วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข้อคิด รับใช้เบื้องพระยุคลบาท อย่าหวังร่ำรวย







ข่าวจับหมอหยอง หมอดูคนดัง ผู้อยู่เบื้องหลังงานกิจกรรม ปั่นเพื่อแม่ ที่ผ่านมา รวมถึงเขาอาจมีส่วนไม่มากก็น้อยในการจัดสร้าง อุทยานราชภักดิ์ ของกองทัพบกด้วย ในความผิดตาม ปอ.มาตรา 112 เป็นข่าวที่ถูกปล่อยออกมาร่วมอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว เพียงแต่เพิ่งจะเป็นข่าวออกสู่สาธารณชนแค่ไม่กี่วันเท่านั้น



บทความนี้ผมไม่จะพูดถึงรายละเอียดของคดีอะไร แต่อยากจะบอกเราชาวไทยทุกคนว่า

ใครก็ตามที่ได้มีโอกาสได้รับใช้สนองงานต่อพระบรมวงศานุวงศ์ ให้ถือว่า เป็นเรื่องโชคดีมากที่ได้ร่วมงานกับแต่ละพระองค์

ไอ้ประเภทจะมาคิดว่า ได้โอกาสรับใช้ใกล้ชิดเจ้านายแล้วฉันจะรวย ฉันจะดัง ก็ขอให้คิดไปเลยว่า คุณไม่มีทางรวยจากการรับใช้ใกล้ชิดเจ้านายอย่างแน่นอน

เพราะถ้าใครคิดแบบนั้น โอกาสจะเป็นแบบที่หมอดูคนดังกำลังโดนก็จะมีสูง

แต่หากใครจะพอมีรายได้บ้าง นอกเหนือจากเงินเดือนที่ท่านเป็นเจ้าหน้าที่ในตำแหน่งในสำนักพระราชวัง หรือตำแหน่งในมูลนิธิต่าง ๆ ที่แต่ละพระองค์ทรงเป็นประธานอยู่

ท่านก็ต้องรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างจริงจังจนเป็นผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญในงานสาขานั้น ๆ จนมีหน่วยงานต่าง ๆ หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ เชิญท่านให้ไปให้พูดให้ความรู้ในสาขาที่ท่านเชี่ยวชาญจากการสนองงานเบื้องพระยุคลบาทมานาน  ก็อาจจะได้ค่าพูด ค่าไปเลคเชอร์เล็กน้อยประมาณพันบาทหรือพันกว่าบาทต่อ ชม. เท่านั้น

หรือบางท่านก็ไม่รับเงิน ทางสถาบันศึกษา ก็ให้เป็นค่าเดินทางแทน ซึ่งเป็นเงินน้อยมากน่าจะไม่เกิน 500 - 1 พันบาทต่อครั้งเท่านั้น

นี่แหละที่พอจะได้เงินเล็กน้อยจากการช่วยงานเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งหลาย ๆ ท่านพอได้เงินค่าพูดมาแล้ว ก็คืนกลับไปเป็นทุนการศึกษาแก่สถาบันที่มาเชิญท่านไปก็มากมาย


----------------

แต่ที่เป็นปัญหาจนเป็นคดีใหญ่มาแล้ว 1 คดี เช่นคดีพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์

ส่วนกรณีคดีหมอดูคนดังที่กำลังเป็นข่าว ผมเองไม่รู้รายละเอียดอะไร

แต่จากที่เป็นข่าวออกมา ก็พอจะเดาได้ว่า พวกนี้ใช้ความที่ได้ใกล้ชิดเจ้านาย โดยอาจจะนำรูปที่เคยถ่ายกับพระองค์ท่าน หลาย ๆ รูป อาจมีบางรูปที่ดูพระองค์ท่านให้ความเมตตาให้ความสนิทสนมด้วยมาก ๆ

แล้วคนพวกนี้ก็จะนำรูปพวกนั้น นำไปอวดอ้าง หาผลประโยชน์ต่าง ๆ อย่างเช่น

สมมุติ เช่น ถ้าในขบวนการของหมอดูคนดัง เกิดอยากจะได้ที่ดินสวย ๆ ราคาถูก ๆ ทำเลดี ๆ ก็อาจจะนำเรื่องความใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทไปแอบอ้างต่อเจ้าของที่ดิน เพื่อหวังจะซื้อที่ดินในราคาถูกกว่าราคาปกติมาก ๆ 

