วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ขำ ม็อบรับจ้างอิตาลี มาประท้วงพลเอกประยุทธ์







พลเอกประยุทธ์ ได้เดินไปร่วมประชุมผู้นำเอเซีย-ยุโรป หรืออาเซมแล้ว ซึ่งผมคาดการณ์ไว้ว่า นอกจากจะมีคนไทยที่เข้าใจปัญหาบ้านเมืองและความจำเป็นในการทำรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จะมารอชูป้ายต้อนรับและสนับสนุนพลเอกประยุทธ์แล้ว

คนไทยที่มาต้อนรับพลเอกประยุทธ์ หน้าตาดีมีความสุข


ก็ย่อมมีคนไทยที่ต่อต้านเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหาร ต้องออกมาประท้วงพลเอกประยุทธ์แน่นอน

แต่กลับผิดคาด เพราะม็อบที่มาประท้วงพลเอกประยุทธ์ ส่วนใหญ่กลับเห็นมีแต่พวกฝรั่งตะวันตกเป็นส่วนใหญ่ แทบไม่เห็นหัวเห็นหน้าคนไทยเท่าไหร่เลย



แถมยังมีฝรั่งถือป้ายด้วยข้อความภาษาไทยอีกด้วย ยิ่งตอกย้ำว่า นี่มันม็อบเติมเงินฝรั่งอิตาลีแหง ๆ

ก็อย่างที่รู้ ๆ กัน อิตาลีเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เผชิญปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำ จนทำให้อิตาลีต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมาแล้วถึง 3 คนในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา 

เพราะคนตกงานในอิตาลีมีเพียบ โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อัตราการว่างงานของคนวัยทำงาน อยู่ที่ 12.6% แต่ถ้าแยกเฉพาะวัยรุ่นหนุ่มสาวอิตาลี จะมีอัตราว่างงานสูงถึง 42.9%  ดังนั้นจึงมีพวกหนุ่มสาวว่างงานมารับจ้างมาประท้วงได้เยอะแยะ

ม็อบรับจ้างอิตาเลี่ยนมาประท้วงพลเอกประยุทธ์



สังเกตรูปนี้ดี ๆ เดี่ยวมีเฉลยท้ายบทความแบบจะจะ


ส่วนคนไทยที่เป็นแกนนำประท้วง อย่าให้ผมเอ่ยชื่อมันให้เป็นเสนียดปากเลย ไอ้พวกหนักแผ่นดินทั้งนั้น


ซึ่งถ้าเสื้อแดง ควายแดง และคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยไม่โง่ และคิดเป็นเหมือนที่คนอิตาลีส่วนใหญ่เขาคิดเป็น คือ ยอมให้มีนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งได้ เพื่อเข้ามาแก้วิกฤติบ้านเมืองในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา

ตลอดจน ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ดื้อด้านเกาะ รธน. มาตรา 181 แบบแถหน้าด้าน ๆ แล้วยอมลงจากอำนาจโดยดี เพราะตนเองทำผิดรัฐธรรมนูญหลายมาตรา แล้วเปิดโอกาสให้มีนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 จากเหตุสุญญากาศทางการเมือง

ในวันนี้เราก็คงไม่ต้องมีการรัฐประหาร ไม่ต้องมี คสช. แล้วให้นายกฯ มาตรา 7 เป็นผู้นำการปฏิรูปการเมืองใหม่ต่อไป

คลิกอ่าน เมื่ออิตาลีมีนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง 3 คน

---------------------

ทำไมผมถึงกล้าฟันธงว่า ม็อบที่มาประท้วงพลเอกประยุทธ์คือ ม็อบรับจ้าง ??

คำตอบนี้ง่ายมากครับ

ก่อนอื่นต้องถามว่า ปัญหาความขัดแย้งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ในยุโรปคืออะไร ??

คำตอบคือ เรื่องการแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ที่อียูกำลังมีปัญหาความขัดแย้งกับรัสเซียอย่างมาก ซึ่งเป็นปัญหาความขัดแย้งที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ จนอียูได้คว่ำบาตรรัสเซียในหลายด้าน

ดังนั้น ควรจะมีม็อบออกมาประท้วงผู้นำรัสเซียเยอะ ๆ ใช่ไหมครับ ที่รัสเซียเข้าไปแทรกแซงปัญหาความแตกแยกในยูเครน จนบานปลายเกิดเป็นสงครามแบ่งแยกดินแดน อีกทั้งคนรัสเซียเอง ในตอนหลังก็ออกมาประท้วงผู้นำรัสเซียในเรื่องการแทรกแซงยูเครนเช่นกัน

แต่กลับกลายเป็นว่า มีคนมาประท้วงผู้นำรัสเซียที่เดินทางมาประชุมอาเซม จากกรณีปัญหายูเครน มีแค่2คนนี้เองครับตามรูป



คุณผู้อ่านว่า มันน้อยไปหน่อยไหม ทั้งสองคนเป็นชาวยูเครน ซึ่งคุณผู้อ่านคิดว่า ปัญหายูเครนรุนแรงขนาดนี้ ทำไมมีชาวยูเครนมาประท้วงน้อยจัง ?

ก็เพราะคนยูเครน เขาไม่มีเงินไปจ้างพวกตกงานอิตาเลียนมาช่วยประท้วงเหมือนไอ้พวกคนไทยหนักแผ่นดินมันไปจ้างไงครับ

ในขณะที่ปัญหารัฐประหารของไทย ซึ่งจริง ๆ แล้ว คนอิตาลีส่วนใหญ่ไม่สนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เพราะปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของอิตาลีเอง คนอิตาลียังเอาตัวแทบไม่รอดเลย คงไม่มีใครมีเวลามาสนใจเรื่องชาติอื่นหรอกครับ ไม่มีใครอยากหยุดงาน ลางานมาประท้วงเรื่องของชาวบ้านหรอกครับ

ถ้าจะประท้วง คนอิตาลีเขาก็จะประท้วงก็เพื่อเรื่องของพวกเขาเอง เขาไม่ว่างไปเสือกเรื่องชาติอื่นหรอก

ก็คงมีแต่พวกอิตาเลียนตกงาน ว่างงานเท่านั้น ที่ไปรับจ้างรับเงินจากพวกคนไทยเลว ๆ มาถือป้ายประท้วงพลเอกประุยุทธ์




ล่าสุดเว็บเสรีไทย ได้นำเสนอว่า มนุษย์ป้า มาตีเนียนไปปนกับม็อบอิตาลีที่เขาประท้วงเหยียดผิว


นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบไม่พบการชุมนุมประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ แต่อย่างใด และสถานที่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่นั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด อีกทั้งในขณะนี้ที่ประเทศอิตาลี มีการชุมนุมของชาวต่างชาติซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรี อยู่ในสถานที่ที่ทางการอิตาลีจัดไว้ให้

ส่วนภาพที่มีนางจรรยา ยิ้มประเสริฐ อดีตนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงาน และเป็นแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง ร่วมชุมนุมกับชาวต่างชาตินั้น ตนเข้าใจว่าเป็นการไปถ่ายภาพร่วมกับผู้ชุมนุมชาวต่างชาติที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้เข้าใจว่ามีชาวต่างชาติมาร่วมชุมนุมประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ด้วย

-----------------

ดูชัดๆ นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ โพสในเฟสบุ๊คเป็นหลักฐานมัดตัวเอง

โพสนี้ตั้งแต่วันที่ 15 บอกว่า มีคนไทยเหี้ย ๆ 2-3 คนระดมทุนเพื่อประท้วงพลเอกประยุทธ์



มันคงหาเงินได้ไม่มาก เลยจ้างพวกหนุ่มสาวอิตาเลียนได้แค่ 2-3 คน เท่านั้น


โพสนี้ก็ตอกย้ำว่า จ้างหมดทุกอย่าง รวมทั้งช่างภาพด้วย


โถ ๆ ถ้ามีคนมาประท้วงเยอะ ๆ นะ มันไม่ต้องจ้างช่างภาพหรอก แต่เพราะมันไม่ค่อยมีคน เลยต้องจ้างหมดทุกอย่างไง


ดูโพสนี้ นางจรรยา โพสเองว่า จะไปตีเนียนกับกลุ่มนักศึกษาที่ประท้วงเหยียดผิว


ฮ่า ๆ ขนาดยอมทำป้ายทุกอย่าง บอกให้คนไทยในอิตาลีมาแต่ตัวก็พอ สุดท้ายจากข่าวและคลิปข่าว ก็เห็นมีคนไทยหนักแผ่นดินแค่ 3 ตัวเท่านั้น

กระจอกจริง ๆ ไอ้พวกควายแดงต่างแดนเนี่ย 55555




วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กรณี โย ยศวดี บาดหมางกับ บี น้ำทิพย์ ผมว่าถูกด้วยกันทั้งสองฝ่าย







