วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559

สุดยอดโฆษณาต้นปี 2559 สถาบัน Holy Vision คู่แข่งลัทธิธรรมกาย






โฆษณาสุดฮาแนวสร้างสรรค์ ประชดความงมงายในสังคมไทยได้อย่างสุดยอด จากโครงการเปลี่ยนแล้วรวย ของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ TCDC (Thailand Creative & Design Center)

ลองดูโฆษณานี้กันก่อนครับ ตอนนี้กำลังเป็นที่ฮือฮาอย่างมากในความฮา

โฆษณาเปลี่ยนแล้วรวย เวอร์ชัน คนทรงเจ้าเงินล้าน




TCDC คืออะไร ?

TCDC ก็คือ ศูนย์สร้างสรรค์และออกแบบ คือ แหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต

TCDC ไม่ใช่โรงเรียนหรือสถาบันวิจัย แต่มุ่งเน้นการเป็น “มหรสพทางปัญญา” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทยผ่านกระบวนการให้ความรู้แบบสากล ตั้งแต่การจัดนิทรรศการ การบรรยาย สัมมนาเชิงปฏิบัติการ ไปจนถึงการเป็นแหล่งค้นคว้าที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิงเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ที่หลากหลายมิติ อันจะเป็นพื้นฐานสำคัญของกระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยเป็นหนึ่งในหน่วยงานภายใต้สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี


http://www.tcdc.or.th/about/

--------------------

ที่จริงโฆษณาชุด เปลี่ยนแล้วรวย มีออกมาแล้วหลายเวอร์ชัน แต่ผมก็ยังไม่ค่อยรู้สึกชอบเท่าไหร่

แต่สำหรับโฆษณาเวอร์ชัน คนทรงเจ้าเงินล้าน เนี่ย ต้องบอกว่า พระเจ้ายอด มันจ๊อดมากครับ

เพราะโฆษณาได้ประชดความเชื่อความงมงายในเรื่องไสยศาสตร์ ทรงเจ้าเข้าผี หมอดูแม่น ๆ และความงมงายเกี่ยวกับการติดต่อกับวิญญาณญาติที่ล่วงลับไปแล้วของคนไทยได้อย่างฮา แถมเสียดสีไม่แรงเกินไป แต่กลับได้ข้อคิดเชิงสร้างสรรค์อย่างดีมาก

ผมยังไม่รู้ว่า ทีมโฆษณาจากบริษัทไหนทำโฆษณาตัวนี้ออกมา แต่ขอบอกว่า ผลงานชิ้นนี้ยอดเยี่ยมมากจริง ๆ

---------------------

แนวคิดโฆษณานี้ 

คงนำเสนอตัวอย่างเรื่องการเปลี่ยนแนวคิด โดยนำเรื่องงมงายในสังคมไทย มาเปลี่ยนวิธีคิดใหม่อย่างสร้างสรรค์ ยังสามารถสร้างความน่าสนใจได้มากขนาดนี้

ขนาดเปลี่ยนเรื่องไร้สาระให้น่าสนใจดูทันสมัยดูน่าเชือถือได้มากขนาดนี้ แล้วเรื่องอื่น ๆ ที่มีสาระ ถ้าเปลี่ยนแนวคิดใหม่จะยิ่งน่าสนใจน่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น 


----------------------

และถ้าสมมุติว่า มีสถาบัน Holy Vision สถาบันร่างทรงและจิตวิญาณ หรือ Spiritual Consultant Institute ขึ้นมาจริง ๆ นะ คงจะเป็นคู่แข่งการตลาดกับลัทธิธรรมกายขายบุญของสมีไชยบูลย์ ธัมมชโยนะจ๊ะ ได้เลย

เพราะถ้าดูจากโฆษณา ผมว่า มันแฟร์มากนะ ที่ลูกค้าจะจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการต่าง ๆ ของสถาบัน Holy Vision เรียกว่า ซื้อขายแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แบบยุติธรรมดี

ในขณะที่ลัทธิธรรมกายขายบุญ หลอกให้คนบริจาคเยอะ ๆ แล้วก็หลอกให้สาวกฝันถึงวิมานบนสวรรค์ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีจริง ๆ หรือไม่ แต่ไซโคให้สาวกหลงเชื่อว่า มันมีจริง ๆ