หรืออาจคล้ายกรณี คดีเสี่ยอู๊ด ที่แอบอ้างเอาตราสัญลักษณ์ประจำรัชกาล ไปใช้ในการทำเหรียญพระต่าง ๆ หลอกขายจนร่ำรวย

แต่กรณีหมอดูคนดัง เพราะเคยได้ทำงานรับใช้ใกล้ชิดสนองเบื้องพระยุคลบาทในหลายเรื่อง ยิ่งมีประชาชนได้เคยเห็นออกทีวีว่า หมอดูคนนี้ทำงานใกล้ชิดเจ้านายพอควร

แบบนี้ก็ยิ่งนำไปแอบอ้างเพื่อหลอกหลวงหาผลประโยชน์ได้ง่ายมาก

ผมอธิบายแค่นี้ คณผู้อ่านคงพอนึกปะติดปะต่อเรื่องต่อเองได้นะครับ ว่ารูปแบบการนำไปเบื้องสูงไปแอบอ้างน่ะ ถ้าคิดจะทำชั่ว มันทำได้มากมายหลายรูปแบบ

(จากรายงานข่าวได้รายงานว่า ขบวนการหมอหยองนี้เพิ่งจะเริ่มกระทำความผิดในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี่เอง )



ดังนั้นการทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท จึงมาหวังร่ำรวยไม่ได้ เพราะแต่ละพระองค์ไม่ทรงมีเงินเดือนสูง ๆ หรือค่าตอบแทนสูง ๆ มาตอบแทนให้

ดังนั้นพวกโลภมาก จึงมักอาศัยเหตุความใกล้ชิดไปแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิดแทน

ส่วนพวกล้มเจ้า ช่วงนี้พวกมันก็ได้โอกาสมโนสร้างเรื่องร้ายไปต่าง ๆ นานา ก็ขอให้เราคนไทยอย่าไปใส่ใจเรื่องมโนของไอ้พวกนี้


-----------------

เวลาที่พระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จเยือนต่างประเทศ

เราคงเคยเห็นในข่าวพระราชสำนักบ่อย ๆ เวลา พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จไปต่างประเทศ ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานราชการต่าง ๆ จะยืนมารอเฝ้าส่งเสด็จบ้าง รับเสด็จบ้าง

เจ้าหน้าที่ทุกคนนี้ เขาต้องเสียสละเวลามาเพื่อยืนรอรับเสด็จ หรือส่งเสด็จนะครับ บางทีพวกเขาต้องเสียเวลามารอหลายชั่วโมงกว่าจะเจ้านายจะเสด็จฯ เสร็จ

เจ้าหน้าที่เหล่านี้ บางครั้งโดนคำสั่งเรียกตัวกระทันหัน ให้มาทำหน้าที่เฝ้ารอรับเสด็จฯ นี้ ซึ่งบางครั้งพวกเขาก็จะได้เงินค่ากิจพิเศษนี้แค่ร้อยกว่าบาทเท่านั้นนะครับ

ถือว่า ทุกคนทำตามหน้าที่ เพราะถ้าคิดจริง ๆ ก็ไม่คุ้มหรอกครับ ที่ใครจะมาเสียเวลา 3-4 ชม. หรือบางทีมากกว่านั้น แถมบางท่ีก็เป็นเวลาดึกมาก ๆ  กับเงินพิเศษที่คิดตามระเบียบราชการเท่านั้น

เจ้าหน้าที่หลายคนที่มาทำหน้าที่เฝ้ารอรับเสด็จฯ หลายคนเป็นแพทย์ เป็นพยาบาล ซึ่งแต่ละคน เอาเวลาไปทำโอทีได้มากกว่ารับเสด็จฯ เยอะแยะ

แต่ที่ทุกคนต้องมาทำ ก็เพราะ หลักการหมุนเวียนกันเพื่อมาทำหน้าที่

หากเราดูข่าวพระสำนัก พระบรมวงศานุวงศ์ก็จะทรงยิ้มให้แก้เจ้าหน้าที่ที่มาเฝ้ารอรับเสด็จ เพราะแต่ละพระองค์ทรงรู้ว่า เจ้าหน้าที่แต่ละคนเขาต้องเสียสละเวลา เสียสละในหน้าที่อื่นเพื่อมาเฝ้ารอรับเสด็จ

จึงทำให้แต่ละพระองค์จึงทรงยิ้มเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน

(ยิ้ม = แย้มพระสรวล)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น