โย ยศวดี เข้าวงการมาได้เพราะ โย เป็นเด็กสาวที่รักพี่สาวมาก หลงใหลพี่สาวว่า พี่สาวสวยที่สุดกว่าใคร ๆ

โย จึงยุและพาพี่สาวไปประกวดนางแบบที่สยามเซ็นเตอร์ แต่พี่สาวเขิน เลยบอกให้โย สมัครประกวดเป็นเพื่อน

โย เด็กสาวหัวฟูเหมือนอแมนด้า คาร์ แต่ตัวดำปี๋ สูงกว่า 170 เลยต้องเข้าประกวดพร้อมพี่สาว เพราะไม่งั้นพี่สาวไม่ยอมประกวด

สุดท้าย กลายเป็นโย ชนะการประกวดเอง แถมเข้าวงการบันเทิงและนางแบบจนดังกว่าพี่สาวเสียอีก

ถ้าคุณได้ตามข่าวโยมาตลอด จะรู้ว่า โยรักพี่สาวมาก ๆ

-----------------

โย มีปัญหากับ บี น้ำทิพย์ เรื่องธุรกิจร่วมกัน

ทีนี้ปัญหาความบาดหมางใจของโย ยศวดี กับ บี น้ำทิพย์ ในฐานะที่ผมชื่นชอบทั้งสองคน และเสียดายหากทั้งคู่จะเลิกคบกัน ผมเลยขออนุญาตแสดงความคิดเรื่องนี้จากเท่าที่ดูข่าว

โย เล่าว่า ธุรกิจนี้ไปชวนบี มาทำด้วย โดยโยให้บีถือหุ้นลม เพราะต้องการชื่อเสียงของบี ช่วยโปรโมทกิจการ แต่ที่ต้องมาขัดแย้งกันเพราะเรื่องปิดกิจการที่ไปไม่รอด

โย บอกว่า ปิดกิจการไม่ใช่ปิดแล้วจบเลย แต่มันมีค่าใช้จ่ายอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะ ต้องจ่ายเงินให้ลูกน้อง

ซึ่งที่ผ่านมา บี ไม่เคยรับรู้เรื่องบัญชี เคยรับแต่ปันผลรายได้มาตลอด บีไม่เคยมาดูแลกิจการเอง จึงทำให้ไม่เข้าใจปัญหา

โย บอกว่า ไม่เคยโกรธบี เพราะรักบีมาก อยากให้บีมาดูบัญชี มาตรวจสอบ ว่ามีโกงหรือไม่ ก็ให้มาดูก่อน

ตามความเห็นผมนะ ผมว่า ถูกด้วยกันทั้งคู่

บี คงมองว่า เธอไม่ได้ร่วมลงทุน อุตส่าห์ยอมให้โยนำชื่อเสียงของเธอมาใช้เพื่อช่วยกิจการ เธอก็รับปันผลจากหุ้นลม เสมือนเป็นค่าตัวค่าชื่อเสียง

บี คงคิดว่า ในเมื่อกิจการไปไม่รอด ไม่ใช่เพราะเธอทำ แต่เป็นเพราะโย ต่างหากที่บริหารไม่ดีเอง เธอจึงไม่น่าต้องมารับผิดชอบในส่วนนี้อีก

ส่วน โย ก็อาจมองว่า ในเมื่ออุตส่าห์ให้บีถือหุ้นลม โดยไม่ต้องลงเงินเลย และไม่ต้องมาดูแลกิจการเลย แต่ได้ปันผลรายได้ให้บี มาตลอด มาตอนนี้กิจการไปไม่่รอด ก็อยากให้ บี มาช่วยรับผิดชอบช่วยเหลือเธอด้วยบ้าง

(คงเพราะค่าใช้จ่ายในการปิดกิจการคงมากพอควร)

คือ ก็มีเหตุผลถูกต้องทั้งคู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละฝ่าย

เช่น บีอาจมองว่า ปันผลที่เคยได้มันไม่ได้มากอะไร โยอาจได้รับมากกว่า ซึ่งบีก็ไม่รู้ตรงนี้ เพราะเธอไม่เคยเข้าไปดู โยเองก็น่าจะรับผิดชอบเรื่องปิดกิจการไปเองคนเดียว อะไรประมาณนั้นนะ ผมว่านะ

คลิป โย ยศวดี น้ำตาร่วง เปิดใจสาเหตุที่มีปัญหากับ บี น้ำทิพย์



----------------

ทางออกที่ถูกต้องคืออะไร ?

อันนี้ต้องย้อนถามว่า ที่ผ่านมา บี น้ำทิพย์เชื่อใจ โย ในการทำกิจการนี้หรือไม่ ?

ถ้าเชื่อใจว่า โยให้ปันผลที่เป็นธรรมจริง ๆ แก่บีน้ำทิพย์มาโดยตลอด ไม่เคยคดโกงเลย โดยตามหลักของธุรกิจเมื่อปิดกิจการที่ทำร่วมกันแล้ว ผู้ถือหุ้นต้องมีส่วนรับผิดชอบร่วมกันตามสัดส่วนของหุ้นที่ถือ

เช่น หากมีเงินที่ต้องชำระหนี้ 100 บาท คนที่ถือหุ้น 50 % ก็ต้องจ่ายหนี้ 50 บาท เป็นต้น

แต่ถ้ายึดตามกฎหมาย ผู้ถือหุ้นทุกคน ต้องมีส่วนรับผิดชอบหนี้สินร่วมกันตามสัดส่วนของหุ้นที่ตนถืออยู่

(หุ้นลม เป็นภาษาปาก ที่หมายถึงเจ้าของหุ้นไม่ลงเงินในหุ้น แต่ตามกฎหมายมันคือหุ้นจริง)

ปัญหาของเรื่องนี้คือ ไม่ได้พูดคุยทำความตกลงกันตั้งแต่แรกเมื่อเปิดกิจการนี้ ว่า หากต้องเลิกกิจการจะรับผิดชอบร่วมกันอย่างไร

อาจเพราะความที่เป็นเพื่อนสนิทกันมากไป เลยทำให้เกรงใจไม่พูดเรื่องแบบนี้กันเสียแต่แรก

ทั้งหมดคือ ความเชื่อใจ และความไว้ใจกัน

เพื่อนแท้ ๆ มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน

ลองถอยกันคนละก้าว เอาความเป็นเพื่อนเป็นที่ตั้ง มิตรภาพต้องมาก่อนผลประโยชน์ ความเสียสละและความเห็นใจซึ่งกันและกัน จะทำให้เพื่อนเข้าใจเพื่อน และเห็นใจเพื่อน

ผมฝากไว้เท่านี้ ผมชอบทั้งสองคน เสียดายหากทั้งคู่เลิกเป็นเพื่อนกันครับ


ล่าสุด บี น้ำทิพย์ ได้แถลงตอบโต้แล้ว






วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ฝ้าย เดอะวอยซ์ ซีซั่น 3 ได้ฉายาใหม่ ฝ้าย "หันสี่" น่ารักอะ






ฝ้าย - อาภาภัทร ภูมิภักดิ์ จบจากคณะคุรุศาสตร์ดนตรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อายุ 24 ปี ผู้เข้าแข่งขัน The voice Thailand season3 ผู้ร้องเพลง โอ้ใจเอ๋ย

เมื่อเธอร้องเพลงจบ กรรมการหันมาทั้งหมด แต่มีประเด็นที่น่าสนใจมาก

คือฝ้ายเธอดีใจที่ กรรมการหันมาทั้ง 4 คน เธอก็เลยบอกไปว่า "หันสี่ เลยอ่ะ"

แต่ประเด็นตรงคำว่า หันสี่ ฝ้ายกลับมีแสดงท่าทางสั่นประกอบ มันเลยทำให้คนอดคิดลึกไม่ได้

โจอี้ บอยยังไม่เก็ท แต่แสตมป์ Get และตบมุกซ้ำ
ส่วนพี่ก้องฮาก๊ากเลย ส่วนเจ๊คิ้มยังไม่รู้เรื่อง

The Voice Thailand - ฝ้าย - โอ้ใจเอ๋ย - 12 Oct 2014


ฝ้ายร้องเพลงเพราะ เข้าใจเลือกเพลง

แต่ประทับใจตรง หันสี่ ของฝ้ายมากกว่า

เพราะท่าหันสี่ของฝ้าย ชั่งได้ใจประชาชนจริง ๆ 555555555555

น่ารักจริง ๆ แถมมีทำซ้ำให้ดูอีก เอาใจไปเลย ชอบ ๆ ๆ ชอบมาก ๆๆ

ตอนนี้ใคร ๆ ไม่เรียก ฝ้ายเดอะวอยซ์ ซีซั่น3 กันแล้ว แต่มาเรียก ฝ้ายหันสี่ กันหมด

ส่วนเจ้าตัวรู้หรือไม่ ว่า เธอดังเพราะ หันสี่ ??