แต่ถ้าเราวิเคราะห์โฆษณานี้ให้ดี ๆ อีกชั้น ก็จะดูออกว่า ความจริงลัทธิธรรมกายเองก็ใช้แนวคิดการตลาดแบบในโฆษณาคนทรงเจ้าเงินล้านนี่แหละ

คือการฉีกออกจากกรอบการทำบุญให้วัดแบบเดิม ๆ แต่กลายเป็น การทำบุญแบบยิ่งใหญ่อลังการ สวยหรู สัมผัสจับต้องได้ เพราะถ่ายรูปสวยงาม ลงสื่อของลัทธิทุกสื่อ มอมเมาให้สาวกติดความเลิศหรูอลังการ

เช่น ที่วัดอื่นบวชพระทีก็ไม่กี่รูป แต่ธรรมกายต้องบวชทีละแสนรูป อ้างบวชเยอะ ๆ ต้องได้บุญเยอะกว่านะจ๊ะ

เช่น ทำบุญกับธรรมกาย สามารถกู้เงินจากธรรมกายมาทำบุญให้ธรรมกายก็ได้นะจ๊ะ

เช่น สามารถทำบุญกับธรรมกายผ่านตู้เอทีเอ็ม ก็ได้นะจ๊ะ

เช่น ไหว้พระพุทธรูปครั้งและองค์เดียวได้บุญน้อย แต่ถ้าไหว้พระพุทธรูปรอบเจดีย์ทรงจานบินที่มีพระพุทธรูปนับล้านองค์ ก้มไหว้ครั้งเดียวแต่กลับได้บุญล้านเท่า


คลิปสมีสอนไหว้พระล้านองค์ บุญมหาศาลนะจ๊ะ 



"งานบุญเล็ก ๆ กำไรน้อยธรรมกายไม่ 
แต่ถ้างานบุญใหญ่ ๆ ได้เงินเยอะ ๆ ธรรมกายจัดให้ปีละหลายหนนะจ๊ะโยม"


คู่แข่งลูกเทพ ชื่อว่า ลูกสมีนะจ๊ะ !!

http://imgur.com/E10ha8m

-----------------

สุดท้ายนี้รู้สึกว่า โฆษณาเวอร์ชัน คนทรงเจ้าเงินล้าน ยังมีภาค 2 ตอนแบรนด์ดิ้ง อีกตอน

ผมก็คงต้องรอดูด้วยใจจดจ่อครับ และคงนำมาแปะในบทความนี้และวิจารณ์อีกรอบ

คลิกอ่าน จรวดของธัมมชโยเจ๋งกว่าจรวดของนาซ่า




วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

หักล้าง ดร.เมธาพันธ์ แกนนำแดงสายวัด กรณีตั้งสมเด็จช่วงเป็นสังฆราช







ตอนนี้มีข่าวปล่อยจากฝ่ายเสื้อแดงออกมาว่า คณะกรรมการมหาเถรสมาคมได้ลงมติให้สมเด็จช่วง พระมหารัชมังคลาจารย์เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2558 ที่ผ่านมาแล้ว และได้ส่งมติ มส.ให้นายกรัฐมนตรีแล้วด้วย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ต่อไป

ข่าวนี้จริงเท็จแค่ไหน ผมไม่รู้และไม่ยืนยัน แต่ก่อนการประชุมเมื่อ 11 ม.ค. 2558 ได้มีข่าวจากมหาเถรฯ บอกมาว่า จะไม่มีวาระเรื่องแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชมาพิจารณา

ถ้ามหาเถร ฯ เล่นมุกหมกเม็ดแอบพิจารณาวาระนี้ ก็เท่ากับคณะกรรมการมหาเถรฯ ก็ไม่ต่างอะไรกับศรีธนญชัย

ต่อมามีคลิปที่ นายจอม เพชรประดับ พิธีกรเสื้อแดงสายล้มเจ้า (เพราะนายจอมชอบสัมภาษณ์พวกล้มเจ้าบ่อย ๆ เช่น สัมภาษณ์นายใจ อึ้งภากรณ์ เป็นต้น)

