ขณะที่ผมเขียนบทความนี้ ศาลปกครองจะตัดสินว่า อาร์เอสจะชนะคดีต่อ กสทช. กรณีถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกหรือไม่
เพราะ อาร์เอส ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2014 มาตั้งแต่ปี 2548 สมัยรัฐบาลทักษิณ ซึ่งยุคนั้นยังไม่มี กสทช. เพราะ กสทช. เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2553 นี่เอง
ถ้าความเห็นผม ผมต้องกล่าวโทษรัฐบาลทักษิณ ที่ปล่อยให้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกตกไปเป็นของเอกชน ทั้ง ๆ ที่ การแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นกีฬาสำคัญที่สุดที่คนไทยชื่นชอบ ซึ่งมันควรเป็นสิทธิของคนไทยทั้งประเทศที่ควรมีสิทธิดูกีฬาระดับโลกนี้อย่างเท่าเทียมกัน
ที่จริงตอนนั้นโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยหรือทีวีพูลก็จะซื้อลิขสิทธิ์เหมือนกัน และไม่คิดว่าจะมีนายทุนไทยจะมีทุ่มทุนประมูลลิขสิทธิ์นี้ไปจากคนไทย เพราะถ้าไม่มีนายทุนคนไหนในไทยมาซื้อลิขสิทธิ์นี้ ยังไง ๆ ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกก็จะต้องมาเป็นของทีวีพูลในราคาไม่แพงแน่นอน เพราะไม่มีคู่แข่ง
แต่เพราะอาร์เอสมองการณ์ไกลว่า ต่อไปทีวีไทยจะต้องมีดาวเทียมมากมายหลายช่องในอนาคต จึงได้ฉวยโอกาสชิงซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกที่บราซิลไว้ในมือ
รัฐบาลทักษิณในขณะนั้น ก็เป็นรัฐบาลแนวคิดนายทุน อาจเพราะทักษิณเป็นเจ้าของเคเบิลทีวี UBC แถมเป็นเจ้าของดาวเทียมไทยคมด้วย ซึ่งก็อาจมีผลประโยชน์แอบแฝงทางธุรกิจกับอาร์เอสในภายหลังก็ได้ ก็เลยไม่คิดจะขวางการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก
หรืออาจเพราะถ้ารัฐบาลทักษิณเกิดไปขวางการซื้อลิขสิทธิ์ของอาร์เอส ก็อาจถูกมองว่า ใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองก็ได้เช่นกัน
มันก็เลยเกิดการกั๊ก ! ถ้ารัฐบาลแทรกแซงเอกชนก็ถูกครหาว่าใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง หรือกีดกันคู่แข่งทางธุรกิจ แต่ถ้าไม่แทรกแซงก็มองว่า เป็นเพราะเป็นพวกนายทุนเหมือนกัน อาจไปฮั้วผลประโยชน์กันทีหลัง
ดังนั้นจึงทำให้อาร์เอสได้ลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกไปอย่างสบาย เพราะทีวีพูลไม่มีเงินไปสู้การประมูลกับนายทุนใหญ่ หรืออาจเพราะทีวีพูลอาจคิดว่า ยังไง ๆ อาร์เอสก็ต้องมาถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวีอยู่แล้ว แล้วค่อยมาตกลงกันทีหลัง
------------------
อาร์เอส หน้าเงิน !!
ตอนแกรมมีถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์ยูโรผ่านฟรีทีวีครบทุกนัด โดยไม่มีโฆษณาคั่น แต่ทีวีดาวเทียมทุกช่องไม่สามารถถ่ายทอดสัญญาณจากฟรีทีวีไปออกอากาศได้ รวมทั้งช่องดาวเทียมของอาร์เอสด้วย
อาร์เอส ก็เดือดออกมาโจมตีแกรมมีเสียใหญ่ ทำนองแกรมมีเห็นแก่ตัว
แต่พอมาถึงวันนี้ อาร์เอสกลับไม่ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกผ่านทางฟรีทีวีให้ครบทุกนัด แถมยังขายกล่องดูบอลโลกเพิ่มอีกกล่องด้วย
แบบนี้ผมมองว่า อาร์เอสกำลังเอากีฬาของคนทั้งโลก มาหากินอย่างเลือดเย็น เห็นแก่ตัวยิ่งกว่าแกรมมีเสียอีก
นี่แหละที่เขาเรียกว่า ระบบนายทุน !
แล้วพอมีแนวโน้มว่า ศาลปกครองอาจตัดสินให้อาร์เอสแพ้คดีต่อ กสทช.
อาร์เอส ก็รีบชิงออกมาให้ข่าวว่า ถ้าแพ้คดี ก็จะไม่ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกเลยสักนัดเดียว
ถ้าเป็นเช่นนั้น คงมีประเทศไทยประเทศเดียวในโลก ที่คนไทยไม่มีสิทธิดูฟุตบอลโลก เพราะนายทุนเจ้าของลิขสิทธิเขาไม่ให้คนไทยดู !!