นี่ครับ ฝ้ายเธอรู้แล้ว และเธอได้โพสคลิปหันสี่ จากเพจ Youlike ลงในเฟสบุ๊คของเธอ แถมแกล้งบอกว่า เลิกร้องเพลงละ จะไปอยู่คาเฟ่



อ๊ะ ๆ คงมีคนรีบตามไปหาเฟสบุ้คของเธอเลยล่ะสิ

ส่วนอันนี้อิจสตาแกรมของฝ้าย




ดูคลิปฉบับเต็ม เพื่อรู้จักที่มาที่ไปของฝ้าย และคุณพ่อ




ก่อนจบบทความ ผมอยากแนะนำว่า การเลือกเพลงของผู้เข้าแข่งขันสำคัญมาก บางคนเลือกเพลงแบบเอาใจตัวเองเกินไป แต่ไม่คิดเอาใจกรรมการและคนดู ก็เลยตกรอบไปอย่างน่าเสียดายทั้งๆ ที่มีเสียงดีมาก

เช่นบางคนร้องเพลงนึง กรรมการหันมาแค่คนเดียว แต่พอกรรมการบอกลองร้องเพลงอื่นให้ฟังซิ ปรากฏว่า พอร้องเพลงอื่นปุ๊บ กรรมการอึ้ง กรรมการทุกคนต่างเสียดายกันใหญ่

ดังนั้น การเลือกเพลงมีผลมากในการสร้างความประทับใจให้กรรมการและคนดู อย่าเอาแต่ที่ตัวเองชอบอย่างเดียว ลองสำรวจความเห็นจากคนรอบข้างเสียก่อนว่า เพลงใดเหมาะจะนำมาแข่งมากที่สุด


คลิกอ่าน ฝ้ายหันสี่ แพ้รอบแบทเทิลแบบค้านสายตาคนดู




วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ทำไมคดีฆ่านักท่องเที่ยวอังกฤษที่เกาะเต่า ตำรวจไทยจึงขาดความน่าเชื่อถือ






ก่อนอื่นผมขอเริ่มต้นด้วยสมมุติฐานที่ว่า ถ้าผู้ต้องสงสัยพม่าทั้ง 2 คน ไม่ใช่แพะ แต่...

ต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ มโน ของผมก่อน

ถ้าสมมุติว่าผมเป็นผู้มีอิทธิพลบนเกาะที่จ่ายส่วยให้ตำรวจปีละหลายล้านนะ แถมส่วยก็ส่งกันเป็นทอด ๆ ว่ากันว่าส่งไปจนถึงกรุงเทพฯ

ผมกร่างใหญ่คับเกาะ ผมไปจีบนักท่องเที่ยวฝรั่งสาว ๆ ผมบอลนด์ทีไร ผมก็ได้เฉาะฝรั่งผมบลอนด์กินฟรีทุกที จนติดเป็นสันดาน

ต่อมามีฝรั่งสาวผมบลอนด์คนนึงที่ไม่ยอมให้ผมได้เฉาะง่าย ๆ  อุตส่าห์สั่งให้เด็กในผับวางยาในเครื่องดื่มแล้วเชียว แต่ดันมีฝรั่งผู้ชายคนนึงเสือกมาทำตัวเป็นฮีโร่ มันทำให้ผมโกรธมาก ๆ

ดังนั้นผมจึงใช้ลูกน้องพม่าของผมไปทำร้ายฝรั่งชาย และบอกให้พวกพม่ามันข่มขืนฝรั่งผู้หญิง อ้อ แต่ผมต้องข่มขืนก่อนนะและใช้ถุงยางด้วย (อ้าวดันลืมว่าไปถอดทิ้งที่ไหน)

ส่วนพวกพม่ามันก็อยากได้ฝรั่งอยู่แล้วก็เลยข่มขืนตามคำสั่ง แต่พวกมันไม่ได้ใช้ถุงยาง ตอนแรกพวกพม่ามันคงคิดว่า แค่ทำร้ายผู้ชายและข่มขืนฝรั่งเท่านั้น ไม่ถึงกับต้องฆ่า

แต่พอพวกพม่ามันข่มขืนผู้หญิงฝรั่งเสร็จ ผมก็ใช้ปืนและอำนาจอิทธิพลคับเกาะที่พวกพม่ามันกลัว สั่งให้พม่ามันฆ่าปิดปากฝรั่งทั้งสองซะ เพราะพม่ามันก็กลัวตาย พวกมันเลยต้องทำตามคำสั่งของผมโดยดี

เมื่อพวกพม่าฆ่าฝรั่งเสร็จ ผมก็หนีด้วยสกู๊ตเตอร์ออกจากเกาะทันที โดยไม่มีใครเห็น นอกจากพวกผมเท่านั้นที่เห็น แล้วให้พวกพม่าไปหาที่ซ่อน

ต่อมาเมื่อพวกพม่าโดนจับ มันก็โดนตำรวจที่รับส่วยจากผมปีละหลายล้าน ช่วยกันขู่พม่าว่า ถ้าพวกมึงไม่อยากตายในคุก ก็ให้ความร่วมมือกับตำรวจโดยดี ทำตามที่ตำรวจแนะนำซะ ไม่งั้นพวกมึงอาจโดนโทษประหารหรือตายในคุกก็ได้

แต่ถ้าพวกมึงเชื่อที่ตำรวจแนะ พวกมึงอาจรอดโทษประหารและได้อยู่สบายในคุก ติดคุกแค่ไม่กี่ปีเดี๋ยวก็ได้ออกจากคุกแน่นอน รอให้เรื่องมันซาก่อน เดี๋ยวผู้มีอิทธิพล(อย่างผม)จะหาทางช่วย

ก็เพราะพวกพม่า มันกลัวตายในคุก หรือกลัวโดนกระทืบในคุกทั้งเช้าทั้งเย็น มันก็เลยต้องทำตามคำแนะนำจากตำรวจโดยดี

คุณผู้อ่านคิดดูเถิด คดีในประเทศไทยจะมีสักกี่คดีที่ผู้บงการตัวจริง หรือผู้มีอิทธิพลจะติดคุกจริง ๆ ?

-----------------------

จากที่ผมสมมุติเหตุการณ์ด้านบน ผมลองใช้สมมุติฐานที่ว่า 2 พม่าได้ก่อเหตุข่มขืนเหยื่อผู้หญิงจริง ฆ่าเหยื่อทั้งสองคนจริง แต่อาจมีคนบงการอีกคนหรือหลายคน

โดยที่ตำรวจไทยก็จับคนร้ายตัวจริงได้ ไม่ใช่แพะ เพียงแต่ตำรวจไทยอาจไม่ได้เปิดเผยคนร้ายทั้งหมดออกมาทุกคน

คุณผู้อ่านว่า สมมุติฐานของผมเป็นไปได้ไหม ผมถามแค่นี้แหละ ??

เพราะผมเชื่อมาตลอดว่า ถ้าตำรวจไทยจะช่วยปกปิดคดีให้ใคร ย่อมทำได้แน่นอน เหมือนกับการโกงของไทย ถ้าโกงได้ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โกงกันทุกขั้นตอน  สุดท้ายก็จะเสมือนไม่มีการโกงเกิดขึ้น

เช่นทุกวันนี้ แม้ประเทศไทยที่ว่ามีการคอร์รัปชันสูงอันดับต้น ๆ ของโลก แต่เพิ่งจะมีนักการเมืองติดคุกเพราะการโกงแค่เพียงคนเดียวคือ นายรักเกียรติ สุขธนะ

------------------

ข้อบกพร่องคดีเกาะเต่าของตำรวจไทย ในความเห็นผม

1. เรื่องถุงยางอนามัยที่พบในที่เกิดเหตุ ตำรวจตรวจพบ DNA ของฮันนาคนเดียวจากภายนอกถุง แต่ไม่สามารถหา DNA ของผู้ชายที่ใช้ถุงยางอนามัย

ถามว่า แล้วใครใช้ถุงยางอันนี้ ?? ซึ่งพม่าทั้ง 2 คน ไม่ได้ใช้ถุงยางแน่นอน จึงตรวจเจอ DNA พม่าในช่องคลอดและทวารหนักของฮันนา

ดังนั้น ถุงยางอนามัยนี้ จึงอาจเป็นได้ทั้งของเหยื่อผู้ชาย หรืออาจเป็นของผู้บงการฆ่าตัวจริง ?

(แต่โดยความรู้สึกส่วนตัวของผม ผมว่า เหยื่อผู้ชายไม่น่าจะมามีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อผู้หญิงที่ริมหาด มีแต่ฝรั่งซกมกเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ ซึ่งฝรั่งชาวอังกฤษเป็นตัวเลือกที่น่าจะน้อยกว่าฝรั่งชาติอื่น ๆ)

ดังนั้นที่มีคนถามว่า ทำไมไม่ตรวจ DNA ลูกผู้มีอิทธิพล ?

