วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ดราม่าควายแดง แถ กทม. ล้างถนนเปลืองน้ำต้นทุนน้ำประปา






จากที่มีคนโจมตีเรื่อง กทม. ล้างถนนในช่วงมีภัยแล้ง กล่าวหาว่า กทม. ไม่ประหยัดน้ำ

ต่อมา ทาง กทม. ชี้แจงว่า น้ำที่ใช้ล้างถนน เป็นน้ำที่นำมาจากโรงบำบัดน้ำเสีย ไม่ได้ใช้น้ำประปามาล้างแต่อย่่างใด ซึ่งก็เป็นน้ำที่ใช้รดน้ำต้นไม้ ใช้ทำความสะอาดถนน ใช้ในรถดับเพลิง กทม. โดยใช้แบบนี้มานานแล้ว

ถ้าคนที่เข้าใจอะไรง่าย ๆ มีสติปัญญาเหมือนคนปกติทั่วไป ได้ฟังคำอธิบายแค่นี้ก็จะเข้าใจแล้ว แต่ !!

แต่ก็มีคนบางประเภท ที่พยายามจะแถสร้างความแตกแยก แต่กลายเป็นโชว์โง่แทนเหมือนความเห็นนี้



จาก คห.ด้านบน อวดฉลาดว่า น้ำจากโรงบำบัดน้ำเสียของ กทม. เป็นน้ำต้นทุนผลิตน้ำประปา

ถามว่า น้ำประปาที่ไหนวะ ?? ซึ่งมันก็ไม่ได้บอกมา

แต่ถ้าเป็นน้ำประปานครหลวง เขาไม่ได้ใช้น้ำจากน้ำที่ผ่านโรงบำบัดน้ำเสียของ กทม. เลยครับ

เพราะ การประปานครหลวง เขาใช้น้ำดิบจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ อ.สำแล จังหวัดปทุมธานี ที่เรียกว่า สถานีสูบน้ำสำแล โดยนำน้ำดิบผ่านเข้ามาทางคลองประปาตะวันออก ซึ่งจะมี โรงผลิตน้ำบางเขน โรงผลิตน้ำสามเสน โรงผลิตน้ำธนบุรี ที่ใช้น้ำดิบจากคลองประปาตะวันออกทั้งสิ้น

ส่วนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกจะใช้น้ำดิบจากแม่น้ำแม่กลอง ผลิตน้ำประปาที่โรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์




รูปประกอบจาก การประปานครหลวง

ส่วนน้ำจากโรงบำบัดน้ำเสียของ กทม. เมื่อบำบัดน้ำแล้ว ก็จะปล่อยน้ำลงคลองใน กทม. และไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาในเขต กทม. ซึ่งเป็นช่วงปลายน้ำที่จะไหลออกทะเลที่ปากน้ำสมุทรปราการต่อไป และก็เป็นน้ำส่วนหนึ่งที่ใช้ช่วยไล่น้ำเค็ม ยามน้ำทะเลหนุนอีกด้วย

ส่วนน้ำดิบที่การประปานครหลวงเขาใช้  ต้นคลองประปาอยู่ที่ปทุมธานีโน่น !!

และการประปานครหลวง ไม่ได้ผลิตน้ำประปาให้เฉพาะคนกรุงเทพฯ เท่านั้น ยังผลิตน้ำประปาให้คนนนทบุรี คนสมุทรปราการ ได้ใช้อีกด้วย เคยรู้ไหม ??

และคนกรุงเทพฯ ที่มีทะเบียนราษฎร์ในกรุงเทพฯ จริง ๆ มีประมาณ 6 ล้านคนเท่านั้น แต่ยังมีคนที่มาใช้น้ำประปานครหลวงร่วมกับคนกรุงเทพฯ ด้วย ก็คือ คนต่างจังหวัดที่มาทำงาน มาเรียน ในกรุงเทพฯ อีก 6 ล้านคน !!