คราวนี้นายจอม ได้สัมภาษณ์นักวิชาการเสื้อแดงสายพุทธศาสนา ซึ่งเป็นแกนนำ นปช. สายวัด มีชื่อว่า ดร.เมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (คือสมาคมที่พวกเสื้อแดงตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจสำหรับงานด้านพุทธศาสนา)



ซึ่ง นายเมธาพันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์ตามคลิป https://youtu.be/ZAZbOd68Rno ไว้ว่า

1. ประเด็นสมเด็จช่วงเป็นพระอุปัชฌาย์ของธัมมชโย หากธัมมชโยต้องปาราชิกจริง ก็ไม่เกี่ยวกับสมเด็จช่วง

เพราะการปาราชิกเป็นเรื่องเฉพาะตน เปรียบเหมือนสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ของพระเทวทัต ต่อมาพระเทวทัตต้องปาราชิก พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ต้องปาราชิกตามไปด้วย เพราะมันเรื่องเฉพาะตน

ดังนั้นกรณีถ้าธัมมชโย ปาราชิก สมเด็จช่วง จึงไม่เกี่ยวข้อง


akecity ขอหักล้างว่า ประเด็นสมเด็จช่วงไม่สมควรเป็นสมเด็จพระสังฆราชนั้น ไม่เกี่ยวกับการเป็นพระอุปัชฌาย์ของธัมมชโย

แต่มันเกี่ยวกับที่ สมเด็จช่วงยังสนับสนุนให้ธัมมชโยยังเป็นพระต่อไป โดยไม่เอาผิด แถมสมเด็จช่วงยังเคยมอบพัดยศเลื่อนสมณศักดิ์ให้ธัมมชโยหลังจากที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชได้มีพระลิขิตให้ธัมมชโยได้ปาราชิกไปแล้ว

รายละเอียดลำดับเวลาและเหตุการณ์ คลิกอ่านที่นี่

และการประชุมมหาเถรสมาคมเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2558 ที่มีสมเด็จช่วงเป็นประธานการประชุม ก็ยังมีมติให้ธัมมชโยเป็นพระต่อไป โดยไม่เอาผิดฐานปาราชิก เพราะคณะกรรมการ มส. อ้างว่า ถ้าให้ธัมมชโยต้องปาราชิก ก็จะทำให้คณะกรรมการ มส. ก็จะต้องปาราชิก ตามไปด้วย

คลิกอ่าน ข่าวมติ มส. ให้ธัมมชโยเป็นพระได้ต่อไป เพราะ มส. กลัวปาราชิกเอง


2. นายเมธาพันธ์ บอกว่า กรณีสร้างหลวงพ่อสดวัดปากน้ำองค์ทองคำ ก็ไม่เกี่ยวกับสมเด็จช่วง เลย และในอดีตตั้งแต่โบราณก็มีการสร้างพระพุทธรูปทองคำ เช่น หลวงพ่อวัดไตรมิตร หรือเจดีย์เชวดากอง ก็ทำด้วยทองคำ ถือเป็นประเพณีปกติของพุทธศาสนิกชน

akecity ขอหักล้างว่า ใช่ประเด็นหลวงพ่อสดทองคำไม่เกี่ยวกับสมเด็จช่วง คุณเมธาพันธ์ กรุณาอย่าเบี่ยงประเด็น

เพราะประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ สมเด็จช่วงไม่สมควรเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 และไม่สมควรเป็นภิกษุต่อไปแล้วด้วยซ้ำ

เพราะประเด็นสำคัญหนึ่งเดียวก็คือ นายช่วงยังสนับสนุนธัมมชโยให้เป็นพระได้ต่อไป ซึ่งเท่ากับสมรู้ร่วมคิด เท่ากับร่วมปาราชิกไปด้วยกันแล้ว

ถ้าให้นายช่วงเป็นสมเด็จพระสังฆราช ก็เท่ากับ แต่งตั้งสมี เป็นสมเด็จพระสังฆราช


กฎหมายสงฆ์ สมัยรัชกาลที่ 1 เนื้อหาคร่าว ๆ เช่น

1. ภิกษุสามเณรใดเป็นปาราชิก ให้สึกเสียแล้วให้สักหน้าหมายไว้อย่าให้ปลอมบวชชีต่อไป

2. ผู้เป็นปาราชิกแล้วปกปิดไว้ร่วมทำสังฆกรรมกับสงฆ์ ถ้าพิจารณาได้เป็นสัตย์ เป็นโทษถึงสิ้นชีวิต แล้วให้ริบราชบาทขับเฆี่ยนตีโบยญาติโยมจงหนัก