ผมขอตอบว่า ถึงตรวจไปก็เท่านั้น เพราะ DNA อาจอยู่แค่ในถุงยางที่น่าสงสัยอันนั้น ไม่ได้อยู่ในตัวเหยื่อ 

คำถามคาใจคือ ใครใช้ถุงยางที่ต้องสงสัยที่ตกในที่เกิดเหตุกันแน่ ซึ่งทางตำรวจไม่สามารถสรุปในเรื่องนี้ได้เลย


ข้อสังเกตกรณีการตรวจดีเอ็นเอจากถุงยางอนามัย

แหล่งข่าวด้านนิติวิทยาศาสตร์บอกว่า การตรวจดีเอ็นเอเป็นการตรวจพิสูจน์ทางชีววิทยาที่ตรวจหาวัตถุพยานจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งสามารถเก็บตัวอย่างได้จากทุกส่วนที่ออกมาจากร่างกายมนุษย์ ไม่ว่าส่วนใดจะมีสารพันธุกรรมที่สามารถนำมาตรวจสอบได้ทั้งหมด

ในคดีนี้จะสามารถเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากผิวด้านนอกของถุงยาง ซึ่งหากมีเพศสัมพันธ์จะตรวจได้จากเซลล์เยื่อบุช่องคลอดของฝ่ายหญิง ส่วนภายในถุงยางอนามัย หากมีการหลั่งอสุจิจะสามารถตรวจดีเอ็นเอจากอสุจิได้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจได้จากเซลล์ผิวหนังของอวัยวะเพศชายที่สวมใส่ถุงยางอนามัยนั้น

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขที่มักทำให้การตรวจหาดีเอ็นเอไม่ประสบผลสำเร็จ จะเกิดขึ้นเนื่องจากในถุงยางอนามัยจะมีสารเคมีที่เป็นสารหล่อลื่น ซึ่งมีคุณสมบัติยับยั้งการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ เพราะฉะนั้น การตรวจหาดีเอ็นเอ จะต้องมีการสกัดแยกสารหล่อลื่นดังกล่าวออกมาก่อน ในกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาแถลงข่าวว่าไม่พบดีเอ็นเอในถุงยางอนามัยเนื่องจากไม่มีการหลั่งอสุจินั้น ต้องพิจารณาว่าใช้วิธีการตรวจที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะอาจตรวจหาเซลล์ผิวหนังอวัยวะเพศของฝ่ายชายและสารหล่อลื่นของอวัยวะเพศชายได้ แม้ไม่มีการหลั่งอสุจิตาม

ข้อสังเกตเรื่องการชะล้างของน้ำทะเลและทรายบริเวณที่พบถุงยาง

แหล่งข่าวด้านนิติวิทยาศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตว่าหากมีการชะล้างด้วยน้ำทะเล ความเค็มของน้ำทะเลอาจมีผลบ้างต่อการตรวจหาดีเอ็นเอ แต่ต้องดูถุงยางอนามัยที่เป็นวัตถุพยานว่าขณะที่พบถุงยาง ด้านในหรือด้านนอกที่สัมผัสกับพื้น ถ้าเป็นการชะล้างเพียงด้านนอก ด้านในถุงยางจะไม่ถูกรบกวน

เมื่อไม่มีข้อมูลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอภายในถุงยางอนามัย จึงยังคงเป็นข้อสงสัยว่าใครเป็นผู้ใช้ถุงยางอนามัยนั้น และเกี่ยวข้องในคดีหรือไม่ อย่างไร

(ข้อมูลจากไทยพีบีเอส)

ตำรวจไทยบกพร่องการเก็บวัตถุพยานชิ้นนี้อย่างมาก แม้แต่คุณหญิงหมอพรทิพย์ก็ยังติติงในเรื่องนี้  คลิกอ่านความเห็นหมอพรทิพย์


2 เรื่อง ล่ามโรฮิงญา

คดีนี้ผู้ต้องสงสัยเป็นชาวพม่า รัฐยะไข่ แต่ตำรวจไทยดันไปหาล่ามชาวโรฮิงญา มาเป็นล่ามในคดีนี้ คือ แขกขายโรตีบนเกาะเต่า  ซึ่งชาวโรฮิงญากับชาวพม่ายะไข่ ถือว่า เป็นศัตรูคู่แค้นกัน มีปัญหาฆ่ากันตายนับพันคน จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

แต่ตำรวจไทยดันควาย !! หาพม่าที่พูดไทยมาเป็นล่ามสักคนไม่ได้เลยเหรอ ทั้ง ๆ ที่เกาะเต่ามีพม่าทำงานตั้ง 7 พันคน มีหลายคนพูดไทยได้ดีไม่ต่างจากคนไทย แต่ตำรวจไทยดันไปเอาแขกขายโรตีชาวโรฮิงญามาเป็นล่าม ซึ่งทำให้ทางการพม่าก็ออกมาติติงเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

เพราะล่าสุด นายโก เมาเมา พม่าที่ตำรวจกันตัวไว้เป็นพยานสำคัญ ได้พูดกับทนายความพม่าว่า  เขาเองถูกคนขายโรตีชาวโรฮิงญา ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจ้างให้มาเป็นล่ามเพื่อสื่อสารกับพวกเขาทุบตี และขู่ด้วยเช่นกัน

คลิกอ่านข่าวนายเมา บอกโดนล่ามโรฮิงญากับตำรวจซ้อม



3. ความโปร่งใสเรื่อง DNA

เพราะคดีนี้เป็นคดีที่โหดร้ายทารุณ ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยอย่างมาก และมีปัญหาถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถึง 3 ประเทศ คือ ไทย อังกฤษ และพม่า

ตำรวจไทยควรทำทุกอย่างให้โปร่งใสชี้แจงละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่ผลตรวจ DNA ที่พบในตัวของเหยื่อสาว ที่ในตอนแรกตำรวจบอกว่า มี DNA ผู้ต้องสงสัย 2 คนในช่องคลอดและทวารหนักของเหยื่อสาว

ตรงจุดนี้ ตำรวจไทยควรนำผล DNA ออกมาแถลงให้สื่อและประชาชนได้เห็นภาพของ DNA และต้องนำผล DNA ให้ทางการตำรวจอังกฤษไปด้วย

และเมื่อจับผู้ต้องสงสัยชาวพม่าได้แล้ว ตำรวจไทยก็ควรให้ตำรวจอังกฤษมาร่วมตรวจ DNA คนร้ายชาวพม่าด้วย คือ ให้ตำรวจอังกฤษมาขูดผนังเยื่อบุในช่องปากของผู้ต้องสงสัยพม่าทั้ง 2 คนไปตรวจหา DNA เองอีกทาง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตำรวจไทย ซึ่งถ้าผล DNA ของผู้ต้องสงสัยพม่าทั้งสองคนตรงกับผลตรวจ DNA ในช่องคลอดและทวารหนักที่ตำรวจไทยเคยให้ผลตรวจไปตั้งแต่ตอนแรก เพียงเท่านี้ก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องจับแพะ

แต่ตำรวจไทยกลับไม่ทำอย่างนี้น่ะสิ มันถึงได้เป็นปัญหาความน่าสงสัยมาจนวันนี้

เพราะผลตรวจ DNA มีแต่ฝ่ายตำรวจไทยที่พูดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว แล้วใครเขาจะเชื่อ ??

คนไทยจำนวนมากมักมีอคติกับตำรวจไทยอย่างมาก เช่น ถ้าผล DNA ตำรวจตรวจเจอว่ามี DNA ของคน 3 คน แต่ตำรวจไทยจะทิ้งผลไปสักคน ให้เหลือแค่ 2 คน จะทำได้ไหม หรือ ที่ว่าDNA พม่าตรงกับ DNA ที่พบในตัวเหยื่อ ตรงยังไง มีมาสมอ้างผลที่หลังหรือเปล่า ?? 

ตรงนี้แหละที่สังคมขาดความเชื่อมั่นในตำรวจไทย ว่า ผล DNA โปร่งใสจริงเหรอ ? เพราะตำรวจรู้เห็นผลอยู่ฝ่ายเดียว



4. ความบกพร่องของ ผบ.ตร. ในการแถลงเรื่องพบ DNA ผู้ต้องสงสัยช้า

ผบ.ตร. อ้างว่า ที่ไม่ได้ตรวจ DNA นายเมาเมา พยานพม่าตั้งแต่วันแรก ๆ  เพราะมีนักสืบโซเชียล บอกให้ตรวจคนนั้นคนนี้ก่อน มาแซงคิว จนตำรวจงง ทำให้ตำรวจตรวจช้า


การตอบของ ผบ.ตร. มีข้อบกพร่องมากมาย เช่น เรื่องไม่สามารถตรวจหา DNA ภายในถุงยาง ซึ่งคุณหญิงหมอพรทิพย์ก็ติงเรื่องนี้

นี่หรือคือคำตอบของ ผบ.ตร. ??

