขอให้อาร์เอส ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกทุกนัด






ขณะที่ผมเขียนบทความนี้ ศาลปกครองจะตัดสินว่า อาร์เอสจะชนะคดีต่อ กสทช. กรณีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกหรือไม่

เพราะ อาร์เอส ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2014 มาตั้งแต่ปี 2548 สมัยรัฐบาลทักษิณ ซึ่งยุคนั้นยังไม่มี กสทช. เพราะ กสทช. เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2553 นี่เอง

ถ้าความเห็นผม ผมต้องกล่าวโทษรัฐบาลทักษิณ ที่ปล่อยให้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกตกไปเป็นของเอกชน ทั้ง ๆ ที่ การแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นกีฬาสำคัญที่สุดที่คนไทยชื่นชอบ ซึ่งมันควรเป็นสิทธิของคนไทยทั้งประเทศที่ควรมีสิทธิดูกีฬาระดับโลกนี้อย่างเท่าเทียมกัน

ที่จริงตอนนั้นโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยหรือทีวีพูลก็จะซื้อลิขสิทธิ์เหมือนกัน และไม่คิดว่าจะมีนายทุนไทยจะมีทุ่มทุนประมูลลิขสิทธิ์นี้ไปจากคนไทย เพราะถ้าไม่มีนายทุนคนไหนในไทยมาซื้อลิขสิทธิ์นี้ ยังไง ๆ ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกก็จะต้องมาเป็นของทีวีพูลในราคาไม่แพงแน่นอน เพราะไม่มีคู่แข่ง

แต่เพราะอาร์เอสมองการณ์ไกลว่า ต่อไปทีวีไทยจะต้องมีดาวเทียมมากมายหลายช่องในอนาคต จึงได้ฉวยโอกาสชิงซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกที่บราซิลไว้ในมือ

รัฐบาลทักษิณในขณะนั้น ก็เป็นรัฐบาลแนวคิดนายทุน อาจเพราะทักษิณเป็นเจ้าของเคเบิลทีวี UBC แถมเป็นเจ้าของดาวเทียมไทยคมด้วย ซึ่งก็อาจมีผลประโยชน์แอบแฝงทางธุรกิจกับอาร์เอสในภายหลังก็ได้ ก็เลยไม่คิดจะขวางการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก

หรืออาจเพราะถ้ารัฐบาลทักษิณเกิดไปขวางการซื้อลิขสิทธิ์ของอาร์เอส ก็อาจถูกมองว่า ใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองก็ได้เช่นกัน

มันก็เลยเกิดการกั๊ก ! ถ้ารัฐบาลแทรกแซงเอกชนก็ถูกครหาว่าใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง หรือกีดกันคู่แข่งทางธุรกิจ แต่ถ้าไม่แทรกแซงก็มองว่า เป็นเพราะเป็นพวกนายทุนเหมือนกัน อาจไปฮั้วผลประโยชน์กันทีหลัง

ดังนั้นจึงทำให้อาร์เอสได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกไปอย่างสบาย เพราะทีวีพูลไม่มีเงินไปสู้การประมูลกับนายทุนใหญ่ หรืออาจเพราะทีวีพูลอาจคิดว่า ยังไง ๆ อาร์เอสก็ต้องมาถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีอยู่แล้ว แล้วค่อยมาตกลงกันทีหลัง

------------------

อาร์เอส หน้าเงิน !!

ตอนแกรมมีถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์ยูโรผ่านฟรีทีวีครบทุกนัด โดยไม่มีโฆษณาคั่น แต่ทีวีดาวเทียมทุกช่องไม่สามารถถ่ายทอดสัญญาณจากฟรีทีวีไปออกอากาศได้ รวมทั้งช่องดาวเทียมของอาร์เอสด้วย

อาร์เอส ก็เดือดออกมาโจมตีแกรมมีเสียใหญ่ ทำนองแกรมมีเห็นแก่ตัว

แต่พอมาถึงวันนี้ อาร์เอสกลับไม่ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกผ่านทางฟรีทีวีให้ครบทุกนัด แถมยังขายกล่องดูบอลโลกเพิ่มอีกกล่องด้วย

แบบนี้ผมมองว่า อาร์เอสกำลังเอากีฬาของคนทั้งโลก มาหากินอย่างเลือดเย็น เห็นแก่ตัวยิ่งกว่าแกรมมีเสียอีก

นี่แหละที่เขาเรียกว่า ระบบนายทุน !

แล้วพอมีแนวโน้มว่า ศาลปกครองอาจตัดสินให้อาร์เอสแพ้คดีต่อ กสทช.

อาร์เอส ก็รีบชิงออกมาให้ข่าวว่า ถ้าแพ้คดี ก็จะไม่ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเลยสักนัดเดียว

ถ้าเป็นเช่นนั้น คงมีประเทศไทยประเทศเดียวในโลก ที่คนไทยไม่มีสิทธิดูฟุตบอลโลก เพราะนายทุนเจ้าของลิขสิทธิเขาไม่ให้คนไทยดู !!