3. พระสงฆ์ใดเป็นปาราชิกแล้วปริวัติออกเสีย ทรงพระกรุณาหาเอาโทษไม่ ถ้าพระสงฆ์ปาราชิกแล้วปกปิดไว้ร่วมทำสังฆกรรมกับสงฆ์ พิจารณารับเป็นสัตย์ จะเอาตัวเป็นโทษถึง 7 ชั่วโคตร แล้วให้ลงพระราชอาญาญาติโยมพระราชาคณะฐานานุกรม เจ้าอธิการ พระสงฆ์อันดับ ซึ่งกระทำความผิดและละเมิดเสียมิได้ระวังตรวจตรากัน


ตัวอย่างเนื้อหากฎหมายสงฆ์ รัชกาลที่ 1 บางส่วน คลิกที่รูปเพื่อขยาย


หมายเหตุ คำว่า อ้ายสิน มาจากคดี มหาสินซึ่งเป็นพระครูอยู่วัดนาคกลาง ปลอมเข้าไปหาอีอึ่งข้าหลวงในกรมสมเด็จพระเจ้าหลานเธอเจ้าฟ้าอภัยธิเบศร จับตัวได้รับเป็นสัตยว่า มหาสินได้เสพเมถุนธรรมด้วยอีอึ่งถึงชำเรา แต่เดือนเจ็ด ปีขาน นักษัตรฉศก มาหลายครั้งจนอีอึ่งมีท้องมีลูก มหาสินจึงขาดจากสิกขาบท เป็นปาราชิกลามกในพระศาสนา เลยเรียกว่า อ้ายสิน

กฎหมายรัชกาลที่ 1 ผู้ใดปาราชิกและยังปกปิดไว้จนถูกจับได้ จะมีโทษถึง 7 ชั่วโคตร ซึ่งโทษนั้นยังเอาผิดถึงญาติโยม และพระที่ร่วมกันปกปิดด้วย


3. ประเด็นกฎเลือกสมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช

akecity ขอตอบว่า ถูกต้อง ตามกฎก็จะต้องเลือกพระที่มีอาวุโสสูงสุดในมหาเถรฯ แต่เฉพาะกรณีที่พระรูปนั้นไม่มีความมัวหมองใด ๆ ให้เสื่อมเสีย

แต่ถ้ากรณีพระผู้มีอาวุโสสูงสุดอาจมีเหตุความมัวหมอง หรืออาจเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกในหมู่พระและประชาชนได้ ก็ควรเลือกพระที่มีอาวุโสรองลงมา ที่ไม่มีความมัวหมอง ไม่มีเหตุสร้างความขัดแย้งแตกแยกขึ้นมาเป็นสมเด็จพระสังฆราชก็ได้

และที่สำคัญตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช อาจว่างเว้นโดยไม่มีการแต่งตั้งก็ได้ หากเห็นว่า ยังไม่มีผู้ใดเหมาะสม

ในกรณีตาช่วงวัดปากน้ำ ผู้รู้ว่ายังมีกรณีนำรถยนต์ใส่เป็นชื่อของตัวเอง และยังหนีภาษีรถยนต์อีกด้วย ซึ่งก็เข้าข่ายความผิดฐานปาราชิกเช่นกัน แต่คดีรถยนต์นี้ผมไม่รู้รายละเอียด ผมจึงไม่ขออธิบาย

----------------------

นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ อย่าหลงกลระบอบทักษิณตั้งสมเด็จช่วง เป็นสังฆราช

พลเอกประยุทธ์ ท่านจงจำให้ดีนะครับ สมเด็จช่วงได้ปาราชิกไปแล้ว ถ้าท่านนายกฯ นำชื่อสมเด็จช่วงขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อไหร่

ก็เท่ากับท่านนายกฯ ประยุทธ์ ได้สร้างความระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และได้หลอกลวงเบื้องสูง มีความผิดตาม ปอ.มาตรา 112 เช่นเดียวกัน