เป็นถึง ผบ.ตร. แต่กลับอ้างกลับไปโทษนักสืบโซเชียลว่า ทำให้ตำรวจไทยทำงานช้า

แล้วทำไมตำรวจต้องไปฟังนักสืบออนไลน์ด้วยล่ะ ทำไมตำรวจไทยไม่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ไปตามแนวทางของตำรวจเอง

พอทีนี้กว่าจะเจอตัวผู้ต้องสงสัยก็เลยช้า แล้วก็มาโทษนักสืบออนไลน์ แต่พอนักสืบออนไลน์บอกว่า ตำรวจอาจจับแพะ ทีนี้ตำรวจไทยดันไม่กลับเชื่อ

เพราะเหตุนี้เองเลยทำให้ผมมาคิดว่า ที่ตำรวจไทยจับผู้ต้องสงสัยช้ากว่าที่ควรจะเป็น อาจเพราะตำรวจไปหาทางหนีทีไล่ก่อน หรือหาทางปกปิดพยานและหลักฐานทุกอย่างเพื่อช่วยผู้บงการตัวจริงก่อนหรือไม่ ??

ผมฝากให้คิด !!

เพราะไม่มีเรื่อง(เลว ๆ)อะไรภายใต้ฟ้าเมืองไทยที่ตำรวจไทยจะทำไม่ได้

และการที่ผู้ต้องสงสัยทั้งสองคน บอกว่า โดนตำรวจไทยซ้อม แถมโชว์รอยแผลที่ถูกซ้อมและถูกไฟช๊อตให้ทนายความพม่าดู ก็เป็นอีกเรื่องที่ดิสเครดิตตำรวจไทยเป็นอย่างมาก


------------------



ล่าสุดได้มีพิธีศพของ ฮันนา แล้วอย่างงดงาม และครอบครัวของเธอยังได้บอกอีกว่า

“As a family we hope that the right people are found and brought to justice.”
"ครอบครัวของเราหวังว่า คนร้ายตัวจริงจะถูกนำมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"

(ครอบครัวฮันนา พูดแบบนี้หมายความว่าไง ???)



------------------------

พาดหัวหน้า 1 เนชันฉบับวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม 2557

ทนายความพม่าต้องการผล DNA ที่ตรวจโดยตำรวจอังกฤษ



THE MYANMAR lawyers of the two men charged with the Koh Tao murders of two British tourists have asked Thailand's National Human Rights Commission and the Myanmar Embassy in the Kingdom to push for British police to conduct independent DNA tests in the case, as they believe their clients are innocent.


-----------------------

คลิปภาพเคลื่อนไหวลูกชายผู้ใหญ่ ว.

ล่าสุด ก่อนที่ผู้ใหญ่ ว. ผู้มีอิทธิพลบนเกาะเต่า จะนำตัวลูกชายมาตรวจ DNA ในวันที่ 30 ตุลาคม 2557 นั้น

ก็ได้มีการเผยแพร่ ภาพเคลื่อนไหวของลูกชายผู้ใหญ่ ว. ในวันเกิดเหตุ ระบุอยู่ในหอพักนักศึกษา ในกรุงเทพ



ภาพนี้ถูกบันทึกไว้ เมื่อวันจันทร์ที่ 15 กันยายน เวลา 09.14 น. บันทึกภาพขณะที่ลูกชายผู้ใหญ่บ้านออกจากห้องในหอพักนักศึกษาย่านรังสิต มีกล้องวงจรปิด 3 ตัว ที่บันทึกความเคลื่อนไหวต่อเนื่องของลูกชายผู้ใหญ่บ้านไว้ เช่นเดียวกับกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณห้องโถงชั้น 1 ของอาคาร ขณะที่เขาอ้างว่ากำลังเดินทางไปเรียน

นี่คือหนึ่งในภาพที่ลูกชายผู้ใหญ่บ้าน และทนายของเขาบันทึกเป็นภาพนิ่ง และนำไปเผยแพร่ต่อสาธารณะระหว่างการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 30 กันยายน เพื่อแสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ที่เกาะเต่าในวันเกิดเหตุ

มีข้อสังเกตว่าภาพนี้อาจมีการแก้ไขก่อนถูกเปิดเผยหรือไม่ เมื่อภาพที่นำมาเป็นหลักฐานเป็นเพียงภาพนิ่งเท่านั้น และตัวอักษรแสดงวันเวลาก็มีสีต่างกัน เมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทุกตัวในหอพักแห่งนั้นพบว่าตัวเลขที่แสดงบนจอภาพหลายจอมีสีต่างกันเช่นเดียวกับที่ลูกชายผู้ใหญ่บ้านเคยนำไปยืนยัน

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่บริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิด พบว่าตัวเลขที่แสดงให้เห็นสามารถเปลี่ยนสีอย่างอิสระ มีเงื่อนไขว่าตัวเลขจะเป็นสีขาว หากภาพขณะนั้นมีลักษณะมืด หรือมีพื้นหลังเป็นสีดำ และตัวเลขจะเปลี่ยนเป็นสีดำ หากภาพถูกบันทึกในมุมที่มีแสงสว่าง หรือมีพื้นหลังเป็นสีโทนสว่าง

หากเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันนั้น นั่นหมายความว่าภาพจากกล้องวงจรปิดที่ยืนยันที่อยู่ของลูกชายผู้ใหญ่บ้านมีระยะเวลาห่างจากเหตุฆาตกรรมที่เกาะเต่าประมาณ 6 ชั่วโมง

มีข้อสังเกตว่าหากลูกชายผู้ใหญ่บ้านมีส่วนร่วมในการฆาตกรรมจริง เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทันทีหลังเกิดเหตุ หอพักแห่งนี้มีทางเข้าอาคารเพียงจุดเดียว อยู่บริเวณห้องโถงชั้น 1 ของอาคาร

เมื่อตรวจสอบภาพวงจรปิดที่บันทึกภาพในวันที่ 15 กันยายน ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ที่คาดการณ์ว่าเป็นเวลาเกิดเหตุฆาตกรรมถึงเวลาประมาณ 08.00 น. ไม่พบบุคคลที่มีลักษณะคล้ายลูกชายผู้ใหญ่บ้านเดินเข้าไปในหอพัก ก่อนที่กล้องวงจรปิดจะบันทึกภาพขณะที่เขาเดินออกจากห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.

ทีมข่าวไทยพีบีเอส

--------------------

ล่าสุด ลูกชายผู้มีอิทธิพลยอมไปตรวจ DNA แล้ว 

แต่ถ้าอ่านในบทความนี้ตั้งแต่ต้น ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับ DNA ของนายนมสดเลย เพราะตรวจไปมันก็คงไม่ตรง เพราะ ตำรวจไทยได้ฟันธงไปแล้วว่า DNA ในตัวเหยื่อมี DNA ของคนสองคนเท่านั้น คือ ผู้ต้องหาชาวพม่าทั้งสองคน

ถึงนายนมสด มาตรวจไปก็เท่านั้น เพราะมันเต็มโควต้า DNA ของคนร้ายสองคนไปแล้ว



(ฝากขำ ๆ "ถ้าตำรวจไทยจับชาวโรฮิงญามา 2 คนมาเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ เรื่องนี้อาจไม่บานปลายระหว่างประเทศแบบนี้ก็ได้นะฮ่าๆ เอ๊ะหรือยิ่งหนักกว่า ??")


คลิกอ่าน ทำไมคดีเกาะเต่า ตำรวจไทยไม่น่าเชื่อถือ ตอน 2




วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เกาหลีใต้โกงมวยเอเชียนเกมส์แบบโง่ๆ สู้พี่ไทยก็ไม่ได้เนียนกว่าเยอะ







เกาหลีใต้จัดเอเชียนส์เกมหนนี้ เรียกว่า ได้ไม่คุ้มเสียจริง ๆ เพราะโดนคนทั่วเอเซียด่าว่า เจ้าภาพเกาหลีใต้โกงสุด ๆ ในกีฬาหลายประเภท จนคนไทยเปลี่ยนจากเรียกเกาหลีใต้เป็นประเทศ โกงหลีใต้ ในกีฬาเอเชียนโกงส์ ไปแล้ว

ซึ่งอันนี้ต้องยอมรับว่า เรื่องโกงกีฬา เกาหลีใต้เขาคือที่ 1 ในโลกจริง ๆ

เพราะเกาหลีใต้เขาขึ้นชื่อเรื่องทำนองนี้มานานหลายสิบปีแล้ว โดยเฉพาะในกีฬามวยสากลสมัครเล่น เกาหลีใต้ก็เคยโกงแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งในโอลิมปิกและเอเชียนเกมส์ จนเป็นตำนวนแห่งกีฬามวยสากลสมัครเล่นของโลก

ถ้าพูดถึงได้เรื่องโกงคะแนนมวย เมื่อก่อนญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อไม่แพ้ชาติใดในโลก โดยเฉพาะมวยสากลอาชีพ ในอดีตญี่ปุ่นก็ได้ชื่อว่า โกงแบบสุด ๆ เช่นกัน

ส่วนเรื่องมวยสากลสมัครเล่น ญี่ปุ่นกลับไม่ค่อยเก่งมากนัก เลยไม่ค่อยมีวีรกรรมให้ได้จดจำเหมือนเกาหลีใต้

แต่ถ้าพูดถึงในชาติอาเซียน คุณเชื่อหรือไม่ว่า
คนในอาเซียนต่างบอกว่า ไทยเรานี่แหละโกงกีฬาเก่งที่สุดในอาเซียน ??

ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวหรือได้รู้จักคนในอาเซียน ก็ลองถามเขาดี ๆ ให้เขาตอบแบบไม่ต้องเกรงใจ เชื่อว่า ถ้าคนในชาติอาเซียนสามารถตอบแบบไม่ต้องเกรงใจได้ล่ะก็

เชื่อไหมผมว่าจำนวนเกินครึ่ง เขาต้องตอบว่า พี่ไทยเรานี่แหละโกงกีฬาเก่งที่สุด !!

นี่คือเรื่องความเชื่อประจำภูมิภาคนะครับ อย่าคิดมาก 555

------------------

ทายซิ อินชอนเกมส์ เกาหลีใต้ได้เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นกี่เหรียญ

ในอินชอนเกมส์ 2014 เจ้าภาพเกาหลีใต้โกงมวยสากลสมัครเล่นจะจะ ใคร ๆ ก็เห็นในหลายคู่ แต่นั่นเพราะเกาหลีใต้โกงแบบโง่ ๆ ไม่เนียน จนทำให้คนเขาจับได้ เลยโดนด่าซะยับเยิน

แต่ถึงแม้จะโกงจนโด่งดังขนาดนี้ คุณผู้อ่านว่า ในเอเชียนกมส์ 2014 ที่เมืองอินชอนนี้ คุณคิดว่า เกาหลีใต้ได้เหรียญทองไปกี่เหรียญ ??

ลองคิดเล่น ๆ ก่อน

งั้นผมจะเฉลยให้ เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 14 ที่อินชอนเกมส์ เกาหลีใต้ได้เหรียญทองมวยสมัครเล่นชาย เพียงแค่ 2 เหรียญทองเท่านั้น ครับ !!

นี่ขนาดโกงหนัก ๆ ขนาดนี้นะนี่ ทำไมถึงได้แค่ 2 เหรียญทองเอง ??

คือเกาหลีใต้ได้เหรียญทองในรุ่นไลท์ฟลายเวท Shin Jong Hun นักชกเกาหลีใต้ ได้เหรียญทองโดยชนะ Birzhan Zhakypov นักชกคาซัคสถาน

และในรุ่นแบนตั้มเวท Ham Sang Myeong ได้เหรียญทองโดยชนะ Zhang Jiawei นักขกจีน

ส่วนในมวยสากลสมัครเล่นหญิง ในอินชอนเกมส์นั้น ไม่มีนักชกเกาหลีใต้ได้เหรียญทองเลยสักคนครับ ทั้ง ๆ มี่มวยสมัครเล่นหญิงมีกรณีที่เกาหลีใต้ต้องอับอายขายขี้หน้ามากที่สุด ก็คือ กรณีที่นักชกสาวอินเดีย ไม่ยอมรับการคล้องเหรียญทองแดง แต่กลับนำเหรียญทองแดงไปให้นักชกเกาหลีใต้ที่ชนะคะแนนเธอในรองรองชนะเลิศแทน

ดังนั้น สรุปเหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น ในเอเชียนเกมส์ 2014 เกาหลีใต้จึงมีเหรียญทองแค่ 2 เหรียญทองเท่านั้น

----------------------

ทายซิที่ปูซานเกมส์ เกาหลีใต้ได้เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นชายกี่เหรียญ ?

ถ้าย้อนไปในเอเชียนเกมส์ 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้ในฐานะเจ้าภาพก็ได้เหรียญทองจากมวยสากลสมัครเล่นชายเพียงแค่ 3 รุ่นเท่านั้น

โดยเจ้าภาพเกาหลีใต้ได้เหรียญทองในรุ่นไลท์ฟลายเวท โดย Kim Chung-bae
ในรุ่นแบนตั้มเวท โดย Kim Won-il และในรุ่นเวลเตอร์เวท โดย Kim Jung-joo

แหม เกาหลีใต้นี่กระจอกจริงๆ เป็นเจ้าภาพทั้งที ทำไมได้เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นแค่ 3 เหรียญเองนะ ???

------------

เกาหลีใต้โกงแบบโง่ๆ สู้พี่ไทยก็ไม่ได้เนียนกว่าเยอะ

ถ้าในกีฬาซีเกมส์ มีหลายครั้งที่พี่ไทยกวาดเหรียญทองมวยสากลสมัครเล่นแบบเป็นกอบเป็นกำหลายต่อหลายหน

อย่างที่ผมจำได้ดี คือ ซีเกมส์ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2528 ตอนผมยังเด็ก แต่จำได้ดีว่า พี่ไทยกวาดเหรียญทองไปนับ 10 เหรียญ มีดังนี้

รุ่นพินเวท ธีระชัย เสมานุสรณ์
รุ่นฟลายเวท ขวัญชัย สำราญจิต
รุ่นเฟเธอร์เวท วันชัย ผ่องศรี
รุ่นไลท์เวท สมศักดิ์ บุญทา
รุ่นไลท์เวลเตอร์เวท สำรวย มงสนธิ์
รุ่นเวลเตอร์เวท ทวีวัฒน์ อิสลาม
รุ่นไลท์มิดเดิลเวท บุญธรรม พิลากร
รุ่นมิดเดิลเวท ณรงค์ อินพรหม
รุ่นเฮฟวี่เวท สำรวย สุขีฐาน
รุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวท บัญชา ศรน้อย

แม้ตอนนั้นผมยังเด็ก แต่ผมก็รู้สึกแทม่ง ๆ เหมือนกันว่า ทำไมไทยได้เหรียญทองมากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ฟิลิปปินส์คู่แข่งสำคัญก็ชกดีตั้งหลายคน ??

แล้วพอดีผมไปค้นเจอข่าวในเน็ตคือ ซีเกมส์ครั้งล่าสุดที่พี่ไทยเป็นเจ้าภาพ คือ ซีเกมส์ครั้งที่ 24 โคราชเกมส์ ไทยเราก็กวาดเหรียญทองจากมวยสากลสมัครเล่นไป 10 เหรียญทองเช่นกัน

แต่มวยสากลสมัครเล่นในซีเกมส์ครั้งที่ 17 กลับมีเรื่องข่าวฉาวคือ นักชกฟิลิปปินส์ประท้วงไทย โดยทีแรกไม่ยอมขึ้นชก จึงทำให้นักชกไทยชนะฟาวล์ไป 2 คน โดยไม่ต้องชก

ต่อมานักชกฟิลิปปินส์ยอมขึ้นชก แต่ก็ขึ้นมาชกไปแบบงั้น ๆ แล้วก็เดินลงจากเวทีไปหลังหมดยกที่ 1 แล้วไม่ชกอีกในหลายคู่ แถมนายกสมาคมมวยสมัครเล่นของฟิลิปปินส์ยังให้สัมภาษณ์ดังนี้

แมนนี่ โลเปซ นายกสมาคมมวยฟิลิปปินส์ กล่าวว่า "ไม่มีเหตุผลอื่นใด นอกจากทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของนักมวยฟิลิปปินส์ทั้งทีมที่รู้สึกผิดหวัง นักชกของตนในวันนี้ขึ้นชกและรับเหรียญโดยใช้ปลาสเตอร์ปิดที่ธงชาติ เพื่อเป็นการแสดงให้รู้ว่า พวกเราไม่ยอมรับการตัดสินของกรรมการ หากจะมีการแก้มือกันใหม่ จะเป็นที่ไหนก็ได้ ขอเพียงไม่ใช่ในเมืองไทย และไม่จำเป็นต้องเป็นที่ฟิลิปปินส์ นักชกของตนก็พร้อมพิสูจน์ฝีมือกับนักชกไทยกันใหม่ ความจริงเรื่องนี้ทางโฮเซ่ คอนจังโก้ จูเนียร์ ประธานโอลิมปิคของฟิลิปปินส์เอง ได้ร่วมประชุมกับผู้จัดการทีมแล้วตั้งแต่เมื่อคืนก่อนชกว่าจะหาวิธีการใดตอบโต้หากนักชกของตนถูกฝ่ายไทยโกงในวันนี้"

"ผมเชื่อว่าชาติอื่นๆ คงเห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับการตัดสินรอบชิงชนะเลิศของมวยหญิงเมื่อวานนี้ และจะไม่มีบทลงโทษใดๆ ทั้งสิ้นต่อนักมวย เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เนื่องจากนี่เป็นการตัดสินใจของนักมวยที่จะไม่ขึ้นชกโดยไม่ส่งสัญญาณใดๆ ให้ทราบก่อน ไม่มีการลงโทษแน่นอน เรามาที่นี่เพื่อสปิริตและมิตรภาพ มาแข่งขัน เพียงแต่ทีมฟิลิปปินส์แค่ไม่มีแรงใจที่จะแข่งขันต่อ อย่างไรก็ตาม ผมยังติดใจกับผลการตัดสินของทีมหญิงอยู่ และยืนยันว่าจะไม่มีการยื่นจดหมายประท้วงไปยังสหพันธ์ซีเกมส์อย่างแน่นอน การกระทำของทีมฟิลิปปินส์เป็นไปตามเกม แค่หวังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบการตัดสินให้ยุติธรรมมากขึ้น" นายโลเปซกล่าว