ส่วนในเอเซียมีเพียง 3 ประเทศเท่านั้น ที่ประชาชนต้องเสียเงินดูฟุตบอลโลก คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย (และอาจมีไทยอีกประเทศ)

ถ้าผมจะโทษ ผมก็โทษอาร์เอสนั่นแหละ ที่ดันเสือกไปแย่งซื้อลิขสิทธิ์นี้มาจากทีวีพูล เพื่อหวังจะเอาฟุตบอลโลกมาหากำไรกับคนไทย โดยอาศัยช่วงที่ยังไม่มีกฏมัสต์แฮฟบังคับ


กฎมัสต์แฮฟ แปลง่าย ๆ คือ สิทธิที่คนไทยจะเข้าถึงข้อมูลในเรื่องสำคัญ ๆ ของคนไทย อย่างเท่าเทียมกัน

เช่น 1. ซีเกมส์ 2. อาเซียนพาราเกมส์ 3. เอเชี่ยนเกมส์ 4. เอเชี่ยนพาราเกมส์ 5. โอลิมปิก 6. พาราลิมปิก และ 7. ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นต้น ที่คนไทยต้องมีสิทธิได้ดูอย่างเท่าเทียมกัน



หลักเกณฑ์มัสต์แฮฟกับสิทธิผู้บริโภค (10 มิ.ย. 57)





-----------------------

เมื่อ พลเอกประยุทธ จะสั่งให้ อาร์เอส ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครบทุกนัดผ่านช่อง 5 และช่อง 7

พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.อาจสั่งให้อาร์เอสต้องสั่งให้อาร์เอสถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้คนไทยดูฟรีครบทุกนัดผ่านช่อง 5 และช่อง 7 เพื่อคืนความสุขให้คนไทย

เพราะฟุตบอลโลกคือสิ่งบันเทิงเพื่อความสุขของคนไทยฟรี ๆ มาตลอด คนไทยไม่เคยต้องเสียเงินดูฟุตบอลโลก

แต่แล้วเพราะมีนายทุนหน้าเงิน ใช้ระบบนายทุนเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์นี้ไปจากคนไทยทั้งประเทศไทย จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ชอบธรรมเท่าไหร่นัก

เพราะอาร์เอสอาศัยช่องว่างที่ไม่มีกฎมัสต์แฮฟ

อาร์เอส และเฮียฮ้อ ควรวางเรื่องกำไรไว้ข้างหลังก่อน แล้วมานึกว่า จะทำอย่างไรให้ไม่ขาดทุนดีกว่านะ 

เช่นอาจหาประโยชน์จากการมีการโฆษณาเป็นป้ายเล็ก ๆ ขึ้นด้านล่างของจอในระหว่างฟุตบอลเตะ เหมือนที่บริษัทช้างเคยทำ

เพราะบริษัทช้าง หรือเบียร์ช้าง เคยให้คนไทยดูฟุตบอลโลกฟรี ๆ ครบทุกนัด แต่มีแทรกป้ายโฆษณาเล็ก ๆ ไม่ให้เกะกะสายตาคนดูขึ้นระหว่างฟุตบอลกำลังเตะบ้าง

เพราะถ้าอาร์เอส ยังจะดื้อขวางกระแสต่อไป อาร์เอสก็อาจต้องเจ็บตัวเองฟรี ๆ เพราะตอนนี้ประเทศไทยไม่มีรัฐธรรมนูญ คำสั่ง คสช. จะเป็นเด็ดขาด !!

เพราะระบบนายทุนในวันนี้ ต้องถูกนำมาปฏิรูปใหม่ !!


ฟังลูกชายตาจอห์น ด่า ถ้าคนไทยอดดูบอลโลก 555




ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 14.10 น. ศาลปกครองได้ตัดสินให้อาร์เอสชนะคดี เหตุเพราะกฎมัสต์แฮฟ ออกมาทีหลังการได้ลิขสิทธิ์ของ RS ซึ่งผมก็เคยเขียนไว้ในบทความเรื่อง "ทำใจหากคนไทยไม่ได้ดูฟุตบอลโลกครบทุกแมทต์"

แต่ข่าวเสนอต่ออีกว่า กสทช. กำลังคิดจะนำเงินจากกองทุน กทปส. มาขอซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกจากอาร์เอส ซึ่งผมแนะนำว่า อาร์เอสควรจะยอมขายลิขสิทธิ์ดีกว่า เพื่อร่วมคืนความสุขให้คนไทย

--------------

ล่าสุดตกลงว่า คสช. ให้ช่อง 5 ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกจนครบทุกนัด แต่ไม่ซ้ำซ้อนที่ช่อง 7 จะถ่ายอยู่แล้ว

คนซื้อกล่องบอลโลกซวยไป จะโทษก็ต้องโทษที่อาร์เอสมันเห็นแก่เงิน เสือกไปซื้อลิขสิทธิ์กีฬาที่ไม่ควรซื้อ ควรปล่อยให้ทีวีพูลซื้อไป

เพราะอาร์เอส เห็นแก่เงิน จึงมาแย่งลิขสิทธิ์กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติมาค้ากำไร
ประเทศอื่น ๆ ในโลก เขามีแต่ภาครัฐซื้อลิขสิทธิ์ทั้งนั้นแหละ สำหรับกีฬาของคนทั้งโลกแบบนี้

คุณเฮี่ยฮ้อ !!

------------

อ้าว คดีพลิกอีกรอบ !!

ไทยพีบีเอส รายงานเมื่อ 3 ทุ่มว่า ช่อง 5 ขอ งดประกาศที่ว่า จะถ่ายทอดสดครบทุกแมทต์ลงชั่วคราว เพราะจะขอรอดู กสทช. เจรจาซื้อจาก RS ในวันพรุ่งนี้ก่อน

เพราะคนซื้อกล่องบอลโลกไปแล้ว จะทำยังไง จะชดเชยให้เขายังไง มันเกิดการลักลั่น

ฉะนั้น ตอนนี้ยังต้องยึดคำสั่งศาลปกครองให้อาร์เอสไปก่อน






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น