ดังนั้น คนโง่ที่แสดงความเห็นโง่ ๆ กล่าวหาว่า น้ำจากโรงบำบัดน้ำเสีย กทม. เป็นน้ำสำหรับผลิตน้ำประปา จึงเป็นการโชว์โง่ เพื่อสร้างความแตกแยกทั้งสิ้น

และที่รัฐบาลขอร้องให้ชาวนางดสูบน้ำ เพราะการประปาภูมิภาค และประปาหมู่บ้าน ในจังหวัดภาคกลางหลายจังหวัดกำลังขาดแคลนน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปาภูมิภาคและน้ำประปาหมู่บ้านต่างหาก (และส่วนหนึ่งก็เพื่อผลักดันน้ำเค็มออกไป) 


แล้วลองคิดดู ถ้าน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นมาถึง ปทุมธานี อยุธยา ด้วย สุดท้ายใครเจ๊ง ?

ก็ชาวนาปทุมธานี และชาวนาอยุธยา นั่นแหละจะเจ๊งเอง เพราะน้ำจะเอาไปใช้ทำนาก็ไม่ได้ เพราะดินจะเสียหมด ข้าวจะตายหมด

ส่วนคนกรุงเทพฯ น่ะเหรอ ถ้าน้ำดิบในเจ้าพระยามันเค็มเกินไป กปน. เขาก็จะหันไปใช้น้ำดิบจากแม่น้ำแม่กลองมาผลิตน้ำประปาเพิ่มขึ้นแทน แลัวค่อยผันน้ำมาช่วยกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกก็ได้ เขาไม่ได้เดือดร้อนอยู่แล้ว

แล้วน้ำที่ล้างถนน กทม. น่ะ สุดท้ายน้ำจากการล้างถนน ก็จะไหลลงท่อระบายน้ำ แล้วมันก็จะถูกส่งไปบำบัดที่โรงบำบัดน้ำเสีย กทม. เหมือนเดิมอยู่ดีนั่นแหละ 

ย้ำ !! ดังนั้นน้ำที่ล้างถนนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หายไปไหน ก็วนกลับมาบำบัดที่โรงบำบัดน้ำเสียเหมือนเดิม

หายโง่นะ ควายแดง

เอ้า ดูสารคดีเรื่อง โรงบำบัดน้ำเสีย กรุงเทพฯ ซะ เผื่อจะหายโง่


แล้วพวกที่ชอบยุยงให้สังคมแตกแยก ให้ชาวนาเกลียดคนกรุงเทพฯ ไอ้พวกนี้พอยุยงเสร็จมันก็ใช้น้ำประปาต่อไป เผลอ ๆ มันก็ใช้น้ำประปานครหลวงด้วยนั่นแหละ

มันเลวไหม??

คลิกอ่าน ภัยแล้งหนัก ไม่ช่วยให้คนไทยบางกลุ่มฉลาดขึ้นเลย




วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ต้นเหตุเขาหัวโล้น และลุงแก้ว ผู้พิชิตเขาหัวโล้นกลายเป็นสวนผลไม้อุดมสมบูรณ์






ก่อนอื่น ผมอยากให้คุณผู้อ่าน ได้ชมสารคดีสั้นชุดใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งออกอากาศทางโทรทัศน์ทุกช่องในเดือนกรกฎาคม 2558 นี้เอง เกี่ยวกับ สาเหตุที่ทำให้เกิดภูเขาหัวโล้นในป่าต้นน้ำ เสียงบรรยายโดย กิตติ สิงหาปัด



----------------------

ากปัญหาภัยแล้งที่เข้าขั้นวิกฤติที่สุดในรอบ 50 ปีของไทย ในปี 2558 เราได้เห็นต้นตอปัญหาว่า มีการบุกรุกทำลายป่าต้นน้ำ เพื่อปลูกไร่ข้าวโพด 60 % ปลูกยางพารา 30 % จนทำให้ป่าไม้ต้นน้ำกลายเป็นเขาหัวโล้น

โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และอีสาน ในหลายจังหวัด ที่นิยมที่สุดคือ การทำลายป่าต้นน้ำเพื่อปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้อนโรงงานอาหารสัตว์

ชาวไร่ข้าวโพดบนภูเขาทางเหนือทำไร่เลื่อนลอย เผาต้นข้าวโพดทิ้งในทุกปลายหนาวจนเป็นปัญหาหมอกควัน เป็นแบบนี้มานานหลายสิบปี

ผืนดืนของภูเขาต้นน้ำกลายสภาพกลายเป็นดินที่แห้งแล้ง ขนาดน้ำ ดินเสื่อมโทรม เพื่อการปลูกข้าวโพดมานาน

ลุงแก้ว แห่งจังหวัดแพร่ ก็เคยทำอาชีพปลูกข้าวโพดมานานนับตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่ก็ไม่เคยพ้นสภาพความยากจนไปได้เลย แถมสภาพความเป็นอยู่ สภาพสิ่งแวดล้อมก็แย่ลงทุกวัน เกิดดินถล่มแทบทุกปี



สุดท้าย ลุงแก้ว กล้าที่จะเปลี่ยนทัศนคติเก่า ๆ  เปลี่ยนวิถีการเป็นชาวไร่ข้าวโพดแบบเดิม ๆ แล้วหันมาปลูกพืชสวน ผลไม้ เลี้ยงปลา จนชาวไร่ข้าวโพดด้วยกัน ต่างพากันพูดว่า ถ้าไม่ปลูกข้าวโพดแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อข้าวกิน

แต่ลุงแก้วก็ไม่ฟังใคร หันมาปลูกกล้วยในตอนเริ่มต้น สู้พลิกผื้นเขาหัวโล้นที่ผืนดินแห้งเสียจากยาฆ่าหญ้า เพื่อมาปลูกผลไม้ขาย ส่วนใบไม้ที่ร่วงหล่นในสวน ก็ช่างมัน ไม่ต้องไปเก็บ ไม่ต่องไปเผา ปล่อยให้มันกลายเป็นปุ๋ยชั้นดีต่อไป

และแล้ว ลุงแก้ว ก็อดทนต่อสู้พลิกเขาหัวโล้นประมาณ 2-3 ปี ก็เริ่มประสบความสำเร็จสามารถพลิกฟื้นภูเขาหัวโล้นให้กลับมาเป็นสวนผลไม้ที่อุดมสมบูรณ์ได้ มีผลไม้ขายตามฤดูกาลตลอดปี



แถมลุงแก้วยังมีน้ำใช้ในสวนได้ตลอดปีอย่างไม่ขาดแคลน

ทำไม ลุงแก้ว สามาถมีบ่อน้ำ มีบ่อเลี้ยงปลา บนพื้นที่สูงได้โดยน้ำในบ่อไม่เคยแห้งตลอดปี  ลุงแก้วทำได้อย่างไร ?? 

ใบ้ให้หน่อยนึงว่า เพราะความมหัศจรรย์ของหญ้าแฝกไง !!



โปรดชมคลิป รายการหอมแผ่นดิน ตอน ลุงแก้วพลิกเขาหัวโล้นเป็นสวนเขียวขจี 

ซึ่งทุกครั้งที่ผมดูรายการที่เกียวกับเกษตรกรประสบความสำเร็จในอาชีพด้วยหลักการเศรษฐกิจพอเพียง และการเกษตรทฤษฎีใหม่ ทีไร ผมมีความสุขจริง ๆ

คลิปลุงแก้ว เกษตรกรผู้คืนความอุดมสมบูรณ์ให้แผ่นดินด้วยเกษตรทฤษฏีใหม่ เปลี่ยนไร่ข้าวโพดเป็นเกษตรสวนผสม



-------------------------

ลุงแก้ว ตอน 2 




คลิกอ่าน พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้า กับเหตุผลที่ชาวนาไม่มีน้ำทำนาปี 58