วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

อย่าหลงกล เมื่อยิ่งลักษณ์แจกประชานิยมให้คนเสียภาษี







วันนี้รัฐบาลชั่วได้ประกาศลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดาลง แต่ที่จริงก็คือ ผลประโยชน์ทับซ้อน

ใครที่ได้รับการลดภาษี ผมก็ยินดีด้วย แต่อย่าไปให้เครดิตความดีความชอบไอ้รัฐบาลชั่วนี่นะครับ

เพราะผมว่า นี่คือการซื้อเสียงทางอ้อมของพวกมัน แต่เป็นการใช้ภาษีชาติผลประโยชน์ของชาติมาซื้อ (เพราะเร็ว ๆ นี้อาจมียุบสภา)

แต่ที่แน่ ๆ ไอ้พวกตระกลูชิน พวกมันจะได้ลดภาษีลงไปด้วย ปีละหลายสิบล้านบาทหรือ หลายร้อยล้านบาททีเดียว

สมมุติว่า โอ๊ค พานทองแท้ มีรายได้เดือนละ 10 ล้าน เคยจ่ายภาษีปีละ 44.4 ล้านบาท (37%)

แต่เมื่อลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดาลงแล้ว โอ๊ค จะจ่ายภาษี 42 ล้านบาท/ปีเท่านั้น (35%) เท่ากับลดลงไปปีละ 2.4 ล้านบาท นี่แค่ตัวอย่างสมมุติของนายโอ๊คคนเดียวนะ

ซึ่งในความเป็นจริง โอ๊คมีรายได้ในแต่ละปีมากกว่าที่ผมยกตัวอย่างมาก เฉพาะแค่ดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารไม่รวมเงินปันผลหุ้นจากหุ้นในบริษัท

ดอกเบี้ยแต่ละปี ที่โอ๊คและน้องสาวอีก 2 คนได้ แต่ละคนก็ได้ปีละหลายร้อยล้านบาทแล้วครับ

ในขณะที่ประเทศชาติกำลังมีหนี้เพิ่มขึ้น ทั้งหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ส่งออกวูบ ขาดทุนจำนำข้าวปีละ 2 แสนล้าน รายได้ประเทศกำลังลดลง แต่รายจ่ายประเทศกำลังเพิ่มขึ้น

แต่วันนี้ไอ้รัฐบาลชั่วดันมาลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดา และเคยลดภาษีรายได้นิติบุคคล ซึ่งลดไปเมื่อปีที่แล้ว

อย่างเช่น ลดภาษีนิติบุคคล ลดจาก 30% เหลือ 20%

เช่น ถ้าบริษัทในเครือตระกูลชินวัตร มีกำไรปีละ 5 พันล้านบาท เคยจ่ายภาษีประมาณ 1,500 ล้านบาท/ปี ก็จะลดเหลือจ่ายแค่ 1,000 ล้านบาท/ปีเท่านั้น เท่ากับประหยัดไปปีละตั้ง 500 ล้านบาท !!

ซึ่งทั้งสองนโยบายลดภาษีนี้ พวกนายทุนคือผู้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะตระกูลชินวัตรจะได้ประโยชน์มากที่สุด

คิดว่าอีกไม่นาน รัฐบาลอาจจะต้องมาเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มแทนแน่ ๆ ในไม่ช้านี้ เพราะเดี๋ยวไม่มีเงินไปโปะหนี้เก่า ใช้หนี้ใหม่

ถ้ารัฐบาลงัดนโยบายเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจริง ๆ มาใช้ ก็แปลความว่า "คนรวยได้ประโยชน์จากการลดภาษีรายได้ แต่ถ้ารัฐบาลหันไปขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งคนจน คนรวยซื้อของชนิดเดียวกันก็ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มเท่ากัน"


------------------------

การลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดาลง นับว่าเป็นการแก้เกมการเมืองที่ดีของรัฐบาล เพราะเทพเทือกได้ประกาศให้ประชาชนชะลอการจ่ายภาษี

รัฐบาลมันเลยรีบลดภาษีลงซะเลย

ผมถึงว่า เกมการเมืองมันต้องพวกสันดานขี้โกงน่ะ จะเก่งกว่า

ปชป. ตามเกมเพื่อไทย ไม่ทันเพราะเหตุนี้แหละครับ

การใช้สันดานพ่อค้า ใช้สันดานนักการตลาดในเกมการเมือง ทักษิณมันเก่งกว่าจริงๆ

เพราะคนไทยส่วนใหญ่เป็นพวกคิดตื้น ๆ ไม่เข้าใจว่า การที่รัฐบาลดำเนินนโยบายผิด ๆ จะมีผลกระทบกลับมาถึงตัวเองอย่างไร

ก็เพราะผลกระทบบางครั้งไม่ได้มาทางตรง แต่มันมาทางอ้อม แบบที่คนที่ไม่รู้จักคิดจะไม่รู้ตัวว่าโดนผลกระทบแล้ว เดือดร้อนไปแล้วโดยไม่รู้ตัว่า เป็นเพราะนโยบายผิด ๆ ของรัฐบาล

----------------------

กลยุทธรักษาฐานเสียง

เพราะช่วงนี้รัฐบาลเพื่อไทยกำลังเพลี่ยงพล้ำต่อฝ่ายตรงข้ามในหลายเรื่อง

ดังนั้นการที่รัฐบาลลดภาษีทั้งนิติบุคคล และภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ถือเป็นประชานิยมที่ใช้เงินภาษีรัฐมาแจกโดยอ้อมให้กับคนชั้นกลาง เพื่อหวังรักษาฐานเสียงที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายนี้เอาไว้ไม่ให้เปลี่ยนใจไปเลือกพรรคอื่นง่าย ๆ

แถมพรรคพวกของรัฐบาลก็ได้ผลประโยชน์อย่างมากในนโบายนี้อีกด้วย

นี่ถ้าใกล้จะมีการเลือกตั้งจริง ๆ บางทีอาจงัดนโยบายขึ้นเงินเดือนข้าราชการและรัฐวิสาหกิจมาใช้อีกก็เป็นได้ (ซื้อเสียงข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ)

ขอย้ำอีกครั้งว่า หากคุณได้ประโยชน์จากการลดภาษี ก็ขออย่าให้คุณดีใจและไปชื่นชมรัฐบาลนี้

เพราะการที่เราได้ประโยชน์เพิ่ม แต่ประเทศชาติกลับสูญเสียประโยชน์ ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรอก

เพราะไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ ฟรี ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียอะไรไปเลย

ยิ่งถ้าใครเข้าใจประโยคที่ว่า "เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว" ก็ย่อมเข้าใจเรื่องที่ผมอธิบายได้เป็นอย่างดีแน่นอน


-----------

อัพเดทข่าวล่าสุด

กิตติรัตน์ ณ.ระนอง รมว.คลัง ได้สัญญาว่าจะไม่ขึ้นภาษีvat แน่นอนผ่านทางเฟสบุ้ค

ซึ่งผมก็เลยเข้าไปตอบว่า "ท่านรมว. คุณสัญญาว่าจะไม่เพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มแน่นอน
ผมจะบอกอะไรให้นะ ถ้าผมเป็นทักษิณแล้วคิดจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจริง ๆ ผมก็แค่ปรับคุณออกจากครม. แล้วผมก็หา รมว. คนใหม่ มาอธิบายถึงเหตุจำเป็นที่ต้องขึ้น Vat ไง เพราะการเมืองมันเรื่องหมู ๆ ของสันดานนายทุน !! 555"





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น