ท่านนายกฯ ประยุทธ์ อย่าให้พวกเสื้อแดงล้มเจ้าที่นำโดยนายทักษิณ ชินวัตร ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้สำเร็จ โดยที่ท่านนายกฯ ประยุทธ์กลายเป็นเครื่องมือทำลาย 3 สถาบันหลักของชาติเสียเองล่ะครับ

------------------

อย่าปล่อยให้สถาบันชาติ สถาบันศาสนา ตกอยู่ในมือระบอบทักษิณ

ถ้าตาช่วง วัดปากน้ำ ได้เป็นสังฆราช ก็เท่ากับว่า ระบอบทักษิณแอนด์ลัทธิธรรมกายขายบุญ ได้ยึดพุทธศาสนาไทยไว้ในกำมือได้แล้ว

ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ถ้าระบอบทักษิณชนะการเลือกตั้งอีก ก็เท่ากับยึดสถาบันชาติได้

ถ้าสถาบันหลักของชาติ 2 สถาบัน ตกอยู่ในมือระบอบทักษิณเมื่อไหร่ สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยก็จะลำบากแล้วครับ เพราะพวกล้มเจ้าก็ลูกน้องทักษิณทั้งนั้น

-----------------------

ย้อนดูข่าวเก่า ตาช่วงเคยอวยพรยิ่งลักษณ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีตลอดกาล

วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 34 ฉบับที่ 12221 มติชนรายวัน

ยิ่งลักษณ์ทำบุญใหญ่พร ะ99 รูป

ต่อมาเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มบริหารราชการของรัฐบาล ที่ตึกสันติไมตรี โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) คณะปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชฯ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระสงฆ์เถรานุเถระ จำนวน 98 รูป ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์

หลังเสร็จพิธีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ให้พรนายกฯว่า "ขอให้ทำงานให้หนัก เพื่อเผื่อแผ่ไปถึงประชาชน และขอให้เป็นนายกฯตลอดกาล"


คลิกอ่าน พระมหาพงศ์นรินทร์ แห่งวัดสุทัศน์ พูดถึงการสอนที่บิดเบือนของวัดพระธรรมกาย




วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

จรวดของสมีไชยบูลย์เจ๋งกว่าจรวดองค๋การนาซ่า







ไชยบูลย์ ถาม "ลูก ๆ จ๊ะ ครูไม่ใหญ่ (สมีไชยบูลย์) ขอถามว่าเสาอะไรเอ่ย ที่เดินทางเหาะมาจากเทวโลกเพื่อมาช่วยลูก ๆ ทั้งหลายให้รวย ๆ ๆ นะจ๊ะ ๆ"

ตอบ "เสารัตนชาติ ค่ะ"

"สาธ !!  สาธุ !!  สาธุ !!"

เชิญชม ณ บัดนาว !!!




"เสาเข็มแรกของโลกเหมือนกัน..นะ เสาเข็มรัตนชาติประดุจอันเชิญเลื่อนลอยมาจากสวรรค์" ไชยบูลย์พูดในนาทีที่ 15.10 คลิปโอวาทหล่อหลวงปู่ทองคำองค์ที่ 8






































ลงจอดแวะมาให้ไชยบูลย์ปิดทองก่อน




แล้วก็เหาะมาถึงที่หมายสุดท้าย


แก้คำผิด มหาวิหารนะจ๊ะ ไม่ใช่มหาวิการ
















ภายในมหาวิหารหลวงปู่ทองคำ หนัก 1 ตัน



แล้วใครเคยชั่งน้ำหนักบ้างว่าใช้ทองคำหนัก 1 ตันจริงหรือ ?