ส่วนรายละเอียด ข่าวที่ทีมมวยฟิลิปปืนส์ประท้วงเจ้าภาพไทยในซีเกมส์ครั้งที่ 24 ก็ไปอ่านตามลิงค์ข้างล่างครับ

คลิกอ่านรายละเอียดข่าวที่นี่

-------------------------


เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ปี 1998 นักชกไทยเจ้าภาพกวาดเหรียญทองเป็นกอบเป็นกำ

ครั้งสุดท้ายที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ ก็คือ ในปี 1998 ซึ่งปีนั้นไทยเราได้เหรียญทองจากมวยสากลสมัครเล่นชายทั้งหมดถึง 5 เหรียญทอง ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ทัพนักชกไทยในเอเชียนเกมส์

นักมวยไทย ได้เหรียญทองมากที่สุด คือ กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 เมื่อ ค.ศ.1998/พ.ศ.2541 โดยได้มาถึง 5 เหรียญทอง ไม่เคยมีเอเชียนเกมส์ครั้งใดที่ไทยจะได้เหรียญทองมากขนาดนี้ โดยได้จาก

สุบรรณ พันโนน รุ่น 48 กก.,
ประมวลศักดิ์ โพธิ์สุวรรณ รุ่น 51 กก.,
สมรักษ์ คำสิงห์ รุ่น 57 กก.,
พงษ์สิทธิ์ เวียงวิเศษ รุ่น 60 กก. และ
ภาคภูมิ แจ้งโพธิ์นาค รุ่น 67 กก

เวลาประเทศไทยเป็นเจ้าภาพทั้งกีฬาซีเกมส์ หรือ เอเชียนเกมส์ ทีไร นักชกไทยจะเก่งแบบผิดหูผิดตาเลยครับ เพราะจะกวาดเหรียญทองให้คนไทยได้ชื่นใจสุด ๆ

โดยเฉพาะในเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 ปี 1998 เนี่ย ไทยเราทำเหรียญทองจากมวยสากลสมัครเล่นชาย จำนวนมากเท่ากับเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพในปูซานเกมส์ และอินชอนเกมส์ รวมกันเลยนะครับ

บางกอกเกมส์ 1998 เจ้าภาพไทยได้เหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น 5 เหรียญทอง
ปูซานเกมส์ + อินชอน เกมส์ เจ้าภาพเกาหลีใต้ได้เหรียญทองมวยสมัครเล่น 2+3 = 5 เหรียญทอง

ไทยเรานี่เก่งมวยสมัครเล่นตอนเป็นเจ้าภาพจริงๆ เลยนะครับ เก่งกว่าตอนเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพเยอะ เลยนะครับ

ฮ่าฮ่า 55555555555555555555555555555

"ถูกโกงกีฬาคนไทยยอมรับไม่ได้ แต่ถ้าโกงแล้วแบ่งให้ คนไทยเสือกรับได้"

ในขณะที่

คนเกาหลีใต้โกงกีฬาชาติอื่นได้ แต่ถ้านักการเมืองเกาหลีใต้โกงชาติ คนเกาหลีเอาตาย !!


คลิกอ่าน วุฒิชัย มาสุข เกือบแพ้ - สายลม อาดี เกือบชนะ




รวมคลิป Son Yeon Jae สาวสวยเหรียญทองยิมนาสติกลีลา เอเชียนเกมส์ 2014






เป็นไปตามคาดหมาย กับสาวสวยยิมนาสติกลีลาของเกาหลีใต้ Son Yeon Jae คว้าเหรีญทองยิมนาสติกลีลา ในอินชอนเกมส์ 2014 ด้วยคะแนนรวม 71.699 คะแนน

ซึ่งข่าวการคว้าเหรียญทองของสาวน้อย ซอน ยอน แจ ขึ้นหน้า 1 สื่อเกาหลีใต้ทุกฉบับกลบข่าวทีมฟุตบอลชายเกาหลีใต้คว้าเหรียญทองไปจนหมด

แถมยอดขายตั๋วเข้าชมยิมนาสติกลีลา ครั้งนี้ขายดีหมดเกลี้ยงในพริบตา เพราะชาวเกาหลีใต้อยากจะมาดูสาวสวยคนนี้มากที่สุด





คลิปยิมนาสติกลีลา ซอน ยอน แจ ประเภทบอล เอเชียนเกมส์ 2014






คลิปยิมนาสติกลีลา ซอน ยอน แจ ประเภทห่วง เอเชียนเกมส์ 2014







คลิปยิมนาสติกลีลา ซอน ยอน แจ ประเภทริบบิ้น เอเชียนเกมส์ 2014







วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557

วุฒิชัย มาสุข เกือบแพ้ - สายลม อาดี เกือบชนะ






ขอแสดงความยินดีกับ วุฒิชัย มาสุข นักชกทีมชาติไทยได้เหรียญทองเหรียญเดียวให้กับทีมมวยสากลสมัครเล่นของไทย ในเอเชียนเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้

คลิปการชกของวุฒิชัย มาดี ในรอบชิงเหรียญทอง


จากผลการชกของวุฒิชัย มาสุข กับนักชกเกาหลีใต้ ในรอบชิงเหรียญทอง ผลคะแนนปรากฏว่า

กรรมการจากอัลจีเรีย ให้เสมอกัน 28:28
กรรมการโปแลนด์ ให้เสมอกัน 28:28
กรรมการจากไอร์แลนด์ ให้เกาหลีใต้ชนะ 29:27

จากผลคะแนนขั้นต้นกรรมการให้เกาหลีใต้ชนะ 1 เสียง ให้เสมอกัน 2 เสียง

ผลการชกของคู่นี้จึงเท่ากับ เสมอกัน !!

ดังนั้น จึงให้กรรมการที่ให้เสมอกันทั้งสองคน ช่วยโหวตอีกครั้งว่า จะให้ใครชนะ สุดท้ายกรรมการอัลจีเรียและโปแลนด์ให้วุฒิชัยชนะทั้ง 2 เสียง

(ถ้ากรรมการ 2คนที่ให้เสมอไม่กลับคำตัดสิน ก็จะต้องไปดูคะแนนดิบในกรรมการทั้งหมด 5 คน)

ผลการแข่งขันจึงเท่ากับ วุฒิชัย จึงชนะไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ 2:1 เสียง



-----------------


ทูลกระหม่อมหญิงฯ อุบลรัตน์ เสด็จมาทอดพระเนตรและให้กำลังใจวุฒิชัย มาสุข

บทความนี้ผมไม่มีอะไรมาก อยากจะวิคราะห์ให้เห็นว่า ฟอร์มการชกของวุฒิชัย มาสุข ต่อยกับนักชกเกาหลีใต้คนนี้

นักชกเกาหลีใต้คนนี้ก็ถือว่าต่อยดี ต่อยใช้ได้พอสมควร จนคะแนนชั้นแรกมีกรรมการ 1 คนให้เกาหลีใต้ชนะวุฒิชัย

หากเปรียบเทียบการชกของวุฒิชัย มาสุข กับ สายลม อาดี แล้ว ผมมองว่า วุฒิชัย ฟอร์มการชกดีกว่า เหนือกว่าสายลม อาดี อย่างมาก

ขนาดวุฒิชัย มาสุข ต่อยดีขนาดนี้ยังเกือบแพ้

แล้วสายลม อาดี ต่อยด้วยฟอร์มการชกแบบนั้น จึงทำได้แค่เพียงเกือบชนะเท่านั้นแหละครับ

ก็ขนาดผมยังมองว่า สายลม อาดี ต่อยยังไม่ดีเท่าไหร่คะแนนหมัดก็เท่า ๆ กับนักชกเกาหลีใต้ จึงไม่แปลกหรอกครับที่กรรมการตัดสินในคู่สายลม อาดี จะให้สายลม แพ้นักชกเกาหลีใต้ จริงไหมครับ ?