ส่วนในเอเซียมีเพียง 3 ประเทศเท่านั้น ที่ประชาชนต้องเสียเงินดูฟุตบอลโลก คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย (และอาจมีไทยอีกประเทศ)
ถ้าผมจะโทษ ผมก็โทษอาร์เอสนั่นแหละ ที่ดันเสือกไปแย่งซื้อลิขสิทธิ์นี้มาจากทีวีพูล เพื่อหวังจะเอาฟุตบอลโลกมาหากำไรกับคนไทย โดยอาศัยช่วงที่ยังไม่มีกฏมัสต์แฮฟบังคับ
กฎมัสต์แฮฟ แปลง่าย ๆ คือ สิทธิที่คนไทยจะเข้าถึงข้อมูลในเรื่องสำคัญ ๆ ของคนไทย อย่างเท่าเทียมกัน
เช่น 1. ซีเกมส์ 2. อาเซียนพาราเกมส์ 3. เอเชี่ยนเกมส์ 4. เอเชี่ยนพาราเกมส์ 5. โอลิมปิก 6. พาราลิมปิก และ 7. ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นต้น ที่คนไทยต้องมีสิทธิได้ดูอย่างเท่าเทียมกัน
หลักเกณฑ์มัสต์แฮฟกับสิทธิผู้บริโภค (10 มิ.ย. 57)
-----------------------
เมื่อ พลเอกประยุทธ จะสั่งให้ อาร์เอส ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครบทุกนัดผ่านช่อง 5 และช่อง 7
พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.อาจสั่งให้อาร์เอสต้องสั่งให้อาร์เอสถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้คนไทยดูฟรีครบทุกนัดผ่านช่อง 5 และช่อง 7 เพื่อคืนความสุขให้คนไทย
เพราะฟุตบอลโลกคือสิ่งบันเทิงเพื่อความสุขของคนไทยฟรี ๆ มาตลอด คนไทยไม่เคยต้องเสียเงินดูฟุตบอลโลก
แต่แล้วเพราะมีนายทุนหน้าเงิน ใช้ระบบนายทุนเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์นี้ไปจากคนไทยทั้งประเทศไทย จึงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ชอบธรรมเท่าไหร่นัก
เพราะอาร์เอสอาศัยช่องว่างที่ไม่มีกฎมัสต์แฮฟ
อาร์เอส และเฮียฮ้อ ควรวางเรื่องกำไรไว้ข้างหลังก่อน แล้วมานึกว่า จะทำอย่างไรให้ไม่ขาดทุนดีกว่านะ
เช่นอาจหาประโยชน์จากการมีการโฆษณาเป็นป้ายเล็ก ๆ ขึ้นด้านล่างของจอในระหว่างฟุตบอลเตะ เหมือนที่บริษัทช้างเคยทำ
เพราะบริษัทช้าง หรือเบียร์ช้าง เคยให้คนไทยดูฟุตบอลโลกฟรี ๆ ครบทุกนัด แต่มีแทรกป้ายโฆษณาเล็ก ๆ ไม่ให้เกะกะสายตาคนดูขึ้นระหว่างฟุตบอลกำลังเตะบ้าง
เพราะถ้าอาร์เอส ยังจะดื้อขวางกระแสต่อไป อาร์เอสก็อาจต้องเจ็บตัวเองฟรี ๆ เพราะตอนนี้ประเทศไทยไม่มีรัฐธรรมนูญ คำสั่ง คสช. จะเป็นเด็ดขาด !!
เพราะระบบนายทุนในวันนี้ ต้องถูกนำมาปฏิรูปใหม่ !!
ฟังลูกชายตาจอห์น ด่า ถ้าคนไทยอดดูบอลโลก 555
ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 14.10 น. ศาลปกครองได้ตัดสินให้อาร์เอสชนะคดี เหตุเพราะกฎมัสต์แฮฟ ออกมาทีหลังการได้ลิขสิทธิ์ของ RS ซึ่งผมก็เคยเขียนไว้ในบทความเรื่อง "ทำใจหากคนไทยไม่ได้ดูฟุตบอลโลกครบทุกแมทต์"
แต่ข่าวเสนอต่ออีกว่า กสทช. กำลังคิดจะนำเงินจากกองทุน กทปส. มาขอซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกจากอาร์เอส ซึ่งผมแนะนำว่า อาร์เอสควรจะยอมขายลิขสิทธิ์ดีกว่า เพื่อร่วมคืนความสุขให้คนไทย
--------------
ล่าสุดตกลงว่า คสช. ให้ช่อง 5 ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกจนครบทุกนัด แต่ไม่ซ้ำซ้อนที่ช่อง 7 จะถ่ายอยู่แล้ว
คนซื้อกล่องบอลโลกซวยไป จะโทษก็ต้องโทษที่อาร์เอสมันเห็นแก่เงิน เสือกไปซื้อลิขสิทธิ์กีฬาที่ไม่ควรซื้อ ควรปล่อยให้ทีวีพูลซื้อไป
เพราะอาร์เอส เห็นแก่เงิน จึงมาแย่งลิขสิทธิ์กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติมาค้ากำไร
ประเทศอื่น ๆ ในโลก เขามีแต่ภาครัฐซื้อลิขสิทธิ์ทั้งนั้นแหละ สำหรับกีฬาของคนทั้งโลกแบบนี้
คุณเฮี่ยฮ้อ !!
------------
อ้าว คดีพลิกอีกรอบ !!
ไทยพีบีเอส รายงานเมื่อ 3 ทุ่มว่า ช่อง 5 ขอ งดประกาศที่ว่า จะถ่ายทอดสดครบทุกแมทต์ลงชั่วคราว เพราะจะขอรอดู กสทช. เจรจาซื้อจาก RS ในวันพรุ่งนี้ก่อน
เพราะคนซื้อกล่องบอลโลกไปแล้ว จะทำยังไง จะชดเชยให้เขายังไง มันเกิดการลักลั่น
ฉะนั้น ตอนนี้ยังต้องยึดคำสั่งศาลปกครองให้อาร์เอสไปก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น