เพราะช่างกรมศิลป์ที่เคยหล่อหลวงปู่ทองคำเคยให้สัมภาษณ์ว่า ภายในรูปปั้นกลวง ใช้ทองคำแค่ 400 กว่ากิโลกรัมเท่านั้น

นายบุญส่ง นุชน้อมบุญ นายช่างประจำกรศิลปากร ซึ่งเป็นช่างหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อมงคลเทพมุณีหรือหลวงพ่อสด ที่วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า "หลังจากตนเบิกทองคำมาแล้วใช้วิธีหลอมทองจำนวน 10 เบ้าหลอม แต่ละเบ้าหลอมมีทองจำนวน 60 ก.ก. ซึ่งใช้ทองไปเพียง 7 เบ้า หรือประมาณ 420 ก.ก. ก็เต็มองค์ ส่วนทองที่เหลืออีก 3 เบ้า ทางวัดตอบว่าจะนำไปหล่อพระพุทธรูปในโอกาสต่อไป หลังจากเสร็จพิธีแททองหล่อพระในวันดังกล่าวตนไม่เคยไปที่วัดนี้อีกเลย และไม่ทราบมาก่อนว่าทางวัดประชาสัมพันธ์ว่าพระองค์ดังกล่าวมีน้ำหนักถึง 1 ตัน ครั้งแรกรู้สึกแปลกใจเพราะเท่าที่สอบถามญาติโยมที่ไปทำบุญ หลายรายดุจะไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากมาย แต่สามารถบริจาคได้ถึงคนละ 1-2 ก.ก."

“ผมไม่อยากโกหก เพราะผมไม่มีลับลมคมในและผลประโยชน์ใดๆกับวัด เมื่อสื่อมวลชต้องการข้อเท็จจริงผมก็ต้องเปิดเผย เนื่องจากการหล่อพระหลวงพ่อทองคำขนาดใหญ่นี้ ผมต้องบันทึกลงจดหมายเหตุของช่างว่าสร้างเมื่อใด ขั้นตอนอย่างไร จะโกหกว่ามีน้ำหนักทองคำ 1 ตันจริงไม่ได้ เพราะรูปหล่อนี้มีลักษณะที่กลวง หนาประมาณ 3.0 – 4.0 มิลลิเมตรเท่านั้น ไม่ใช่องค์เต็ม หากเทให้เต็มองค์ต้องใช้ทองคำหนักถึง 3 ตัน ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่จำเป็นนายบุญส่งกล่าว

ที่มาข่าว https://thaidhammakaya.wordpress.com/2015/03/06/gold/

-----------------

ครูไม่ใหญ่แจกน้ำผลไม้จากสวรรค์ 

ถ้าแปะทองเสารัตนชาติกันแล้ว ลูก ๆ อย่าลืมมาร่วมพิธีตอกเสาเอกรัตนชาติจากสรวงสวรรค์แห่งมหาวิหารหลวงปู่ทองคำกันนะจ๊ะ

แล้ว ครูไม่ใหญ่ (สมีไชยบูลย์) จะแจกน้ำรัตนะผสมเนื้อผลไม้จากสวรรค์ที่มีชื่อว่า "อัฏฐผลรัตโนทก" แก่ลูก ๆ ที่ทำบุญใหญ่หนัก ๆ เยอะ ๆ ทุก ๆ คน นะจ๊ะ ๆ















เมื่อได้น้ำจากสววรค์ "อิฏฐผลรัตโนทก" กันไปแล้ว ก็เอาไปหยดลงโอ่งครั้งละหยด จะทำให้น้ำในโอ่งกลายเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ทันทีนะจ๊ะ ๆ แล้วนำน้ำมาดื่ม แล้วลูก ๆ ทุกคนรวย ๆ ๆ ๆ สมปรารถนาทุกอย่างนะจ๊ะ ๆ





บอกตรงนะ ถ้าสมีไชยบูลย์ไปตั้งลัทธิใหม่ โดยไม่ต้องมาแอบอ้างพุทธศาสนาบังหน้าหากิน ผมจะไม่แตะเรื่องลัทธิสมีขายบุญนี้เลย


คำเตือน ผู้ใดร่วมสนับสนุนสมีให้เป็นพระต่อไป ให้การสนับสนุนเงินทองให้สมีบิดเบือนพระธรรมคำสอน และพระธรรมวินัย เท่ากับคุณได้สมรู้ร่วมคิดกระทำบาปมหันต์ต่อพุทธศาสนาเช่นกัน ระวังคุณจะตกนรกมหาอเวจีตามสมีไปด้วยนะจ๊ะ ๆ "

คลิกอ่าน สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเกิดขึ้นแล้วย่านคลองหลวง