ผมไม่อวยสายลม อาดี เพราะผมมองว่า ถ้าฟอร์มการต่อยของสายลม อาดี ยังทำได้แค่นี้ ก็ยังไม่ได้ดีไปกว่าตอนที่ตกรอบแรกโอลิมปิกที่ลอนดอนเลยครับ

เข้าใจนะ !! ผมอยากให้สายลม พัฒนาฝีมือการชกให้มากกว่าที่เป็นอยู่อย่างก้าวกระโดด เพราะโอลิมปิคมีแต่นักชกระดับพระกาฬเสือ สิงห์ กระทิง ยิ่งลักษณ์ทั้งสิ้น

ถ้าสายลม อาดี ไม่พัฒนาฝีมือการชกแบบก้าวกระโดด ก็คงไม่ได้เหรียญในโอลิมปิคที่บราซิลหรอกครับ


วุฒิชัย มาสุข ก้มกราบทูลกระหม่อมหญิงฯ อุบลรัตน์



คลิกอ่าน วิเคราะห์ สายลม อาดี แพ้เพราะโดนโกงจริงหรือ ?





วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เมื่อนักชกสาวอินเดียเชือดนิ่ม ๆ หักหน้าเจ้าภาพเกาหลีใต้อย่างสะใจ







วันนี้ มวยหญิง นักชกอินเดีย ไม่ยอมให้คล้องเหรียญทองแดงให้เธอ แค่รับเหรียญไว้ในมือ หลังจากนั้นเธอก็เดินเอาเหรียญทองแดงเหรียญนั้น ไปคล้องให้นักชกเกาหลีใต้แทน

เพราะเธอไม่ยอมรับผลการตัดสินในรอบรองชนะเลิศ ที่เธอแพ้นักชกเกาหลีใต้

เธอพยายามให้ทีมอินเดียประท้วง แต่ทีมอินเดียไม่ยอมประท้วงให้ เธอจึงนำเงินส่วนตัวของเธอ 500 เหรียญ เพื่อไปทำเรื่องยื่นประท้วงไอบ้าเอง

ดูคลิปครับ สุดยอดเลย !!


มวยสากลสมัครเล่นหญิง รุ่นไลท์เวท 57-60 กิโลกรัมหญิง มีการรับเหรียญในวันนี้ (1 ต.ค.2557) แต่ นักชกสาวจากอินเดีย สาริตา เดวี ซึ่งได้เหรียญทองแดง หลังจากแพ้ จีนา ปาร์ค นักชกเจ้าภาพในรอบรองชนะเลิศ 0-3 เสียง โดยกรรมการทั้ง 3 คน ให้ จีนา ปาร์ค ชนะไป 39-37 ทั้ง 3 คน ซึ่ง สาริตา เดวี 

ระหว่างพิธีรับเหรียญเธอร้องไห้ และไม่ยอมให้ผู้มอบเหรียญคล้องคอ ทำเพียงรับมาถือไว้ ก่อนนำไปคล้องคอให้กับนักชกเกาหลีใต้ เจ้าภาพ เพื่อเป็นการแสดงว่า เธอไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินในรอบรองชนะเลิศ ที่ต้องแพ้นักชกเจ้าภาพ จนหมดสิทธิ์เข้าชิงชนะเลิศ


ผมว่า กรณีนักชกสาวอินเดียคนนี้ วิธีการประท้วงของเธอ ชั่งได้ใจเหลือเกิน โดยไม่ต้องมีคนอินเดียไปตามด่าเกาหลีใต้ในเพจอินชอนเกมส์นับหมื่นความเห็น แต่กลับสร้างความอับอายให้กับเจ้าภาพเกาหลีใต้แบบสุด ๆ

ซึ่งถ้าเกาหลีใต้ไม่อายกับกรณีนี้ ก็ต้องยอมให้เกาหลีใต้เขาแล้วล่ะครับว่า เหรียญทองโกงกีฬายอดเยี่ยมต้องยกให้เกาหลีใต้เขาไป


ดูคลิปการชกของ นักชกอินเดีย กับ นักชกเกาหลีใต้ ในรอบรองชนะเลิศ ครับ

Sarita Devi Laishram vs Ji Na Park (semifinal) 30 September, 2014 Asian Games Korean


คู่นี้ผมก็ว่า นักชกสาวอินเดีย ชนะนักชกเกาหลีใต้ อย่างชัดเจนครับ ในแต่ละยกนักชกสาวอินเดียชกเข้าใบหน้านักชกเกาหลีใต้อย่างจัง ๆ ชัดเจน

สำหรับคู่นี้ เกาหลีใต้โกงแน่นอน 

ดูคะแนน กรรมการ 3 คนที่ให้คะแนนนักชกอินเดียแพ้ทั้ง 3 เสียง มีกรรมการจากตรุกี อิตาลี และโปแลนด์



ล่าสุด น้องไบรท์ ที่ไปเที่ยวเกาหลีใต้กับสรยุทธ ได้รายงานข่าวว่า ไม่มีข่าวนักชกสาวอินเดียประท้วงในสื่อเกาหลีใต้เลย

นั้นก็หมายความว่า สื่อเกาหลีใต้ช่วยปกปิดข่าว ไม่ให้คนเกาหลีใต้ได้รับรู้ถึงความจริงว่า ตอนนี้คนทั่วโลกเขาด่าการเกาหลีใต้ขี้โกงขนาดไหน !!

------------------------

ข่าวจากเดลินิวส์

สาริตา เทวี นักมวยหญิงทีมชาติอินเดีย สร้างความฮือฮาในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อเธอปฏิเสธที่จะรับเหรียญทองแดง ในการแข่งขันชกมวยหญิง รุ่นไลต์เวต 60 กิโลกรัม เมื่อวันพุธที่ 1 ต.ค. เพื่อประท้วงผลการแข่งขัน ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งเธอแพ้ต่อ จีนา ปาร์ค นักชกเจ้าภาพ แบบขาดลอย ทั้ง ๆ ที่ชกได้เหนือกว่าตลอดทุกยก

เทวี ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของแชมป์โลก และ แชมป์เอเชีย ในรุ่นดังกล่าว อีกทั้งยังเพิ่งได้เหรียญเงิน ในกีฬาเครือจักรภพ หรือ คอมมอนเวลธ์เกมส์ ได้ยื่นประท้วงต่อผลการตัดสิน หลังพบกับความพ่ายแพ้แบบค้านสายตา แต่ทางโอลิมปิกของอินเดียกลับไม่สนับสนุนเธอ และมีปฏิกิริยานิ่งเฉย ทำให้ เทวี และสามี ต้องเดินเรื่องเอง ด้วยการหยิบยืมเงินโค้ช รวมถึงนักข่าวหลายคนจนได้ครบ 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16,000 บาท ตามกฏที่สหพันธ์มวยนานาชาติ หรือ ไอบ้า ได้กำหนดเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อยื่นเรื่องประท้วงไป ทางไอบ้ากลับตอบกลับมาว่าจะไม่รับเรื่องอีกทั้งจะยังไม่คืนเงินค่าประท้วงให้แก่เธออีกด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นักชกสาวใจเด็ดจากแดนภารตะตัดสินใจไม่รับเหรียญทองแดงทั้งน้ำตา ในขณะขึ้นโพเดี้ยม ซึ่งผู้มอบคือ นพ.วารินทร์ ตัณฑ์ศุภศิริ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่่งประเทศไทย เป็นผู้มอบ แต่ สาริตา เทวี โบกมือปฏิเสธ โดยเพียงแค่รับมาถือไว้เท่านั้น

และเมื่อมีการมอบเหรียญครบทุกคนแล้ว สาริตาได้เดินไปจับมือแสดงความยินดีกับผู้ได้เหรียญทุกคน รวมทั้ง จีนา ปาร์ค ด้วย พร้อมกับเอาเหรียญทองแดงที่เธอได้คล้องคอให้กับ จีนา ปาร์ค และวางช่อดอกไม้ไว้กับโพเดี้ยม หลังจากนั้นนักชกสาวแดนโสมได้เดินเอาเหรียญมาคืน แต่ สาริตา เทวี ก็ปฏิเสธที่จะรับเช่นเดิม ทำให้ จีนา ปาร์ค ตัดสินวางเหรียญไว้กับโพเดี้ยม

อย่างไรก็ตาม สาริตา เทวี ไม่ได้มีปัญหากับ จีน่า ปาร์ค ที่ได้เหรียญเงินแต่อย่างใด และยังกอดแสดงความยินดีกับเพื่อนนักชกสาวชาวโสมขาวตามปกติ.

-----------------------

อึ้ง คนไทยเชียร์บอลเกาหลีเหนือ !!

รอบชิงเหรียญทองฟุตบอลชาย คนเกาหลีใต้ทั้งประเทศจะต้องสำนึกว่า นิสัยคนไทยแท้จริงนั้นสุดยอดเพียงใด

เพราะถึงคนไทยจำนวนมากจะเป็นติ่งเกาหลีใต้ แต่ถ้าเรื่องบอลชิงเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ คนไทยจะเทใจไปเชียร์เกาหลีเหนือแทน

นิสัยคนไทยนั้นยากแท้หยั่งถึง แปรผันไม่มีสิ้นสุดเพียงใด




รัฐบาลเกาหลีใต้ อุตส่าหฺสร้างกระแส K ป๊อป และ ซีรีย์เกาหลีฟีเวอร์มาร่วม 10 ปี จะมาพังเพราะอินชอนเกมส์แท้ ๆ